Friday FOREX Takeaway : สรุปสถานการณ์ 13 มี.ค.63เหตุการณ์เด่นในสัปดาห์นี้ :1) ธนาคารกลางอังกฤษลดอัตราดอกเบี้ย BOE เป็นธนาคารกลางแห่งล่าสุดในกลุ่ม G10 ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยกระดับความรุนแรงขึ้น จนทำให้อังกฤษอาจต้องใช้มาตรการปิดเมืองในเร็วๆ นี้ โดยผู้ว่าการ BOE แถลงว่าพร้อมดำเนินการเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
2) สหรัฐฯ สั่งระงับการเดินทางสหรัฐฯ สั่งระงับการจัดงานอีเว้นต์ทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ หลังจาก ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกระดับการต่อสู้กับ COVID-19 โดยใช้มาตรการห้ามนักท่องเที่ยวจากยุโรป (ยกเว้นอังกฤษและไอร์แลนด์) เดินทางเข้าประเทศเป็นระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
3) ราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนัก และเปิดตลาดด้วยราคาติดลบ เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย ซึ่งฝ่ายหลังขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงลดกำลังการผลิตที่ทำไว้กับกลุ่ม OPEC ก่อนหน้านี้ และทำให้ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะตอบโต้ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตหากรัสเซียไม่ยอมรับข้อตกลงใหม่
4) ECB ประกาศใช้มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการปกป้องเศรษฐกิจไปเมื่อวานนี้ โดยไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอย่างที่หลายฝ่ายคาดหมาย แต่ใช้นโยบายให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารพาณิชย์และขยายการรับซื้อพันธบัตรรายเดือน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า ECB จะสามารถดำเนินนโยบายลักษณะนี้ต่อไปได้นานเท่าไร หากสถานการณ์ในอนาคตเลวร้ายลงกว่าเดิม
ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า :1) การประชุม FOMC ประจำเดือน มี.ค.63Fed มีกำหนดการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปโดยไม่ผ่านที่ประชุม ทำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจาก Fed อีกครั้ง โดยหลายฝ่ายคาดหวังให้มีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม และกลายเป็นแรงกดดันต่อ Fed ให้ดำเนินการรับมือกับปัญหาโดยเร็ว ซึ่งคาดกันว่า Fed จะแถลงชี้แจงความร้ายแรงของสถานการณ์เพื่อเป็นเหตุผลในการใช้มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ หากมีความจำเป็น
2) การประชุมของบอร์ดบริหาร BOJธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นก็มีกำหนดการประชุมในสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน โดยตลาดคาดหวังให้มีการออกนโยบายบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมา ในขณะที่ BOJ ได้ใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่แล้วในปัจจุบัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเน้นการใช้นโยบายรับซื้อหลักทรัพย์แทน อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามการประเมินสถานการณ์จาก BOJ ซึ่งยังคงมีศักยภาพในการรับมือกับปัญหาต่อไป
3) การแพร่ระบาดของ COVID-19สถานการณ์ยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนมีความเสี่ยงสูงและมีราคาเปิดตลาดติดลบ โดยธนาคารบางแห่งออกมาเตือนว่าหากสถานการณ์ยังเลวร้ายลง ก็อาจทำให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านที่ประชุม FOMC อีกครั้ง