กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

วิธีการใช้ Line charts ช่วยในการเทรดอย่างไรให้ได้กำไร

  • 0 replies
  • 986 views
วิธีการใช้ Line charts ช่วยในการเทรดอย่างไรให้ได้กำไร

รูปแบบชาร์ต Line Charts เป็น 1 ใน 3 รูปแบบที่มาพร้อมกับ Metatrader ที่เทรดเดอร์นิยมใช้กันมาก แต่หลายๆเทรดเดอร์ที่เน้นการเทรด price action ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เปิดเผยผ่านแท่งเทียน อาจมองข้ามความสำคัญของชาร์ตประเภทนี้ได้ และที่สำคัญชาร์ตประเภทนี้ยังช่วยกรองข้อมูลสำหรับการมองชาร์ตแบบ Candlesticks แบบง่ายๆ ด้วย

รูปแบบชาร์ต Line Charts


ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ารูปแบบชาร์ต ไม่ว่าจะเป็น Bar charts, Candlesticks หรือ Line charts นำเสนออย่างไร แต่ละช่วงเวลา ส่วนประกอบหลักๆ ประกอบด้วยราคา เปิด ราคาสูง ราคาต่ำ และราคาปิด หรือเรียกว่า OHLC (Open High Low Close)  ดูที่การนำเสนอแบบ Bar charts ก่อน แต่ละบาร์ประกอบด้วยราคาเปิด ที่ยื่นออกมาทางช้าย ราคาสูงสุดของบาร์ ราคาต่ำสุดของบาร์ และราคาปิดตอนหมดช่วงเวลาหรือ Period ข้อดีของชาร์ตแบบบาร์คือให้ท่านโฟกัสราคาเปิดและปิดได้ชัดเจน พร้อมทั้งเห็นขนาดบาร์ ที่บอกถึง Momentum และยังสามารถกำหนดสี เพื่อแยกว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด และราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดได้ง่าย มองมาเทียบชาร์ตประเภท Candlesticks จะเห็นว่ารูปแบบการนำเสนอแท่งเทียนแบบเดียวกันคือ ใช้ราคา Open, High, Low, และ Close เช่นเดียวกันกับ Bar charts แต่ที่ต่างออกไปคือ ท่านเห็นส่วนที่เป็น Body ของการนำเสนอแบบแท่งเทียนง่ายกว่าแบบแรก ข้อมูลที่ประกอบการสร้างชาร์ตไม่ต่างกันระหว่าง Bar charts และ Candlesticks ต่างกันที่ส่วนของ Body ที่นำเสนอผ่าน Candlesticks จะเห็นชัดเจนกว่า ส่วนรูปแบบชาร์ตแบบสุดท้ายคือ Line charts ที่จะกล่าวในที่นี้ ใช้ข้อมูลแค่ราคาปิดหรือ Close เท่านั้นสำหรับแต่ละช่วงเวลาตอนจบ

OHLC (Open High Low Close) บอกอะไรแต่ละช่วงเวลา


ราคา OHLC  ที่เกิดขึ้นแต่ละช่วงเวลาที่จบไปก็จะบอกว่า maket sentiemnt ที่ผ่านมาช่วงเวลานั้นๆ เป็นอย่างไร ราคาสูง High และราคาต่ำ Low ก็จะช่วยบอกว่าได้มีการเทรดเกิดขึ้นที่ช่วงราคาไหนถึงไหน ในช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ราคาเปิด และราคาปิด บอกถึงผลความพยายามแต่ละช่วงเวลาว่าฝ่าย Sellers หรือ Buyers เป็นฝ่ายชนะ บอกถึงสถานะความกดดัน (trading pressure) ที่เกิดขึ้นด้วย   นอกจากการอ่านแต่ละช่วงเวลาแล้ว ก็จะอ่านช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนประกอบกันด้วย หรือเรียกว่าอ่านปริบท แท่งเทียนหรือบาร์ ก่อนจะเห็นความหมายของคำว่า Trading pressure ชัดเจน  ส่วนสำคัญสุดจะเห็นว่าอยู่ที่ราคา Close เพราะบอกว่าจบช่วงเวลานั้นๆ สุดท้ายฝ่ายไหนเป็นฝ่ายครองตลาด นั่นคือสิ่งที่รูปแบบชาร์ต Line charts นำมาเสนอเท่านั้น ดังนั้นจึงบอกได้ว่าราคาปิด หรือถ้าดูผ่านชาร์ตแบบ Line charts บอกถึงผลการตัดสินใจ หรือบอกถึงผลของความพยายามว่าฝ่ายไหนครองตลาด ยิ่งถ้าใช้ประกอบกับแนวรับ-แนวต้าน หรือพื้นที่ที่เคยเป็นร่องรอยเก่า ก็จะช่วยให้เรามั่นใจขึ้นว่า ความพยายามล่าสุดที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เลยทำให้ Line charts เป็นตัวช่วยกรองคุณภาพ trade setup ได้มากขึ้น

ผลความพยายามกับพื้นที่แนวรับ-แนวต้าน หรือเพื่อสร้างพื้นที่ใหม่



มาถึงการใช้ Line charts อย่างไรเมื่อเข้าใจว่าแต่ละชาร์ตนำเสนออย่างไรบ้าง เป็นการเปิด 2 ชาร์ต ด้านช้ายเป็น แท่งเทียนเพราะเราต้องการเห็นว่ามีการล่า stop orders ด้วยหางทียนหรือเปล่า เพราะการดู Line charts เราจะไม่เห็นส่วนนี้ แต่สิ่งที่เราได้จาก Line charts คือจะเห็นว่าหาพื้นที่ๆ เป็นแนวรับ-แนวต้านง่าย หรือที่จะสร้างแนวรับ-แนวต้านใหม่ได้ง่าย เพราะราคาปิดแต่ละช่วงเวลาบอกถึงผลของความพยายามแต่ละช่วงเวลาได้ชัดเจน ดูที่เส้นแนวรับที่เลข 1 ก่อน ก่อนที่ราคาจะเบรคลงมาจะเห็นว่าราคาได้ลงมาอีกรอบ แต่เด้งกลับขึ้นไปไม่สามารถเอาชนะ ราคากลับปิดก่อนที่ด้านบนบอกถึงความกดดันต่อเนื่อง เมื่อเราอ่านความหมายจากปริบทมากกว่า ช่วงเวลาหรือแท่งเทียนปัจจุบัน พอมองมาที่ Line charts เราจะเห็นพื้นที่พวกนี้ได้ง่ายและชัดเจน Line charts ช่วยกรองและให้เราเห็นพื้นที่ที่จะเทรดได้ง่าย และชาร์ตก็ดูง่ายเพราะไม่มีส่วนที่เป็นหางแท่งเทียนมาหลอก เลยช่วยให้เราหาพื้นที่เทรดได้ง่าย ถ้าเป็นการสร้างเทรนใหม่ เป็นการช่วยให้เราเห็นว่า แนวรับ-แนวต้านใหม่เกิดขึ้นตรงไหนได้ง่าย

ใช้ Line charts กรองแล้วใช้ price action ในการเข้าเทรด

แม้ว่า Line charts จะช่วยกรองการเคลื่อนไหวราคาได้อย่างดี และเห็นความพยายามที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ราคาเปิดเผยอย่างไรต่อแนวรับ-แตวต้าน หรือสร้างแนวรับ-แนวต้านหรือ supply/demand ใหม่ ช่วยให้เราหาพื้นที่ได้แม่นขึ้น แต่การเข้าใจ price action ประกอบกับตลาดทำงานอย่างไรด้วย จะทำให้เทรดมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจาก Line charts นำเสนอแค่ราคาปิดเท่านั้น สิ่งที่ขาดไปคือเราจะไม่เห็นช่วงราคามีการเคลื่อนไหวมากขนาดไหน นอกจากต่อเนื่องจากราคาปิดของช่วงเวลาก่อน เราจะไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่า stop hunt หรือ liquidity hunt เกิดขึ้นที่ชาร์ต แต่เห็นแค่ผลอย่างเดียว เลยทำให้ Line charts ช่วยในกรองพื้นที่เข้าเทรดหรือจะออกจาก S/R หรือ Supply/Demand ได้ง่ายและเร็ว จากภาพประกอบที่ 2 ด้านบน ที่เส้นเลข 1 ตรงที่วงกลมไว้ ส่วนที่เป็นหางแท่งเทียน หรือตรงที่เส้นเลข 3 ด้านล่าง มีการล่า stop orders เพื่อเรื่องของ liquidity สำหรับเข้าเทรด แต่เมื่อเรามองที่แท่งเทียน แล้วใช้การตีความ price action จากแท่งเทียนเข้าไปประกอบ เราก็จะเห็นว่าเปิดเทรดตอนไหนได้ง่าย ดังนั้นเราใช้ line charts กรองหรือช่วยกำหนดพื้นที่สำหรับเทรดเสริมจากแค่มองแท่งเทียนอย่างเดียว เพราะเราเห็นผลความพยายามหรือเรียกว่า decision point ที่เกิดขึ้นชัดเจน เลยทำให้เราหาพื้นที่เทรดได้ง่าย ส่วนการเข้าเทรดให้ใช้ price action เช่น หลักการ engulfing bar, pin bar หรือ 2 bar reversal ที่จุดต้องการเปิดเทรด ก็จะทำให้เราได้เห็นทั้งว่าจะเทรดที่ไหน และเข้าเทรดหรือออกเทรดเวลาไหน