สวัสดีครับ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา แอดจีนแดงได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานสัมนาที่จัดโดย HotForex มานะครับ หนึ่งในวิทยากรที่ไปให้ความรู้นั้นก็คือ อ.หยง ธำรงค์ชัย เอกอมรวงศ์ ซึ่งเทรดเดอร์หลายๆท่านก็น่าจะรู้จัก อ.หยง ท่านนี้กันเป็นอย่างดีนะครับ เนื่องจากท่าน อ.หยง นั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในวงการตลาดหุ้นไทยมากพอสมควรครับ ซึ่งแอดบอกเลยว่าใครไม่ได้ไปครั้งนี้ ถือว่าพลาดครับ เนื่องจากได้ทั้งความรู้ สนุกสนานฟังไม่เบื่อเลยครับ  โดยความรู้ที่ท่าน อ.หยง ให้ไปให้ความรู้ในครั้งนี้จะเป็นความรู้ทางด้านตัวเลขเศษฐกิจที่สำคัญๆครับ นั่นคือ Nominal Interest rate , Inflation rate , real interest rate

ซึ่งเจ้าตัวเลขทั้งสามตัวนี้นั้นค่อนข้างมีความสำคัญในการดูแนวโน้มของราคาค่าเงินของแต่ละประเทศในมุมมองระดับ macro ได้เป็นอย่างดีครับ หากว่าเราสามารถรู้แนวโน้มในระดับภาพใหญ่ได้ ก็จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะเทรดในคู่เงินนั้นๆได้ถูกฝั่งครับ และเมื่อเราอยู่ถูกฝั่ง ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ง่ายยิ่งขึ้น (เทรดไม่เหนื่อย) เรามาเริ่มดูความหมายของตัวเลขแต่ละตัวกันก่อนเลยครับ


1.Nominal Interest rate (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ยังไม่ได้หักเงินเฟ้อออก)

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้น เทรดเดอร์ทุกท่านก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่ามันคืออะไร มันก็คือดอกเบี้ยตอบแทนเมื่อเรานำเงินไปฝากไว้กับธนาคารนั่นเองครับ อย่างเช่น ธนาคาร ก. ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 5% ต่อปี  นั่นหมายความว่า หากเราฝากเงิน 100 บาท พอครบปีเราจะได้ดอกเบี้ยมา 5 บาท 

ซึ่งเจ้าตัวเลข Interest rate นั้นเทรดเดอร์ส่วนมากนั้นก็จะให้ความสำคัญกับมันมากนะครับ โดยสามารถสังเกตุได้ว่าคืนไหนที่ทาง fed ประกาศอัตราดอกเบี้ยนั้นกราฟจะกระชากหรือวิ่งรุนแรงเสมอๆ และเทรดเดอร์หลายๆท่านก็จะชอบใช้ตัวเลขนี้ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาค่าเงินนั้นๆด้วย เนื่องจากคำพูดที่ว่า  "เงินมักจะวิ่งไปหาที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเสมอ" ทำให้เทรดเดอร์หลายๆท่านจึงใช้เจ้าตัวเลข Interest rate มาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาแบบเพียวๆโดยที่ลืมนึกถึงตัวเลขสำคัญอีกตัวนั่นคือ  Inflation rate ครับ


2. Inflation rate (อัตราเงินเฟ้อ)

คำว่าเงินเฟ้อนั้นทุกท่านก็คงเคยได้ยินคนพูดถึงกันบ่อยๆนะครับ และหลายๆท่านก็อาจจะทราบความหมายของเจ้าเงินเฟ้อนี้อยู่แล้ว แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ แอดจีนแดงก็จะขอสรุปง่ายๆให้ฟังนะครับว่ามันคืออะไร 

เงินเฟ้อนั้นสรุปง่ายๆก็คือ เงินที่เรามีอยู่ในมือนั้นมันเสื่อมค่าลง ตัวอย่างเช่น  เรามีเงิน 100บาท ในสองปีที่แล้วเงิน 100 บาทซื้อไข่ได้ 10ฟอง  แต่พอมาปีนี้เงิน 100 บาทเรากลับซื้อไข่ได้แค่ฟองเดียว  จากตัวอย่างก็จะเห็นนะครับว่า เงินจำนวนเท่าเดิมแต่สามารถซื้อของได้น้อยลง ตัวอย่างที่ชัดๆก็คือประเทศ เวเนซุเอล่า ในตอนนี้ครับที่มีอัตราเงินเฟ้อใกล้จะแตะ 1ล้านเปอร์เซ็นต์แล้ว (จะซื้อไข่1ฟอง ต้องแบกเงินไปเป็นกระสอบ)

3. real interest rate หรือ RIR(อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง)

ตัวนี้สำคัญครับ เพราะตัวเลข RIR นั้นเป็นการนำ อัตราดอกเบี้ยมาหักลบกับอัตราเงินเฟ้อ  ทำให้เราได้ตัวเลขผลตอบแทนที่แท้จริงออกมา ตัวอย่างเช่น ค่าเงิน USD ตอนนี้มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.25%  อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.2%  เมื่อนำอัตราดอกเบี้ยมาลบเงินเฟ้อจะได้เท่ากับ  2.25-2.2 = 0.05% ซึ่งจะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้มายังเป็นบวกอยู่ นั่นหมายความว่าหากท่านนำเงินไปลงทุนใน USD ท่านก็จะยังได้กำไรจากดอกเบี้ยอยู่

ซึ่งในการสัมนาครั้งนี้ ท่าน อ.หยง ได้ยกตัวอย่างกราฟคู่เงิน GU ขึ้นมาให้ดู ซึ่งหากนำตัวเลข RIR ของค่าเงิน GBP มาเทียบกับค่าเงิน USD แล้ว  ค่าเงิน USD นั้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จึงทำให้กราฟในภาพใหญ่ของคู่เงิน GU นั้นเป็นขาลงมาตลอด โดยในการเทรดนั้นก็จะเน้นในการเทรดฝั่งเดียวกับค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าครับ จนกว่าตัวเลข RIR นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนเว็บไซต์ที่ไว้ดูตัวเลขต่างๆนั้นแอดจีนแดงก็หามาได้แค่นี้นะครับ

เว็บสำหรับดู interest rate =>> https://www.global-rates.com

เว็บสำหรับดู inflation rate =>> https://tradingeconomics.com

หากท่านใดหาเว็บที่ใช้ดูตัวเลขเหล่านี้ได้เพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้นะครับ



ความรู้อื่นๆเพิ่มเติมที่ท่าน อ.หยง นำมาแชร์

1.Forex เหมาะสำหรับการเทรดเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อปั่น cash flow แล้วนำกำไรที่ได้ไปต่อยอดลงทุนระยะยาวทางอื่น เช่นลงทุนในหุ้น

2.เทคนิคคอลทั้งหลาย เช่นพวก indicator ต่างๆ ถูกคิดค้นขึ้นมาจากการสังเกตุการวิ่งของราคาหุ้นในสมัยก่อน ดังนั้นเมื่อนำมาใช้กับ Forex ส่วนมากจึงหายนะ

3.ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มหาศาลมาก ดังนั้นในทุกๆวันธนาคารของแต่ละประเทศจึงต้องมีการเข้ามาแทรกแซงราคาและทำการ Rebalancing เพื่อไม่ให้ค่าเงินของตัวแข็งตัวหรืออ่อนตัวเร็วเกินไป จึงทำให้ราคานั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาทุกวันและสามารถ confirm ได้ว่าราคาจะมีการเคลื่อนไหวทุกวัน(ยกเว้นวันหยุด)แน่นอน

4.สิ่งสำคัญมากๆในการเทรดคือ Money Management และที่สำคัญมากคือพอร์ตห้ามแตกเด็ดขาด ให้เผื่อระยะวิ่งให้กราฟเสมอ

5.การวิ่งแบบ Sideway ของ Forex นั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็น sideway ออกข้าง , sideway up , sideway down(เหตุผลมาจากข้อที่ 3) แต่การวิ่งที่เป็นเทรนด์ยาวๆนั้นคือสภาวะผิดปกติ

6.การตั้ง SL นั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ควรเผื่อระยะเพื่อไม่ให้โดน stop hunt

7.การเทรดที่ดีไม่ควรจะต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ควรจะมีเวลาพักผ่อนบ้างเพราะหากสุขภาพเราเสีย ผลงานในการเทรดเราก็จะแย่ตามไปด้วย

8.การเติมเงินเข้าพอร์ตเพิ่มสามารถทำได้ แต่ต้องทำในกรณีที่เราเริ่มมีกำไร และ เริ่มมั่นใจว่าเรามีความชำนาญในการเทรดในระบบนั้นๆแล้ว หากเติมเงินเข้าพอร์ตเพราะโดน magin call ไม่ควรทำเด็ดขาด

9.การฝึกเทรดในแต่ละระบบเราควรต้องฝึกฝนอย่างน้อยๆเป็นปีๆ เพื่อให้มีความชำนาญ (เหมือนปิ้งสาหร่าย ที่ใครๆก็ปิ้งได้ แต่ทำยังไงจะปิ้งแล้วให้สุกเท่ากันทุกครั้งเป็นเรื่องยากที่ต้องฝึกฝน)

ไว้นึกอะไรออกเพิ่มเติมจะมาลงให้อีกนะครับ

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ย Interest Rate มีผลกระทบกับตลาด forex อย่างไร

อ่านเพิ่มเติม : วิเคราะห์ทิศทาง Forex ด้วย Real inflation rate หรือ RIR(อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง)

ขอบคุณสำหรับ การแบ่งปันความรู้ครับ

 
ขอบคุณครับ

จากความรู้ที่ท่าน อ.หยง ได้นำมาแชร์ให้นั้นก็คงตอบข้อสงสัยกันนะครับว่าทำไมบางที กราฟวิ่งสวนทางกับตัวเลขที่ประกาศออกมา 

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 16, ธันวาคม  2018, 08:30:50 PM

สรุปความรู้สำคัญที่ได้จากงานสัมนาที่จัดโดย HotForex

สวัสดีครับ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา แอดจีนแดงได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานสัมนาที่จัดโดย HotForex มานะครับ หนึ่งในวิทยากรที่ไปให้ความรู้นั้นก็คือ อ.หยง ธำรงค์ชัย เอกอมรวงศ์ ซึ่งเทรดเดอร์หลายๆท่านก็น่าจะรู้จัก อ.หยง ท่านนี้กันเป็นอย่างดีนะครับ เนื่องจากท่าน อ.หยง นั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในวงการตลาดหุ้นไทยมากพอสมควรครับ ซึ่งแอดบอกเลยว่าใครไม่ได้ไปครั้งนี้ ถือว่าพลาดครับ เนื่องจากได้ทั้งความรู้ สนุกสนานฟังไม่เบื่อเลยครับ  โดยความรู้ที่ท่าน อ.หยง ให้ไปให้ความรู้ในครั้งนี้จะเป็นความรู้ทางด้านตัวเลขเศษฐกิจที่สำคัญๆครับ นั่นคือ Interest rate , Inflation rate , real inflation rate

ซึ่งเจ้าตัวเลขทั้งสามตัวนี้นั้นค่อนข้างมีความสำคัญในการดูแนวโน้มของราคาค่าเงินของแต่ละประเทศในมุมมองระดับ macro ได้เป็นอย่างดีครับ หากว่าเราสามารถรู้แนวโน้มในระดับภาพใหญ่ได้ ก็จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะเทรดในคู่เงินนั้นๆได้ถูกฝั่งครับ และเมื่อเราอยู่ถูกฝั่ง ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ง่ายยิ่งขึ้น (เทรดไม่เหนื่อย) เรามาเริ่มดูความหมายของตัวเลขแต่ละตัวกันก่อนเลยครับ

อ.หยง ธำรงชัย เอกอมรวงศ์

1.Interest rate (อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก)

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้น เทรดเดอร์ทุกท่านก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่ามันคืออะไร มันก็คือดอกเบี้ยตอบแทนเมื่อเรานำเงินไปฝากไว้กับธนาคารนั่นเองครับ อย่างเช่น ธนาคาร ก. ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 5% ต่อปี  นั่นหมายความว่า หากเราฝากเงิน 100 บาท พอครบปีเราจะได้ดอกเบี้ยมา 5 บาท 

ซึ่งเจ้าตัวเลข Interest rate นั้นเทรดเดอร์ส่วนมากนั้นก็จะให้ความสำคัญกับมันมากนะครับ โดยสามารถสังเกตุได้ว่าคืนไหนที่ทาง fed ประกาศอัตราดอกเบี้ยนั้นกราฟจะกระชากหรือวิ่งรุนแรงเสมอๆ และเทรดเดอร์หลายๆท่านก็จะชอบใช้ตัวเลขนี้ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาค่าเงินนั้นๆด้วย เนื่องจากคำพูดที่ว่า  "เงินมักจะวิ่งไปหาที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเสมอ" ทำให้เทรดเดอร์หลายๆท่านจึงใช้เจ้าตัวเลข Interest rate มาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาแบบเพียวๆโดยที่ลืมนึกถึงตัวเลขสำคัญอีกตัวนั่นคือ  Inflation rate ครับ


2. Inflation rate (อัตราเงินเฟ้อ)

คำว่าเงินเฟ้อนั้นทุกท่านก็คงเคยได้ยินคนพูดถึงกันบ่อยๆนะครับ และหลายๆท่านก็อาจจะทราบความหมายของเจ้าเงินเฟ้อนี้อยู่แล้ว แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ แอดจีนแดงก็จะขอสรุปง่ายๆให้ฟังนะครับว่ามันคืออะไร 

เงินเฟ้อนั้นสรุปง่ายๆก็คือ เงินที่เรามีอยู่ในมือนั้นมันเสื่อมค่าลง ตัวอย่างเช่น  เรามีเงิน 100บาท ในสองปีที่แล้วเงิน 100 บาทซื้อไข่ได้ 1ฟอง  แต่พอมาปีนี้เงิน 100 บาทเรากลับซื้อไข่ได้แค่ฟองเดียว  จากตัวอย่างก็จะเห็นนะครับว่า เงินจำนวนเท่าเดิมแต่สามารถซื้อของได้น้อยลง ตัวอย่างที่ชัดๆก็คือประเทศ เวเนซุเอล่า ในตอนนี้ครับที่มีอัตราเงินเฟ้อใกล้จะแตะ 1ล้านเปอร์เซ็นต์แล้ว (จะซื้อไข่1ฟอง ต้องแบกเงินไปเป็นกระสอบ)

3. real inflation rate หรือ RIR(อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง)

ตัวนี้สำคัญครับ เพราะตัวเลข RIR นั้นเป็นการนำ อัตราดอกเบี้ยมาหักลบกับอัตราเงินเฟ้อ  ทำให้เราได้ตัวเลขผลตอบแทนที่แท้จริงออกมา ตัวอย่างเช่น ค่าเงิน USD ตอนนี้มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.25%  อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.2%  เมื่อนำอัตราดอกเบี้ยมาลบเงินเฟ้อจะได้เท่ากับ  2.25-2.2 = 0.05% ซึ่งจะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้มายังเป็นบวกอยู่ นั่นหมายความว่าหากท่านนำเงินไปลงทุนใน USD ท่านก็จะยังได้กำไรจากดอกเบี้ยอยู่

ซึ่งในการสัมนาครั้งนี้ ท่าน อ.หยง ได้ยกตัวอย่างกราฟคู่เงิน GU ขึ้นมาให้ดู ซึ่งหากนำตัวเลข RIR ของค่าเงิน GBP มาเทียบกับค่าเงิน USD แล้ว  ค่าเงิน USD นั้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จึงทำให้กราฟในภาพใหญ่ของคู่เงิน GU นั้นเป็นขาลงมาตลอด โดยในการเทรดนั้นก็จะเน้นในการเทรดฝั่งเดียวกับค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าครับ จนกว่าตัวเลข RIR นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนเว็บไซต์ที่ไว้ดูตัวเลขต่างๆนั้นแอดจีนแดงก็หามาได้แค่นี้นะครับ

เว็บสำหรับดู interest rate =>> https://www.global-rates.com

เว็บสำหรับดู inflation rate =>> https://tradingeconomics.com

หากท่านใดหาเว็บที่ใช้ดูตัวเลขเหล่านี้ได้เพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้นะครับ

สุดท้ายนี้ทางทีมงาน traderider.com ต้องขอขอบคุณทาง HotForex มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ที่จัดงานสัมนาดีๆแบบนี้ขึ้นมา
และ ขอขอบพระคุณ อ.หยง ที่มาให้ความรู้ในครั้งนี้ครับ ขอบคุณครับ 

แอดครับ ผมงง หรือผมอาจเข้าใจผิด นิดหนึ่งครับ

2. Inflation rate (อัตราเงินเฟ้อ) ตัวอย่างเช่น  เรามีเงิน 100บาท ในสองปีที่แล้วเงิน 100 บาทซื้อไข่ได้ 1ฟอง  แต่พอมาปีนี้เงิน 100 บาทเรากลับซื้อไข่ได้แค่ฟองเดียว
แอดพิมพ์ตก หรือผมไม่เข้าใจความหมายหรือเปล่าครับ รบกวนทีครับ

อ้างจาก: apakoaa ที่ 17, ธันวาคม  2018, 03:23:22 PM

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 16, ธันวาคม  2018, 08:30:50 PM

สรุปความรู้สำคัญที่ได้จากงานสัมนาที่จัดโดย HotForex

สวัสดีครับ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา แอดจีนแดงได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานสัมนาที่จัดโดย HotForex มานะครับ หนึ่งในวิทยากรที่ไปให้ความรู้นั้นก็คือ อ.หยง ธำรงค์ชัย เอกอมรวงศ์ ซึ่งเทรดเดอร์หลายๆท่านก็น่าจะรู้จัก อ.หยง ท่านนี้กันเป็นอย่างดีนะครับ เนื่องจากท่าน อ.หยง นั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในวงการตลาดหุ้นไทยมากพอสมควรครับ ซึ่งแอดบอกเลยว่าใครไม่ได้ไปครั้งนี้ ถือว่าพลาดครับ เนื่องจากได้ทั้งความรู้ สนุกสนานฟังไม่เบื่อเลยครับ  โดยความรู้ที่ท่าน อ.หยง ให้ไปให้ความรู้ในครั้งนี้จะเป็นความรู้ทางด้านตัวเลขเศษฐกิจที่สำคัญๆครับ นั่นคือ Interest rate , Inflation rate , real inflation rate

ซึ่งเจ้าตัวเลขทั้งสามตัวนี้นั้นค่อนข้างมีความสำคัญในการดูแนวโน้มของราคาค่าเงินของแต่ละประเทศในมุมมองระดับ macro ได้เป็นอย่างดีครับ หากว่าเราสามารถรู้แนวโน้มในระดับภาพใหญ่ได้ ก็จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะเทรดในคู่เงินนั้นๆได้ถูกฝั่งครับ และเมื่อเราอยู่ถูกฝั่ง ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ง่ายยิ่งขึ้น (เทรดไม่เหนื่อย) เรามาเริ่มดูความหมายของตัวเลขแต่ละตัวกันก่อนเลยครับ

อ.หยง ธำรงชัย เอกอมรวงศ์

1.Interest rate (อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก)

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้น เทรดเดอร์ทุกท่านก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่ามันคืออะไร มันก็คือดอกเบี้ยตอบแทนเมื่อเรานำเงินไปฝากไว้กับธนาคารนั่นเองครับ อย่างเช่น ธนาคาร ก. ประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 5% ต่อปี  นั่นหมายความว่า หากเราฝากเงิน 100 บาท พอครบปีเราจะได้ดอกเบี้ยมา 5 บาท 

ซึ่งเจ้าตัวเลข Interest rate นั้นเทรดเดอร์ส่วนมากนั้นก็จะให้ความสำคัญกับมันมากนะครับ โดยสามารถสังเกตุได้ว่าคืนไหนที่ทาง fed ประกาศอัตราดอกเบี้ยนั้นกราฟจะกระชากหรือวิ่งรุนแรงเสมอๆ และเทรดเดอร์หลายๆท่านก็จะชอบใช้ตัวเลขนี้ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาค่าเงินนั้นๆด้วย เนื่องจากคำพูดที่ว่า  "เงินมักจะวิ่งไปหาที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเสมอ" ทำให้เทรดเดอร์หลายๆท่านจึงใช้เจ้าตัวเลข Interest rate มาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาแบบเพียวๆโดยที่ลืมนึกถึงตัวเลขสำคัญอีกตัวนั่นคือ  Inflation rate ครับ


2. Inflation rate (อัตราเงินเฟ้อ)

คำว่าเงินเฟ้อนั้นทุกท่านก็คงเคยได้ยินคนพูดถึงกันบ่อยๆนะครับ และหลายๆท่านก็อาจจะทราบความหมายของเจ้าเงินเฟ้อนี้อยู่แล้ว แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ แอดจีนแดงก็จะขอสรุปง่ายๆให้ฟังนะครับว่ามันคืออะไร 

เงินเฟ้อนั้นสรุปง่ายๆก็คือ เงินที่เรามีอยู่ในมือนั้นมันเสื่อมค่าลง ตัวอย่างเช่น  เรามีเงิน 100บาท ในสองปีที่แล้วเงิน 100 บาทซื้อไข่ได้ 1ฟอง  แต่พอมาปีนี้เงิน 100 บาทเรากลับซื้อไข่ได้แค่ฟองเดียว  จากตัวอย่างก็จะเห็นนะครับว่า เงินจำนวนเท่าเดิมแต่สามารถซื้อของได้น้อยลง ตัวอย่างที่ชัดๆก็คือประเทศ เวเนซุเอล่า ในตอนนี้ครับที่มีอัตราเงินเฟ้อใกล้จะแตะ 1ล้านเปอร์เซ็นต์แล้ว (จะซื้อไข่1ฟอง ต้องแบกเงินไปเป็นกระสอบ)

3. real inflation rate หรือ RIR(อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง)

ตัวนี้สำคัญครับ เพราะตัวเลข RIR นั้นเป็นการนำ อัตราดอกเบี้ยมาหักลบกับอัตราเงินเฟ้อ  ทำให้เราได้ตัวเลขผลตอบแทนที่แท้จริงออกมา ตัวอย่างเช่น ค่าเงิน USD ตอนนี้มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.25%  อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.2%  เมื่อนำอัตราดอกเบี้ยมาลบเงินเฟ้อจะได้เท่ากับ  2.25-2.2 = 0.05% ซึ่งจะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้มายังเป็นบวกอยู่ นั่นหมายความว่าหากท่านนำเงินไปลงทุนใน USD ท่านก็จะยังได้กำไรจากดอกเบี้ยอยู่

ซึ่งในการสัมนาครั้งนี้ ท่าน อ.หยง ได้ยกตัวอย่างกราฟคู่เงิน GU ขึ้นมาให้ดู ซึ่งหากนำตัวเลข RIR ของค่าเงิน GBP มาเทียบกับค่าเงิน USD แล้ว  ค่าเงิน USD นั้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จึงทำให้กราฟในภาพใหญ่ของคู่เงิน GU นั้นเป็นขาลงมาตลอด โดยในการเทรดนั้นก็จะเน้นในการเทรดฝั่งเดียวกับค่าเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าครับ จนกว่าตัวเลข RIR นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนเว็บไซต์ที่ไว้ดูตัวเลขต่างๆนั้นแอดจีนแดงก็หามาได้แค่นี้นะครับ

เว็บสำหรับดู interest rate =>> https://www.global-rates.com

เว็บสำหรับดู inflation rate =>> https://tradingeconomics.com

หากท่านใดหาเว็บที่ใช้ดูตัวเลขเหล่านี้ได้เพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้นะครับ

สุดท้ายนี้ทางทีมงาน traderider.com ต้องขอขอบคุณทาง HotForex มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ที่จัดงานสัมนาดีๆแบบนี้ขึ้นมา
และ ขอขอบพระคุณ อ.หยง ที่มาให้ความรู้ในครั้งนี้ครับ ขอบคุณครับ 

แอดครับ ผมงง หรือผมอาจเข้าใจผิด นิดหนึ่งครับ

2. Inflation rate (อัตราเงินเฟ้อ) ตัวอย่างเช่น  เรามีเงิน 100บาท ในสองปีที่แล้วเงิน 100 บาทซื้อไข่ได้ 1ฟอง  แต่พอมาปีนี้เงิน 100 บาทเรากลับซื้อไข่ได้แค่ฟองเดียว
แอดพิมพ์ตก หรือผมไม่เข้าใจความหมายหรือเปล่าครับ รบกวนทีครับ

อ่อขออภัยครับเดี๋ยวแก้ให้ครับ

ขอบคุณครับ
ข้อมูลน่าสนใจมากครับ รอบหน้าฝากอัดเสียงaudio มาทำเป็น podcast ให้เปิดฟังก็ดีเหมือนกันนะครับ

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:09:11 PM

ตาราง RIR ค่าเงินสำคัญๆ Update วันที่ 20 ธันวาคม 2561

จากที่เมื่อคืนทาง Fed มีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่ 2.25% เป็น 2.5% นั้น  ก็ส่งผลให้ค่า RIR ของค่าเงิน USD นั้นสูงมากขึ้น (ให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น) จากเดิมตัวเลข RIR อยู่ที่ 0.05 ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น 0.3 ครับ  ซึ่งหากวิเคราะห์แนวโน้มราคาจากตัวเลข RIR เพียงอย่างเดียว ไม่รวมเรื่องเทคนิคหรือตัวเลขอื่นๆ ก็สามารถมองได้ว่า ค่าเงิน USD นั้นมีแนวโน้มในภาพใหญ่ที่ราคาจะขึ้นไปยาวๆครับ

น่าสนใจมากครับแอด ..ค่า RIR สามารถดูจากเว็บไหนได้ไหมครับ? หรือเราต้องเอาค่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาลบค่าอัตราเงินเฟ้อเอาเองครับ

อ้างจาก: I feel I like ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:50:27 PM

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:09:11 PM

ตาราง RIR ค่าเงินสำคัญๆ Update วันที่ 20 ธันวาคม 2561

จากที่เมื่อคืนทาง Fed มีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่ 2.25% เป็น 2.5% นั้น  ก็ส่งผลให้ค่า RIR ของค่าเงิน USD นั้นสูงมากขึ้น (ให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น) จากเดิมตัวเลข RIR อยู่ที่ 0.05 ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น 0.3 ครับ  ซึ่งหากวิเคราะห์แนวโน้มราคาจากตัวเลข RIR เพียงอย่างเดียว ไม่รวมเรื่องเทคนิคหรือตัวเลขอื่นๆ ก็สามารถมองได้ว่า ค่าเงิน USD นั้นมีแนวโน้มในภาพใหญ่ที่ราคาจะขึ้นไปยาวๆครับ

น่าสนใจมากครับแอด ..ค่า RIR สามารถดูจากเว็บไหนได้ไหมครับ? หรือเราต้องเอาค่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาลบค่าอัตราเงินเฟ้อเอาเองครับ

ต้องเอามาบวกลบเอาเองครับ ถ้าจะเอาแบบสำเร็จรูปเห็นว่าเว็บ woldbank เขามีขายครับ เป็นของทุกประเทศทั่วโลก แต่ค่าบริการเดือนละ 2พันเหรียญ ราคาโหดมาก

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:57:35 PM

อ้างจาก: I feel I like ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:50:27 PM

อ้างจาก: เทรดเดอร์สายเขียว ที่ 20, ธันวาคม  2018, 02:09:11 PM

ตาราง RIR ค่าเงินสำคัญๆ Update วันที่ 20 ธันวาคม 2561

จากที่เมื่อคืนทาง Fed มีการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่ 2.25% เป็น 2.5% นั้น  ก็ส่งผลให้ค่า RIR ของค่าเงิน USD นั้นสูงมากขึ้น (ให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น) จากเดิมตัวเลข RIR อยู่ที่ 0.05 ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น 0.3 ครับ  ซึ่งหากวิเคราะห์แนวโน้มราคาจากตัวเลข RIR เพียงอย่างเดียว ไม่รวมเรื่องเทคนิคหรือตัวเลขอื่นๆ ก็สามารถมองได้ว่า ค่าเงิน USD นั้นมีแนวโน้มในภาพใหญ่ที่ราคาจะขึ้นไปยาวๆครับ

น่าสนใจมากครับแอด ..ค่า RIR สามารถดูจากเว็บไหนได้ไหมครับ? หรือเราต้องเอาค่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาลบค่าอัตราเงินเฟ้อเอาเองครับ

ต้องเอามาบวกลบเอาเองครับ ถ้าจะเอาแบบสำเร็จรูปเห็นว่าเว็บ woldbank เขามีขายครับ เป็นของทุกประเทศทั่วโลก แต่ค่าบริการเดือนละ 2พันเหรียญ ราคาโหดมาก