เรื่องของ Confluence trading เป็นเรื่องของการใช้ technical analysis อย่างน้อย 2 ประเภทขึ้นไปเพื่อเป็นการยืนยันการเข้าเทรดหรือ trade setup หลักการเบื้องต้นว่าง่ายๆ คือการใช้ technical analysis ยืนยันกันเองเพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการเทรด เช่นอาจเป็นการใช้ indicators ยืนยันกันเองเช่น Bollinger Bands กับ CCI หรือเป็นเรื่องของ price level อย่างแนวรับแนวต้านหรือ supply/demand หรือแม้กระทั่ง round numbers กับใช้อินดิเคเตอร์พวก Oscillators เช่น CCI, RSI, MACD เป็นตัวยืนยันจุดเข้าเทรด หรืออาจเป็นการใช้ Fibonacci Retracments เพื่อหาจุดเข้า หลังจากที่เห็น Impulsive move ก็ได้ หรือเรื่องของ Divergence ก็ได้

Confluence trading คืออะไร


การที่ technical analysis ตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปทำให้เกิด trade setup โดยเฉพาะจุดเข้าเทรดที่จุดเดียวกัน พร้อมๆกัน ดังนั้นถ้ายิ่งใช้หลาย  TA มากขึ้นก็ยิ่งเป็นตัวยืนยันมากขึ้น (แต่แนะนำให้ใช้ไม่เกิน 3 Technical analysis รูปแบบพอ)  เช่น การเทรดที่เลข 1 อย่างประกอบภาพด้านบน ยกตัวอย่างชาร์ต D1 ประกอบ การกำหนดเทรนด้วยการใช้อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands ราคาถึงเส้นบนของ upper band บอกว่าเทรนมาเยอะแล้ว โอกาสลงมี มาดูตัวยืนยัน Commodity Channel Index (CCI)  ได้เปิดเผยมาเป็นสถานะ Overbought เป็นตัวที่สองยืนยัน และถ้าอ่านการพัฒนาเทรนเป็นด้วย หลักการ swing highs/lows ท่านจะเห็นว่าที่ชาร์ตเปล่าราคาทำ Higher High ได้ แต่ตัว Oscillator CCI ที่เป็นตัวยืนยันกลับทำ Lower High เป็นหลักของการเทรด Divergence พอดี เป็น Technical analysis ตัวที่ 3 ถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่เทรด stop hunt ด้วยการอ่าน order flow เป็น การที่ราคาทำ Higher High ได้เพื่อจุดประสงค์ของการล่า stop เพื่อเข้าตลาดที่ดีกว่า จะเห็นว่าราคาเด้งกลับที่ round number อีก เรื่องของ stop hunt และ round number ที่เทรดเดอร์มักจะใช้อ้างอิงก็กลายมาเป็น confluence อีก นี่คือที่เรียกว่า confluence trading ด้วยหลักการของ technical analysis แบบต่างๆ

ดูที่เลข 2 เป็นการเข้าเทรดอีก หลักการ confluence trading ใช้ตัวเดิมต่อเนื่องกัน แต่ที่เพิ่มมาคือเห็นมีใช้ Fibonacci Retracements เข้ามาประกอบเพื่อหาจุดเข้าเทรด หลักการเทรดแบบ Fibo Retracements เป็นการเน้นการเทรดการย่อตัวเป็นหลัก ด้วยการวัดจุด Fibo จาก Impulsive move ประกอบ (จะอธิบายหลักการเทรด Fibonacci Retracements กับ Impulsive move ในบทความต่อไป)  เมื่อดูจาก impulsive move ที่เกิดขึ้น ที่ลากเส้น Fibo จากบนลงมา และมีตัวเลข Retracements ประกอบ จะเห็นว่าราคามาเด้งที่ Retracement 50.0 แล้วดู technical analysis อื่นประกอบว่าเป็นไปลักษณะแบบเดียวกันหรือเปล่าที่เงื่อนไขจะทำให้ราคาเด้ง ดูที่ round number 1.12000 ที่ราคามีการเด้งหลายรอบก่อนที่ราคาจะเบรคลงมาได้ เทรดเดอร์ที่เทรดแนว price level เช่นเทรดแบบแนวรับ-แนวต้าน หรือเทรดแบบ supply/demand ก็จะมองตรงที่ราคาเบรคเป็น swap level หรือ flipping level ทันทีเมื่อราคาเบรค พอราคาเด้งที่ Fibonacci Retracement ระดับ 50.0 ก็จะเกิด confluence ที่มาจาก technical analysis แบบ s/r, supply/demand ที่เห็น swap level, จากเทรน Bollinger Bands จาก CCI จาก Round number

ส่วนที่เลข 3 ก็หลักการแบบที่เลข 1 แต่ตรรกะในทางตรงกันข้ามกัน จากทั้ง 3 กรณีเพื่อทำความเข้าใจเรื่องของ confluence ท่านจะเห็นว่ายิ่ง technical analysis มากยิ่งเพิ่มการยืนยัน ก็จะทำให้เทรดเดอร์ตามประเทภ technical analysis ต่างๆ อยากเทรดไปทางนั้นๆ ยิ่งมีเรื่องของ confluence เข้ามาประกอบด้วย
Confluence กับการเทรด price level


การเทรดพวก price level ไม่ว่าจะเป็นแนวรับ-แนวต้านหรือ supply/demand ส่วนของ conflunce ถือว่าเป็นตัวกรองอย่างดีเลย ทั้งส่วนที่เป็นต้นตอ และส่วนที่เป็นจังหวะการเข้าเทรด วิธีการที่เทรดนิยมกันเพื่อกันราคาวิ่งสวนคือรอให้ราคายืนยันก่อนด้วย price action เช่นที่นิยมกันเป็นรูปของ Pin Bar หรือ Engulfing Bar ณ จุดที่ต้องการเปิดเทรด เพราะเทรดเดอร์รายย่อยเทรดด้วยจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับขาใหญ่ที่เทรดด้วยจำนวนเยอะ conflunce ที่เกิดตรงพื้นที่เข้าเทรดอีกรอบของขาใหญ่มักจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าเทรดและราคาวิ่งเร็วด้วยเพราะเทรดเดอร์ต่างๆ ที่เทรดด้วย confluence ต่างเปิดออเดอร์พื้นที่เดียวกัน ความเป็นไปได้สูงที่ความไม่สมดุลย์เกิดขึ้นเลยมาก การเทรดพวกนี้ต้องดูทั้งส่วนที่เป็นต้นตอและทำ impulsive move เกินขึ้นไป แล้วดู price structure ที่ประกอบกันต้องสะท้อนให้เห็นความพยายามและผลออกมาชัดเจนว่าเป็นการเข้าเทรดจริงก่อน แล้วมาดูตรงเส้นสีเหลืองที่บอก trade setup ที่บอกจุดสำหรับเข้าเทรดอีกรอบ จะเห็นว่าราคาลงมา ราคาเด้งที่ต้นตอทั้งหมด ถ้ามอง oscillator ทั้ง CCI และ RSI ราคามาถึงพื้นที่ Oversold ทั้งหมด นี่คือสัญญาณแรกที่เห็นจาก confluence ถ้าเทรดเดอร์ที่เทรด divergence ประจำจะเห็นทันทีว่าเปิด divergence อีกด้วย แต่เนื่องจาก price action ยังไม่ยืนยันจนกว่าแท่งเทียนที่เส้นสีเหลืองเกิดขึ้น เมื่อราคากลับมา ดูตรงที่ลูกศรสีขาวว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะนอกจาก confluence เกิดขึ้นแล้ว บาร์ตรงเส้นสีเหลืองคือการยืนยันจาก price action เมื่อมีการยืนยันเกิดขึ้น มักจะตามมาด้วย ความไม่สมดุลย์ออเดอร์แบบมากและทันที เพราะเป็นเรื่อง timing ในการเข้าว่าเทรด

มุมมองขาใหญ่กับเรื่อง confluence

เมื่อเข้าใจหลักการของ confluence trading ว่าเป็นอย่างไร แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่พอจะคาดการณ์ได้คือ เทรดเดอร์ต่างๆที่เทรดตาม technical analysis ก็มักจะเทรดตามทางนั้นๆ ที่เกิด trade setup สถานการณ์แบบนี้พอจะเรียกว่า "แหล่งที่มาออเดอรที่คาดการณ์ได้" ดังนั้นมุมมองขาใหญ่เพราะพวกเขาเข้าใจหลักการนี้ดี หลังจากที่พวกเขาเข้าเทรด เป็นเรื่องจำเป็นที่พวกเขาต้องการทำ confluence ให้เกิดขึ้นเพราะว่าจะมีเทรดเดอร์ที่ช่วยเร่งราคาให้ห่างไปจากจุดที่พวกเขาเข้าเทรด เพื่อพวกเขาจะได้กำไรเยอะ พร้อมกันนั้น พวกเขายังมั่นใจว่าจะมีออเดอร์ฝั่งตรงข้ามที่มากพอให้พวกเขาปิดทำกำไรถ้าเป็นจุดที่พวกเขาต้องการปิดทำกำไร
ดังนั้น การใช้ confluence ช่วยในการกรองการเทรดได้มากและเพิ่มความเป็นไปได้ในตัวด้วย แต่ต้องรู้ด้วยว่าขาใหญ่ใช้ประโยชน์อย่างไรจากการเทรดแบบนี้ เพื่อจะรู้ทันว่าท่านควรเปิดเทรดที่ไหนและเมื่อไรอย่างที่ยกตัวอย่างประกอบ