Full time trader : อาชีพเทรดเดอร์

     เทรดเดอร์ ที่ ยังชีพ ด้วยการเทรดอย่างเดียว จะเป็นไปได้เสมอ ถ้าตัวนักเทรดเองมีความพร้อม การเข้าสู่อาชีพเทรดเดอร์ มีปัจจัยสำคัญหลายขั้นตอนมาก และมีผู้คนมากมาย หลายหลายประเภท หลากหลายสาขาอาชีพ(หลัก) หลากหลายพื้นฐานชีวิต ที่แตกต่างกัน ที่อยากจะเข้าสู่ อาชีพเทรดเดอร์ โดยมีตั้งแต่ นักศึกษา, นักบิน, หมอ, ครู, วิศวะ, พนักงานบริษัท, แม่บ้าน, คนค้าขาย, คนทำไร่, ทำสวนผลไม้ ฯลฯ จะด้วยการรับรู้มาว่า เป็นงานที่ง่าย สบาย เทรดไปเที่ยวไป เป็นอิสระ ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร วันๆ นั่งหน้าจอคอม หรือ มือถือดูกราฟ วิ่งขึ้น เข้าออเดอร์ Buy พอกราฟ วิ่งลง เข้าออเดอร์ Sell (คิดง่ายดี) ปัจจัยต้นๆ ก่อนจะตัดสินใจเข้าสู่ อาชีพเทรดเดอร์  มีมากมายแต่ มีสองสิ่งที่จะขอกล่าวถึงในบทนี้ คือ นักเทรดจะต้องมี เงินและเวลา  ถ้านักเทรดขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากสองสิ่งนี้ คงไม่ต้องหวังว่าอยากจะเป็นเทรดเดอร์อาชีพ เลย 





     ขั้นแรก เริ่มต้นนักเทรดต้องมีเงินก่อน  เงินในที่นี้ ไม่ได้แปลว่าเงินทุนในการเปิดพอร์ท แต่เป็นเงินที่นักเทรดมีสำหรับไว้ใช้จ่ายในรายวัน รายเดือนหรือแม้แต่ในรายปี  จะต้องไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน (เงินเย็น)  เช่น มีรายได้จากเงินเดือน รายได้จากค่าเช่าบ้าน รายได้จากค่าคอมมิสชั่น รายได้จากค่าสอนหนังสือ สอนความรู้ ทักษะ ความชำนาญ ต่างๆ หรือรายได้จากส่วนอื่นๆ เป็นต้น รายได้ทางไหน อะไรก็ได้ที่ ไม่ได้ไปขอยืมใคร สร้างความเดือนร้อนให้ตัวเอง หรือคนรอบข้าง ถ้ามัวแต่มานั่งฝึกที่จะเทรด แต่ไม่มีรายได้ หรือยังต้องเลี้ยงดู พ่อแม่ อยู่ทุกวันนี้ อันนี้เป็นเทรดเดอร์อาชีพ ไม่ได้ เพราะมันจะมีความกดดันตัวเองมาก อาจถึงขั้นไม่มีสมาธิในการเทรด เลยทีเดียว

     ขั้นสอง เรื่องเวลา  อันนี้สำคัญ เพราะยิ่ง นักเทรดมือใหม่ทุ่มเวลาให้กับตัวเองมากเท่าไหร่ หมายถึง นักเทรดลงทุนเวลาในการที่จะฝึกฝนให้ตัวเองเป็นเทรดเดอร์อาชีพ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นเท่านั้น ใน 1 วันมี 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 8 ชั่วโมงนอน, 8 ชั่วโมงทำงาน เหลืออีก 8 ชั่วโมง จะทำอย่างไรให้ 8 ชั่วโมงนี้มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับตัว นักเทรดเอง หลายคนยังมีปัญหาเรื่องการบริหาร เวลา แบบนี้จะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพไม่ได้


     เรื่องของเวลา  นักเทรดต้อง พยายามมองเป้าหมายให้ได้เป็น สามระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว กล่าวคือ

1. ระยะสั้น นักเทรดควร จะฝึกเทรดไปเรื่อยๆ ไปจนกว่าจะเกิดความสม่ำเสมอ
2. ระยะกลาง นักเทรด เริ่มที่จะมีเป้าใหม่ของวันหรือของสัปดาห์มากขึ้น เช่น 10% ของ พอร์ตต้องทำให้ได้ ทุกวัน
3. ระยะยาว คือ อีกสองสามปีข้างหน้า จะออกมาทำอาชีพเทรดเดอร์เต็มตัว เพราะถึงตอนนั้น นักเทรดมักมีความสม่ำเสมอในการเทรด มีกำลังใจจากเป้าระยะสั้น ซึ่งส่งผลให้ พอร์ตที่นักเทรดมีอยู่แล้วนั้นเริ่มใหญ่ขึ้น

     เรื่องของเงิน  เงินจำนวนเท่าไหร่? เท่าไหร่ถึงจะพอและอยู่ในความเสี่ยงต่ำในการเทรดเป็นอาชีพ เรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับว่านักเทรดอยากมีรายได้ประมาณเท่าไหร่ต่อเดือน หรือต่อช่วงเวลาที่ นักเทรดกำหนด อาจจะกำหนดเวลาใน 1-2 ปีนี้ ต้องการมีรายได้ เท่าไหร่ก็ว่าไป เช่น ถ้าอยากมีเดือนละ $1,000 นักเทรด อาจต้องมีทุน $2,000-3,000 แต่สมมุติว่านักเทรดมีทุน $500 นักเทรดอาจต้องหาเงินมาจากรายได้หลักหรือเทรดที่แผนระยะกลาง ให้มีเงินในพอร์ตมากพอถึง จำนวนที่นักเทรดต้องการ (มันเป็นแผนระยะยาวพ่วงไปด้วย)

     ช่วงแรกของฝึก ถ้านักเทรดหน้าใหม่ จะพยายามเข้าไปในกลุ่มใดๆ ก็ตาม เพื่อที่จะหาวิธีที่จะเทรดแบบ รวยข้ามคืน หรือ รวยมาก มาก (เพราะได้ยินมาว่า มันง่ายเหมือนที่กล่าวไปแล้วข้างต้น) อาจเป็นการเข้าใจผิดอย่างแรง เพราะแต่ละกลุ่มที่นักเทรดเข้าไปนั้น จะต้องใช้เวลาในการฝึกนาน ถึง นานมาก เว้นเสียแต่ นักเทรดหน้าใหม่ หลงไปเข้ากลุ่มที่ มีพื้นฐานในการล่อลวงหรือ หลอกลวงอยู่แล้ว กลุ่มนั้นๆ มักโชว์ยอด โชว์พอร์ตที่ มีจำนวนเงินเยอะมาก มาก เพื่อล่อให้ นักเทรดหน้าใหม่ ซึ่งอาจจะยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ใดๆ ได้เห็น และ ตาโต  โดยปรกติมนุษย์ทุกคนจะมีความโลภอยู่ ภายในตัว ยิ่งถ้าเห็น Indicator เทพๆ ระบบขั้นเซียนๆ จากกลุ่มหลอกลวง ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะคิดว่า การเทรด Forex เป็นเรื่องง่าย แค่เปิด พอร์ต ใช้เครื่องมือ EA ของกลุ่มเขา ก็ สามารถทำเงินได้ เหมือนที่เขาโชว์ การคิดว่าจะหาระบบสำเร็จรูป แบบบะหมี่มาม่า แกะซอง ใส่น้ำร้อน ต้มกินได้เลยนั้น บอกได้เลยว่า ยาก!!   


     เรื่องของการฝึกนั้นนักเทรดต้องฝึกตั้งแต่การรอให้เป็น การคัทให้เป็น และสำคัญที่สุดคือ การบริหารจัดการเงินในมือ Money Management ที่นักเทรดทุกคนต้องมี สมมุติว่ามีทุน $1,000 แต่ใช้ lot 1.0 แล้วถ้ามันวิ่งไปผิดทางที่ 50 pips. พอร์ทจะเสียหายไปทันที 50% นั่นแปลว่านักเทรดอาจจะต้องเสียเวลาเทรด 100% เพื่อที่จะเอา 50% ที่เสียไปคืนกลับมา และ มันมักจะไม่มีทางที่จะได้กลับมา เพราะนักเทรดมักจะจิตตก เริ่มหาทางเลือกใหม่ เครื่องมือใหม่ หรือหาซิก หรือสารพัดอย่างที่คิดว่าจะทำให้พอร์ตมีเงินกลับมาได้ บวกกับนักเทรดหลายคนมีความโลภอยากได้คืน มีความมั่นใจปะปนกับความสับสน ยิ่งเทรด ยิ่งพัง   




     Keyword สำคัญของการที่จะเทรดเป็นอาชีพได้ คือ การฝึกอย่างสม่ำเสมอ และการมีวินัยในการฝึก ถ้านักเทรดไม่ฝึก นักเทรดจะไม่มีทางรู้ว่า ความสม่ำเสมอคืออะไร การกำไรอย่างสม่ำเสมอเพราะอะไร? การขาดทุนอย่างสม่ำเสมอเพราะอะไร? ที่แย่ไปกว่านั้นคือ นักเทรดที่กำลังหลอกตัวเองว่าเทรดได้แล้ว แล้วก็จะขาดสติในอีกไม่นาน แล้วก็จะวนกลับมาที่เดิมใหม่ คือเริ่มต้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก 

อย่างลืมว่า!! นอกจากเรื่องเงิน เรื่องเวลา แล้ว อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การฝึกอย่างสม่ำเสมอ และการมีวินัยในการฝึก สำคัญมาก มาก  ็Hip**