ปูตินสั่งเตรียม 'ตอบโต้ให้เท่ากัน' กรณีสหรัฐฯ ทดสอบขีปนาวุธระยะยิงกว่า 500 กม.
.
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีคำสั่งไปยังรัฐบาลให้วางแผนมาตรการต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อตอบโต้กรณีที่สหรัฐฯ ทดสอบขีปนาวุธซึ่งเคยถูกห้ามตามสนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF Treaty)
.
"ผมมีคำสั่งไปยังกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้วิเคราะห์ระดับของภัยคุกคามจากการกระทำของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเกิดต่อประเทศของเรา และให้มีมาตรการรอบด้านเพื่อเตรียมพร้อมตอบโต้ในระดับที่เท่าเทียมกัน" ปูตินกล่าวในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
.
"ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ยังเปิดกว้างต่อการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างเท่าเทียมและสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเสริมสร้างความความมั่นคงนานาชาติ" ปูตินกล่าวเสริม
.
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาดำเนินการทดสอบขีปนาวุธร่อนจากภาคพื้นดิน ซึ่งพุ่งเข้าเป้าที่ระยะไกลมากกว่า 500 กิโลเมตร
.
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลางถูกล้มเลิกไปเมื่อวันที่ 2 ส.ค. สืบเนื่องจากสหรัฐฯ และรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงการควบคุมอาวุธดังกล่าว หลังกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ามีการละเมิดข้อตกลง
.
สนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลางได้รับการลงนามร่วมกันระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลรัสเซียเมื่อปี 1987 โดยกำหนดว่าห้ามสหรัฐฯ และรัสเซียครอบครองหรือพัฒนาขีปนาวุธภาคพื้นดินที่มีระยะยิงตั้งแต่ 500-5,500 กิโลเมตร
.
ปูตินระบุว่าการทดสอบของสหรัฐฯ เกิดขึ้นเพียง 16 วันหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นฝ่ายยุติสัญญา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า "สหรัฐฯ ข้องแวะกับการสร้างอาวุธที่สนธิสัญญาฯ ห้ามไว้มาเป็นเวลานานแล้ว"
.
ปูตินยังกล่าวย้อนไปว่าก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยโฆษณาชวนเชื่อว่ารัสเซียไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาฯ "วัตถุประสงค์เดียวของการกระทำนั้นก็คือเพื่อปกปิดสิ่งที่วอชิงตันละเมิดสนธิสัญญาฯ และเจตนาของสหรัฐฯ ที่ต้องการจะถอนตัวจากสนธิสัญญาฯ"
.
"แผนการที่แท้จริงของวอชิงตันคือต้องการจะส่งขีปนาวุธที่ก่อนหน้านี้เคยถูกห้ามไว้ไปติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์พื้นฐานของรัสเซีย" ปูตินกล่าว
.
ปูตินระบุว่า รัสเซียไม่เคยต้องการ ไม่ต้องการ และจะไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับการแข่งขันทางอาวุธกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความฟุ่มเฟือยและเป็นภยันตราย พร้อมเสริมว่าอย่างไรก็ดี รัสเซียถูกบีบและถูกบังคับให้ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชน
.
Cr:xinhuathai