OTP เปิดเผยรายงานว่า การปฏิรูปโครงสร้างภาษีฉบับ Senate bill จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.9 ในระยะ 10 ปีข้างหน้า
U.S. Treasury Office of Tax Policy (OTP) เปิดเผยรายงานว่า การปฏิรูปโครงสร้างภาษีฉบับ Senate bill จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวที่ร้อยละ 2.9 ในระยะ 10 ปีข้างหน้าจาก Baseline growth ที่ร้อยละ 2.2 หรือคิดเป็น Annual growth ที่สูงขึ้นที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่อยู่ในระดับสูงกว่าทั้งการคาดการณ์ของ Joint Committee on Taxation (JCT) และการประมาณการของนักเศรษฐศาตร์และองค์กรอิสระอื่นๆ
ในรายละเอียด U.S. Treasury คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 และ 2.8 ในปี 2018 และ 2019 ตามลำดับ และร้อยละ 3.0 ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังระบุว่า กว่าครึ่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจมาจากการปรับลดอัตราภาษี Corporate ขณะที่ส่วนที่เหลือมาจากด้าน Pass-through Business, Individual Taxation และนโยบายการปฏิรูปด้าน Regulation, Infrastructure และ Welfare
ทั้งนี้ OTP ประเมินต่อว่า รายได้ภาษีของภาครัฐจะปรับสูงขึ้นที่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้าภายใต้เศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราเร่งดังกล่าว หักล้างกับภาวะขาดดุลจากการปฏิรูปภาษีภายใต้ current law (ไม่รวมผลของ GDP growth ที่เพิ่มขึ้น) ที่ -1.5 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ดังนั้นร่างปฏิรูปภาษีฉบับ Senate bill จะส่งผลให้ภาครัฐเกินดุลสุทธิประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในระยะ 10 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี OTP ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดการคำนวนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจภายใต้อัตราภาษีใหม่แต่อย่างใด ทั้งนี้ นาย Chuck Schumer (Democrats Senate, Minority Leader) กล่าววิพากษ์วิจารณ์บทวิเคราะห์ของ OTP ว่าเป็นเพียงการแต่งตัวเลขที่ไม่มีหลักการของพรรค Republican เท่านั้น โดยภายใต้การปฏิรูปโครงสร้างภาษีที่เสนอนั้น สหรัฐฯ มีแนวโน้มเผชิญกับภาวะขาดดุลที่รุนแรงขึ้น รวมถึงนโยบายดังกล่าวไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
ที่มา Bank of Thailand Scholarship Students