การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเทรดสามารถช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการทำกำไรได้ การกำหนดเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรด จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการเทรดอย่างต่อเนื่องได้ง่าย เพราะการกำหนดเป้าหมายในการเทรดจะช่วยให้ท่านยึดมั่นกับแผนการเทรดท่านได้ตลอดเวลา เลยทำให้ท่านเทรดตามเงื่อนไขของแผนการเทรดได้ดี เป้าหมายจะเป็นการกำหนดขบวนการ เน้นทำตามเป้าหมายในการเทรด มากกว่าผลลัพธ์ที่ออกมา การกำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงแต่ละการเปิดเทรด หรือการกำหนดเงื่อนไขการเทรดของแต่ละการเปิดเทรดเป็นต้น

เป้าหมายในการเทรด ไม่ควรเป็นอย่างไร

การตั้งเป้าหมายที่เกี่ยวกับการเงิน ไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับการตั้งเป้าหมายในการเทรดเท่าไร เพราะว่าตลาดเป็นไดนามิคสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด และการวิ่งของตลาดไม่ได้วิ่งเป็นส้นตรง แต่วิ่งเป็น Swing highs/lows แต่การเคลื่อนไปในทางเดียวกัน บางช่วงการเทรดอาจเข้ากับรูปแบบการเทรดของท่าน แต่บางช่วงก็ไม่เข้า การป้องกันหรือรักษาทุน คือสิ่งที่สำคัญกว่าการกำหนดเป้าหมายว่าจะได้เท่าไรแต่ละการเปิดเทรด เพราะการเทรดเป็นเรื่องความเป็นไปได้ ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นการตั้งเป้าหมายไม่ควรเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินเป็นหลัก แต่การตั้งเป้าหมายควรเป็นเป้าหมายที่เน้นขบวนการเพื่อรายละเอียดที่ชัดเจน

การกำหนดเป้าหมายที่เน้นขบวนการ


การกำหนดเป้าหมายแบบเน้นขบวนการ ต่างจากการกำหนดเป้าหมายแบบเน้นไปที่ผลลัพธ์ คือช่วยให้ท่านทำตามแผนการเทรดของท่านได้ง่าย ดังนั้นการสร้างเป้าหมายที่สนับสนุนแผนการเทรดของท่าน ก็จะช่วยให้ท่านใส่ใจรายละเอียดตลอด เลยจะทำให้ท่านเทรดได้ดีตามแผนการเทรดของท่านได้ วิธีการแรกกำหนดเป้าหมายแบบเป็นขบวนการ คือการกำหนดเงื่อนไขเข้ามาช่วยตัวอย่างคือ ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นฉันก็จะทำอย่างนี้ เช่น ถ้าราคาของ EURUSD เบรคแนวต้านด้วย Momentum และราคาปิดบนได้ พอราคาลงมาจุดที่เบรค ฉันค่อยจะเปิดเทรดตามทางที่ราคาเบรคแนวต้านขึ้นไป ตามแบบภาพด้านบน ท่านสามารถกำหนดเป้าหมายในการเทรดได้ถ้าราคาเบรคแนวต้าน ที่เรากำหนดแนวต้านเพราะราคาทดสอบหลายรอบ มองย้อนหลัง จนกว่าราคามาเบรคด้วย 2 แท่งเทียนแรงๆ Bullish ที่มี Body size มาก และราคาปิดบน แทบไม่มีหาง และเป็นไปทางเดียวกัน บอกถึง Momentum เมื่อ Trade setup ได้ตามเป้าหมายเช่นนี้ ถ้าราคาลงมาและเด้งขึ้น ค่อยจะเปิดเทรด ประเด็นที่จะบอก เรื่องของการตั้งเป้าหมายคือ การเปิดเทรด ราคาอาจไม่ขึ้นไปก็ได้ หรืออาจจะลงด้วยราคาสวนทางที่เปิดก็ได้ เพราะว่าการเปิดเทรดเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ แค่เราเทรดจากฝั่งทางที่เรามีเงื่อนไขกำหนดความเป็นไปได้ว่าน่าจะอยู่ทางที่เราเปิดเทรดมากกว่า จุดหลักการการกำหนดเป้าหมายเช่นนี้คือ ให้ท่านใส่ใจสิ่งที่ทำว่าถูกต้อง ได้เงื่อนไขตามที่วางแผนเอาไว้หรือเปล่า ถ้าท่านสามารถทำตามแผนการเทรดของท่านได้อย่างสม่ำเสมอ ผลการเทรดไม่ว่าจะเป็นอย่างไร บางออเดอร์อาจชนะ บางออเดอร์อาจเสีย แต่เป็นการเทรดที่ประสบความสำเร็จตามแผนการที่ท่านกำหนดในการเทรดได้ ถ้าท่านมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี และทำตามแผนการเทรดแบบนี้ได้ตลอด โอกาสที่จะทำกำไรได้ตลอดก็มีมากกว่าด้วย

การติดตามการตั้งเป้าหมายว่าท่านทำได้ตามที่ตั้งเป้าหรือเปล่า และการวัดความก้าวหน้าของท่านถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการใช้กลยุทธ์ในการเทรดอย่างมาก วิธีการที่ง่ายสุดว่าท่านทำตามการตั้งเป้าหมายได้หรือเปล่า ด้วยการกำหนด แผนการเทรด เช็คเงื่อนไขที่ท่านกำหนดสำหรับแผนการเทรด (trading checklist) จนเปิดเทรด ว่าท่านทำตามเป้าหมายได้หรือเปล่า นอกจากนั้น ถ้าท่านใช้การบันทึกการเทรด (trading journal) เข้ามาเสริมด้วย  เมื่อท่านศึกษาย้อนหลังท่านจะเห็นพัฒนาการเทรดท่านได้ชัด และเห็นความสำคัญของการตั้งเป้าหมายในการเทรด เพราะการติดตามการตั้งเป้าหมายและวัดความก้าวหน้านอกจากจะช่วยให้ท่านเทรดดีขึ้นเพราะท่านเทรดตามแผนการเทรดเป็นหลัก ยังช่วยให้ท่านเห็นจุดอ่อนของการเทรดของท่านด้วย 

การตั้งเป้าหมายการเทรดแต่ละการเทรดแบบเน้นขบวนการ สำคัญมากเพราะจะช่วยให้ท่านมี mindset ที่จะเทรดดีขึ้น แต่ถ้าเป็นการตั้งเป้าหมายแบบเน้นเรื่องของเงินเข้ามา แทนขบวนการในการเทรด เมื่อเปิดเทรดก็จะสร้างความกดดัน เพราะเทรดเพื่อให้ได้กำไรตามเป้าเป็นหลัก อาจเปิดเทรดมาก เปิดเทรดด้วยความประมาท  หรือเปิดเทรดแม้กับ Trade setup ที่ไม่ได้เงื่อนไขตามที่กำหนดไว้  แต่ถ้าให้ความสำคัญของขบวนการมากกว่าผลลัพธ์ ก็จะช่วยเพิ่มความสำเร็จในระยะยาวได้มากกว่าในการเทรด การเปิดเทรดควรมีแผนการเทรดที่ชัดเจน ที่บอกว่าจะเข้าเทรด ตรงไหน ออกเทรดตรงไหน จัดการความเสี่ยงอย่างไร และมีวิธีการไหนจัดการความเสี่ยงบ้าง เพราะการมีเป้าหมายในการเทรดในแผนการเทรดที่ชัดเจน จะช่วยให้ท่านมีความมั่นใจในการเทรด เมื่อเทรดด้วยความมั่นใจ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ และทำกำไรต่อเนื่องในการเทรดก็เกิดขึ้นได้ง่าย