กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

ประโยชน์และโทษของ TrendlineChannel ที่เราอาจจะมองข้ามไป

  • 0 replies
  • 1,899 views
ประโยชน์และโทษของ TRENDLINECHANNEL ที่เราอาจจะมองข้ามไป

    พูดถึง Trendline Channel เทรดเดอร์ส่วนมากน่าจะรู้จักเครื่องมือชนิดนี้ดี  แต่หลายๆท่านอาจจะมองข้ามประโยชน์ หรือ โทษ ของมันแม้แต่เทรดเดอร์หลายๆท่านที่เทรดมาหลายปีบางท่านก็ไม่เคยนึกถึง 

เรามาดูหน้าตามันก่อนดีกว่าครับ ว่ามันหล่อเหลาขนาดไหน

ภาพด้านบนเป็นตัวอย่างเครื่องมือ Trendline channel คร่าวๆนะครับ


ในบทความนี้ผมจะไม่ขอพูดถึงวิธีการตีเส้นนะครับว่าต้องตีเส้นยังไง แต่มาพูดถึงประโยชน์ของการเทรดตามแนวโน้มและโทษของการสวนเทรน บางข้อที่หลายๆท่านอาจจะมองข้ามไปกันครับ

ประโยชน์ในการเทรดตามแนวโน้ม

ตัวอย่างในการหาจุดเข้าจุดออก


หากมองภาพด้านบนบางท่านอาจจะคิดว่า มันก็ไม่เห็นมีอะไรนิ    มาดูกันครับว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ในภาพ


หากท่านใช้เส้น Channel เป็นจุดที่ใช้ในการ TP หรือ SL  จากภาพด้านบนถ้าเราวัดระยะเป็นแนวตั้ง จะได้ระยะคาดหวังประมาณ 2พันจุด แต่....

ความจริง


ความเป็นจริงนั่นคือ มีโอกาสน้อยมากที่ราคาจะวิ่งเป็นแนวตั้งแรงๆแล้วมาชนเส้น TP SL ให้เรา กว่าราคาจะมาชนเส้นได้นั้นมันจะวิ่งออกข้างไปเรื่อยๆเสมอ นี่คือข้อได้เปรียบของเราหากเราเข้าออเดอร์ตามแนวโน้มของ Channel ที่เราตีเส้นไว้ เพราะราคายิ่งวิ่งนาน ระยะ TP เราก็จะยิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ เพราะเส้นมันเอียงลงมาเรื่อยๆ  ขณะเดียวกัน จุด SL เรานั่นคือเมื่อราคาหลุดเส้นบนขึ้นไป ก็จะเลื่อนต่ำลงมาตามราคาเรื่อยๆเช่นกัน เป็นเสมือน TraillingStop ให้เราไปโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว  ซึ่งต่างจากการเทรดด้วยแนวรับแนวต้านที่เป็นเส้นแนวนอนอย่างสิ้นเชิง เพราะการใช้แนวรับแนวต้านที่เป็นเส้นแนวนอนนั้น ข้อดีคือเราได้ราคาเข้าออเดอร์ที่ชัดเจน สามารถตั้ง pending order ได้เลย และเราจะรู้จุด tp sl ที่ชัดเจน  แต่เส้น channel นั้นเราจะไม่สามารถตั้ง pending order ได้เพราะราคาจะปรับเปลี่ยนไปตามการวิ่งของกราฟ ซึ่งอาจจะต้องใช้ EA มาช่วยในการตั้ง pending order ตามเส้นให้เรา


มาดูโทษของการสวนเทรนกันบ้างครับ


จากภาพด้านบนจะเห็นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น หากเราเข้าเซลแล้วราคาวิ่งลงมาหาจุด tp 1 ตามที่เราคาดหวังไว้ก็ดีไป  แต่ ถ้าราคาไม่ลงมาล่ะ แล้วไปชน TP บริเวณ จุดที่ 2 หรือ จุดที่ 3 , 4 , 5 ล่ะ เราจะเห็นว่ายิ่งราคาลงมาหาเส้น TP เรายิ่งช้าเท่าไหร่ ระยะ TP เราจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆๆๆ จนสุดท้ายจุดที่ราคาชนเส้นอาจจะกลายเป็นจุดที่เราขาดทุนแทนไปเลยก็ได้ 

ผมหวังว่าหลายๆท่านจะเห็นภาพนะครับว่าไอ้คำว่า ราคายังไงสุดท้ายก็ต้องมาชนเส้น trendline หรือ สุดท้ายก็ต้องมาชน EMA ที่พูดกันมันจริงครับ แต่จังหวะที่มันกลับมาชนนั่นเราจะขาดทุนหรือกำไรล่ะครับ