กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

🌐วิเคราะห์แนวโน้มกราฟ FOREX EUR/USD วันอังคาร 6 ธันวาคม 2565 ขอใช้ Demand NFP งัดต่อ🌐

  • 4 replies
  • 2,289 views
*

CASE Forex

  • 20,411
🌐วิเคราะห์แนวโน้มกราฟ FOREX EUR/USD วันพุธ 7 ธันวาคม 2565 Demand เดิมขอเน้นๆ🌐



  Type Price SL TP
Signal Buy 1.043-1.045 30-40 pip 120-140 pip



    Signal Buy "หลังจากที่ EURUSD เมื่อ 2 วันก่อนได้ร่วงลงมาเนื่องจากข่าว PMI เราก็รอให้เข้าเข้ามาในโซน DMZ แต่เมื่อวานยังมีการ Sideway วันนี้ก็เเลยต้องรอโซนเดิม" ซึ่งจุดสำคัญของเราก็ยังคงเป็นการรอให้กราฟปิด Gap นั้นเอง #ส่วนแผนการเทรดยังคงเดิม

📌 แผนของการเทรดคือ 📌

    โซนในการเทรดของเราวันนี้จะเป็น Demand zone ในช่วงข่าว Non-farm มานั้นเองที่สามารถ DBR ทะลุนิวไฮได้นั้นเอง ก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถย้อนลงมาได้ขนาดนี้ แต่ทำไงได้ตลาดอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะงั้นหากกราฟลงมาในโซนได้จริงๆเป้าหมายหลักก็คงอยากให้เกิด New High แต่ถ้าไม่ได้เลยช่วงปิด Gap ไปก็หรูแล้ววันนี้ #GoodLuck

*** พอเจอจุดเข้าจากแท่งเทียนที่ Rejection แล้วก็อย่าลืมวางความเสี่ยงที่รับได้ SL ไว้เสมอ ***


ขอให้ทุกท่านนะครับโชคดีมีกำไรทุกท่าน ครับ ขอกำไร ทั่วหน้าทุกท่านนะครับ
เชิญเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองการเทรดกันได้ตามสะดวกครับ
หากมีข้อแนะนะประการใดก็ยินดี น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ อยากให้ทุกท่าน แบ่งปันความรู้ร่วมกันครับ



"ที่บอกว่าเทรดไม่ได้ ท่าเทรดที่เลือกเก็บสถิติถึง 1000 ครั้งหรือยัง?"

*

PoNgPk

  • 6,490
ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังดีดตัวขึ้นขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งวานนี้



ณ เวลา 19.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.3% สู่ระดับ 104.97 ส่วนดอลลาร์ร่วงลง 0.3% สู่ระดับ 1.052 เทียบยูโร และอ่อนค่า 0.47% สู่ระดับ 136.09 เยน

ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.7% วานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. หลังการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ




กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน พุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.6% โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%



โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวทะลุระดับ 1,790 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น



ณ เวลา 19.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. บวก 10.0 ดอลลาร์ หรือ 0.56% สู่ระดับ 1,791.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังดิ่งลงเกือบ 30 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,800 ดอลลาร์วานนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานและภาคบริการที่แข็งแกร่ง

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ



กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน พุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.6% โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%


โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กล่าวเตือนว่าเงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า


"เงินเฟ้อกำลังกัดกร่อนทุกสิ่ง คิดเป็นมูลค่าราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในกลางปีหน้า ซึ่งอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย" นายไดมอนกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสำนักข่าว CNBC
นายไดมอนกล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างๆยังคงอยู่ในสภาวะที่ดี แต่สิ่งนี้อาจดำเนินต่อไปได้ไม่นาน

นายไดมอนระบุว่า ผู้บริโภคมีเงินออมส่วนเกินอยู่ราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์จากมาตรการเยียวยาช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการใช้จ่ายมากกว่าปีที่แล้ว 10%

นอกจากนี้ นายไดมอนกล่าวว่า การที่เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ




โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,490
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย




ณ เวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,810.78 จุด ลบ 136.32 จุด หรือ 0.40%

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 500 จุดวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ตลาดแรงงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ




นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กล่าวเตือนว่าเงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า

"เงินเฟ้อกำลังกัดกร่อนทุกสิ่ง คิดเป็นมูลค่าราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในกลางปีหน้า ซึ่งอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย" นายไดมอนกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสำนักข่าว CNBC
นายไดมอนกล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างๆยังคงอยู่ในสภาวะที่ดี แต่สิ่งนี้อาจดำเนินต่อไปได้ไม่นาน

นอกจากนี้ นายไดมอนกล่าวว่า การที่เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%



โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

 

XM Global Limited