📈หุ้นเทคโนโลยีกลายเป็น Safe Havens ในขณะที่ดัชนีชี้ความกังวลในการลงทุนได้ทำจุดสูงสุด
🇪🇺️ในช่วงที่ผ่านมา มีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบรรดาหุ้นเทคโนโลยีบริษัทยักษ์ใหญ่อาจได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ซึ่งทำให้อาจเกิดการปรับฐานขึ้นได้ โดยเมื่อวันศุกร์เราได้เห็นการตอบโต้จาก EU ต่อมาตรการของทรัมป์ในการขยายการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังตลาดของสหภาพยุโรป(Single Market) โดยทั้งผู้นำยุโรป แคนาดา และเม็กซิกัน กล่าวว่าพวกเขาจะตอบโต้โดยการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดผลที่ตามมาคือเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากภาคอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้านี้ ซึ่งกลุ่มหุ้นที่จะได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้คือหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
🔥ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีทั้งประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Facebook และการพาดพิงจากประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ทรัมพ์ต่อบริษัท Amazon ในเรื่องการจ่ายภาษี รวมถึงเรื่องข้อมูลการเติบโตของยอดขายสมาร์ทโฟนชะลอตัว โดยส่งผลต่อดัชนี Fang+ ของ NYSE ทำให้เกิดการปรับฐานในช่วงเวลาที่ผ่านมา และเมื่อวันศุกร์ดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% จากปีที่แล้วแตะ 26% แม้ว่าจะมีการขายทำกำไรในเดือนมีนาคม โดยดัชนีดังกล่าวประกอบด้วย Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Google-Parent Alphabet และกลุ่มบริษัทชั้นนำอื่นๆ เช่น Alibaba และ Nvidia ผู้ผลิตชิป ในทางตรงกันข้ามดัชนี S&P 500 ของสหรัฐปรับตัวขึ้นเพียง 2% ในปีนี้ และลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในเดือนมกราคม
📊เทรดเดอร์และนักลงทุนต้องเผชิญกับความท้าทายในการประเมินสถานะของ Safe Havens ที่สามารถเป็นแหล่งพักเงินทุนโดยที่สามารถเติบโตไปได้ต่อ และวิเคราะห์จังหวะการปรับฐานที่อาจจะเกิดขึ้นหาก sentiment ของสถานะการณ์เกิดการเปลี่ยนไป
--------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 02-105-5727 (โทรฟรี)
LINE Official:
http://forex4you.link/TrdLINEFacebook:
http://forex4you.link/TrdFBเว็บไซต์:
http://forex4you.link/TrdForex4you