« เมื่อ: 13, มีนาคม 2022, 07:17:46 PM »
ราคาทองคำไทย คำนวณอย่างไรให้ถูกตามหลัก
"สมาคมค้าทองคำไทย"
ท่านใดที่ชื่นชอบในการซื้อทองคำ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของทองรูปพรรณ หรือทองคำแท่ง จะซื้อมาไว้สำหรับเก็บสะสมก็ดี หรือสวมใส่เป็นเครื่องประดับสวยๆ งามๆ ก็ดีต้องห้ามพลาดกับบทความนี้เด็ดขาดครับ เพราะวันนี้เราจะมาแชร์ความรู้ดีๆ ที่บางท่านอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน
ทุกๆ ท่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าทำไมเมื่อเวลาเงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศไทยได้รับแรงหนุนให้ถีบตัวสูงขึ้น และตรงกันข้ามหากเงินบาทแข็งค่านั้นกลับส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศดำดิ่งลง แล้วเหตุใดทองคำถึงไม่มีมูลค่าที่ตายตัวเหมือนสินค้าใช้สอยต่างๆ ทั่วไป เดี๋ยวเรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยครับ
ปัจจัยทำให้ราคาทองคำขึ้นลง เป็นเพราะทองคำนั้นเปรียบเสมือนทรัพย์สินมีค่าเทียบเท่ากับพวกเงินตรา เมื่อสกุลเงินอ่อนค่าก็จะทำให้เหล่านักลงทุนย้ายเงินทุนที่มีไปซื้อทองคำแทนและส่งผลให้ราคาทองคำกระโดดสูงขึ้น แต่หากสกุลเงินแข็งค่านักลงทุนก็จะถอนเงินลงทุนในทองคำไปซื้อค่าเงินหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นแทน ส่งผลให้ราคาทองคำลดต่ำลงแบบที่เราเห็นบ่อยๆ ตามข่าว สื่อโทรทัศน์ หรือหน้าหนังสือพิมพ์นั่นเองครับ
ซึ่งราคาทองคำที่ขายในตลาดโลกมีความบริสุทธิ์ที่ระดับ 99.50% แต่ทองคำที่ขายกันในประเทศไทยบ้านเราส่วนใหญ่จะมีความบริสุทธิ์ที่ระดับ 96.50% ดังนั้นเมื่อเราได้รู้ราคาทองคำที่ซื้อขายในตลาดโลกแล้ว เราจึงต้องมีสูตรการคำนวณเพื่อหาราคาทองคำในประเทศไทยด้วย
โดยสูตรการคำนวณราคาทองคำไทย ตามสมาคมค้าทองคำเป็นดังนี้
👉🏻ราคาทองไทย = (Spot Gold + Premium) x 32.148 x ค่าเงินบาท x (.965 /65.6)
👉🏻และหากถอดสูตรคำนวณด้านบนให้สั้นลงจะได้ดังนี้ ราคาทองไทย = (Spot Gold + 2 ) x ค่าเงินบาท x 0.473
✨ทดสอบคำนวณราคาทองไทย = (1949.9 + 2 ) x 33.45 x 0.473 ราคาทองไทย = 30,882.67 บาท (ราคาขายออกทองคำแท่ง)
✨**หมายเหตุ 0.473 ได้มาจาก 32.148 x (.965/65.6) จะเท่ากับ 0.4729 และปัดทศนิยมเป็น 3 หลักจะได้ 0.473

ความหมายของตัวเลขในสูตร
• gold spot คือ การเทรดทองคำในตลาดโลก เป็นการเทรดกับทองคำจริงๆ ในตลาดโลก ซึ่งเป็นการซื้อขายกันจริงๆ เพียงแต่ว่าเมื่อเราซื้อแล้วจะไม่ได้รับออกมาเป็นทองคำแต่จะมาในรูปแบบของใบเอกสารสัญญาแทน
• premium คือ ต้นทุนในการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ จะมีค่าอยู่ระหว่าง 1-2 เหรียญ ปัจจุบันเหมือนว่าค่า premium จะถูกปรับให้เป็น 2 แล้ว
• 32.148 คือ น้ำหนักของทองคำ 1 กิโลกรัม เมื่อเทียบเป็นออนซ์ ซึ่งเป็นทองคำต่างประเทศชนิด 99.99%
• 0.965 คือ ทองคำในประเทศชนิด 96.5% คิดจาก 96.5/100
• 65.6 คือ น้ำหนักของทองคำชนิด 96.5% 1 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับน้ำหนัก 1 บาท

—— แล้วระหว่างทองคำแท่ง VS ทองคำรูปพรรณ ควรเลือกซื้อแบบไหนดี มาดูกันครับ ——
>> "ทองคำแท่ง" ที่นิยมซื้อเพื่อการลงทุน คือ ทองคำแท่ง 96.5% แต่ทองคำแท่ง 99.99% ก็ซื้อลงทุนได้ แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่นัก โดยขั้นต่ำที่ซื้อได้คือ มีตั้งแต่ 1 บาท, 2 บาท, 5 บาท, 10 บาท, ไปจนถึงทองคำแท่งละ 1 กิโลกรัมก็มีครับ
>> "ทองรูปพรรณ" มีความบริสุทธิ์ให้เลือก 2 แบบ คือ 96.5% และ 99.99% (แต่ 99.99% ไม่ได้รับความนิยม) ใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไลข้อมือ เป็นต้น ดังนั้นเวลาซื้อก็ต้องเสียค่ากำเหน็จ และเวลาขายก็จะถูกหักจึงไม่เหมาะกับการซื้อเพื่อการลงทุน แต่เหมาะกับการใส่เป็นเครื่องประดับพร้อมๆ ไปกับการออมในระยะยาวๆ มากกว่าครับ
ส่วนใหญ่ราคาซื้อขายกันตามร้านจำหน่ายทองคำจะอิงราคาประกาศของสมาคมค้าทองนั่นเอง
ขอบอกเลยว่าทองคำถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าจึงเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยในช่วงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ-ขายก็ขอแนะนำให้ศึกษาให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน จะได้คุ้มค่าแก่การลงทุนมากที่สุด และสุดท้ายเราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยครับ
สำหรับท่านใดที่ลองกดเครื่องคิดเลขคำนวนราคาทองคำไทย ตามสูตรด้านบนแล้วยังไม่ตรงสักที ลองเข้าไปอ่านสาเหตุที่ทำให้คำนวนแล้วไม่ตรงได้ที่นี่ครับ :
เหตุผลที่ "ทำไมคำนวนราคาทองคำไทยในช่วงสถานการณ์โควิด จึงไม่ตรงสักที" ??