☀️YLG_Update : 10 มิ.ย. ข่าวทองภาคเช้า📊
📣 Highlight: ทองปิดลบ $5.6‼️เหตุบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งตามยีลด์ในยุโรป‼️ขานรับ ECB ส่งสัญญาณขึ้นดบ.สกัดเงินเฟ้อ‼️➕ ดอลล์แข็ง‼️ยูโรอ่อน‼️หลังนลท.วิตก ECB ขึ้นดบ.ฉุดศก.ในยูโรโซน‼️ฉุดทองร่วงเทส Low $1,839,98‼️ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
.
📌สรุปผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประจำเดือนมิ.ย.
.
   1️⃣ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด
.
   2️⃣ ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยุติการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ภายในสิ้นเดือนมิ.ย. ซึ่งเร็วกว่าที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้  #หนุนยูโร
.
   3️⃣ ECB ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. และปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ย. ซึ่งหากเงินเฟ้อในระยะกลางยังคงมีแนวโน้มพุ่งขึ้นต่อไป ECB ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในเดือนก.ย. #หนุนบอนด์ยีลด์ #กดดันทองคำ
.
   4️⃣ นางคริสติน ลาการ์ด ย้ำอีกว่า หากตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของ ECB ในเดือนก.ย.ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 2.1% ในปี 2024 ทาง ECB ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในเดือนก.ย. #หนุนบอนด์ยีลด์ #กดดันทองคำ
.
   4️⃣ นางคริสติน ลาการ์ด ชี้ว่า ECB จะปรับตราสารที่ถืออยู่ หรือ จะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ รวมทั้งเครื่องมือใหม่ หากมีความจำเป็น เพื่อรักษาเอกภาพในตลาดพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน ขณะที่ ECB เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน
.
❌ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.044% ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)#กดดันทองคำ
.
❌ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วยุโรปเพิ่มสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี  หลังจาก ECB ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเริ่มตั้งแต่ก.ค.เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง  ทั้งนี้  บอนด์ยีลด์ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 ที่ 3.715% ในขณะที่บอนด์ยีลด์ 10 ปีของเยอรมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนก.ค. 2014 ที่ 1.47% จากระดับ 1.37% ก่อนหน้านี้ #กดดันทองคำ
.
❌ ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB โดยคาดว่า ECB จะขึ้นดอกเบี้ย 145 bpsในปี 2022 #หนุนบอนด์ยีลด? #กดดันทองคำ
.
❌ เงินยูโรอ่อนค่าลง -0.92% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี  หลังจากที่ ECB เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 กระตุ้นความกังวลของนักลงทุน  เนื่องจากเศรษฐกิจในยูโรโซนอาจต้องเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น #กดดันทอง
.
❌ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.74% สู่ระดับ 103.307  #กดดันทอง
.
⭕️ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงและผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด #หนุนทอง
.
⭕️ ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 26 จุดเป็นครั้งแรกในเดือนนี้   #หนุนทอง
.
⭕️ เควิน มาทราส นักวิเคราะห์จากบริษัทแซคส์ อินเวสต์เมนท์ รีเสิร์ชกล่าวว่า นักลงทุนกังวลว่าการที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงและการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย #หนุนทอง
.
⭕️ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย #หนุนทอง
.
Source : Infoquest, Reuters, Bloomberg, CNBC, SPDR, Kitco, Investing
#YLGResearch

Tradingcentral บอกจะขึ้นมาให้น้องทุบ ก่อน ครับ

            🔔ราคาทองคำ ล่าสุดแม้ว่าจะยังไม่ได้ขึ้นมาตามแผน จากราคาเข้าที่ 1850 ตอนนี้ย่อลงมา 1840 ถือว่า ราคายังไม่ได้ลงมาต่ำกว่าแนวรับ 1830 นะครับ แนวโน้มราคาทองคำยังมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้จากเหตุผลทางเทคนิค 4 วันที่ผ่านมาถือว่า กราฟมาตามแผนได้ดี แม้ว่าจะมี Swing ขึ้นลงมาบ้างนะครับนะครับแม้ว่าจะค่อยๆมาก็ตาม ตอนนี้ความหวังของหมู่บ้าน นอกจากแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำที่ ค่อยๆ กลับมาแล้ว คงต้องมองไปที่ Usd index ครับ ต้องลุ้นให้น้องเขากลับไปอยู่ในแนวโน้มให้ได้หลังจากก่อนหน้านี้ ถือว่า กลับตัวขึ้นมาได้แรงจาก Head & Shoulder แต่ ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านขึนมาได้ แผนการเทรดทองคำ วันนี้ แอดมิน มองไปที่ การมีสัญญานขาขึ้นของ MaCD นะครับ ถือว่าชัดเจนเลยทีเดียวในทุก Time Frame ดังนั้น จาก Swing high ของราคาทองคำที่เกิดขึ้น ประกอบกับสัญญานทางเทคนิค วันนี้จึงมองไปที่ การ หาจังหวะ ในการเข้า buy ต่อเนื่อง ในราคาทองคำ โดยเป้าหมายของราคาทองคำมองไปที่แนว 1900 นะครับคิดว่าทองคำอยากจะมาทดสอบแนวนี้ ได้ในเร็วๆวันนี้ โดยมุมมองหลักตอนนี้ตราบใดยังไม่ลงไปต่ำกว่า ช่วง 1820-1830 ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ครับ ด้านกองทุน SPDR ยังคงนิ่งนะครับสำหรับเช้านี้


🏆🏆#SPDRไม่เปลี่ยนแปลง 🏆🏆

รายงานการถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Share  10 มิถุนายน 2565

ทองคำแท่ง รวมในคลัง SPDRล่าสุด ✅✅ 1065.39 ตัน

เดือนนี้  มิถุนายน 2565  ลดลง🔻🔻- 4.42 ตัน

ปีนี้ 2565 เพิ่มขึ้น ✅✅ + 89.73 ตัน

🎯🏆เทรดทองคำ : https://www.forex4you.link/

🏆สถิติกองทุน SPDR : https://bit.ly/2KE162k
🥇สถิติราคาทองคำไทย: http://bit.ly/383waCs

**********************************************
#ทองคำ,#ทองคำแท่ง,#กองทุนทองคำ,#ซื้อทอง,#spdrgoldtrust,#gold,#goldtrust,#goldshare,#ราคาทองคำ #traderider

🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔
#ติดตามข่าวสาร Forex,ทองคำ กับ TRADERIDER
🌐🌐เวปไซต์ :www.traderider.com
**********************************************

EU เทตามแผนนะครับแต่ ไม่ขึ้นไปรับจุดเข้า

อ้างจาก: admin ที่ 10, มิถุนายน  2022, 07:33:46 PM
EU เทตามแผนนะครับแต่ ไม่ขึ้นไปรับจุดเข้า

ว่าจะแซวอยู่

ลงตามแผน แต่ไม่ได้ขึ้นไปรับตามแผน 

อ้างจาก: Nathapon Intakanok ที่ 10, มิถุนายน  2022, 07:57:42 PM

อ้างจาก: admin ที่ 10, มิถุนายน  2022, 07:33:46 PM
EU เทตามแผนนะครับแต่ ไม่ขึ้นไปรับจุดเข้า

ว่าจะแซวอยู่

ลงตามแผน แต่ไม่ได้ขึ้นไปรับตามแผน 

น้องไม่รัก ครับอกหัก ซะแล้วน้องไปถึงเป้าหมาย พี่ชายไม่ได้ไปด้วย

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในวันนี้



ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 19% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 3 ครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.

ก่อนหน้านี้ เฟดได้เริ่มต้นวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้น 0.50% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.



ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%

ดัชนี CPI ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524

นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.7%

ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%



โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งทะลุระดับ 104 แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ



ณ เวลา 19.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.93% สู่ระดับ 104.13 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ขณะที่ยูโรพุ่งขึ้น 1.01% สู่ระดับ 141.14 เยน และร่วงลง 0.92% สู่ระดับ 1.052 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 134.20 เยน

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในวันนี้

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 19% เมื่อวานนี้



นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 3 ครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.

ก่อนหน้านี้ เฟดได้เริ่มต้นวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้น 0.50% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%

ดัชนี CPI ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524

นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.7%

ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%



โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

แดงเดือดทั้งโลก หุ้นสหรัฐร่วง 2-3%, ยุโรปร่วง3-5%, Bitcoin -1.8% หลังประกาศเงินเฟ้อสหรัฐสูงสุดในรอบ 40 ปี (ณ เวลา 21.41น.) #TAMEIG

⚠️[BREAKING]⚠️Bitcoin กลับมาติดตั้ง ATM อีกครั้งแล้ว

📌ครึ่งปี 2022 ผ่านไปที่เราพบว่าจำนวนการติดตั้ง BTC ATM ลดลง 89.75% ในเดือนพฤษภาคม จนกระทั่งมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเดือนมิถุนายน

    ทำให้ Bitcoin (BTC) กลับมาติดตั้ง ATM ในเดือนมิถุนายน 2565 โดยมีการติดตั้งตู้ ATM เพิ่มจำนวน 882 ตู้ภายใน 10 วันแรกของเดือน จากเดิมที่ในเดือนพฤษภาคม ลดจำนวนการติดตั้งจนเหลือตู้ ATM เพียง 205 แห่ง
.
    โดยช่วงล่าสุดเมื่อสามปีที่แล้วในปี 2019 ปี 2020 และ 2021 การติดตั้ง Bitcoin ATM เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกฎระเบียบที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ท่ามกลางราคาในตลาดที่คุ้มค่าที่จะลงทุน อีกทั้งราคาก็ยังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
.
    นอกจากนี้ การใช้ Bitcoin อย่างถูกกฎหมายในเอลซัลวาดอร์ก็มีส่วนทำให้การติดตั้งตู้ ATM เข้ารหัสลับเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว  กระทั่งประเทศจีนห้ามการซื้อขายและการขุด crypto ในประเทศ ทำให้การติดตั้ง ATM ทั่วโลกชะลอตัวลงชั่วคราว 

╔═══════════╗
น่าแปลกใจที่แม้จะมีอุปสรรคด้านกฎระเบียบ แต่จีนก็ยังกลายเป็นศูนย์กลางการขุด Bitcoin อันดับต้น ๆ อยู่ดี
╚═══════════╝
.
    ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการติดตั้ง Crypto ATM สูงสุดในปี 2564 โดยเดือนธันวาคมปี 2564 มีการติดตั้งตู้เอทีเอ็มในปี 1971 ในหนึ่งเดือน  อย่างไรก็ตาม จนถึงเดือนมิถุนายน 2565 ตัวเลขลดลง 89.75% ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะมีการกลับมาเพิ่มตู้ ATM อย่างรวดเร็วในเดือนนี้
.
    ทั้งนี้สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของตู้ ATM อย่างปัจจุบันทันด่วน นั่นก็คือเพื่อ ทำให้ผู้ใช้และนักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงิน fiat ของพวกเขาได้อย่างง่ายดายขึ้น

    แม้ว่าธุรกรรมของ ATM จะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องโดยรวมของเครือข่าย Bitcoin แต่ช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดหาสินทรัพย์ crypto เทียบกับสกุลเงิน fiat ได้สะดวกมากขึ้น  ผลที่ได้คือ ตู้ ATM เหล่านี้ก็จะผลักดันให้ Cryptocurrencies นั้นถูกนำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นนั่นเอง
.
    ในทำนองเดียวกัน อย่างเอลซัลวาดอร์ หลังจากยอมรับ Bitcoin ให้เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมายแล้ว ก็พบว่าจำนวนคนท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตขึ้นถึง 30% กันเลยทีเดียว
.
    ซึ่งเอลซัลวาดอร์ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยแรงสนับสนุนของ Cryptocurrencies และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลเกินจริงเลย

credit : #พันเนตร
source:  https://bit.ly/3xqTRTc
-===========================-
⭐ ขอบคุณทุกท่านที่กดติดตามเพจ CASE Forex ของเรา⭐ 

🔊 ฝากกด #Like กด #Share และเปิดกระดิ่งตั้งค่า #รายการโปรด หรือ #Favourite ไว้บนเพจได้เลย เพื่อที่จะได้รับข่าวสารและเคล็ดลับดีๆในการ
เทรดหุ้นforex ที่คุณพลาดไม่ได้

#CASEFOREX

(Jun 13) มีโอกาสมากขึ้น 'เฟด' ขึ้นดอกเบี้ย0.75%พุธนี้ ดัชนี 'ซีพีไอ' เดือน พฤษภาสูงลิ่ว 8.6%-ดับฝันเงินเฟ้อหยุดพุ่งแล้ว - ดัชนี "ซีพีไอ" ของสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 8.6% ในเดือน พฤษภาคม หลังจากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า   ทำให้ธนาคารในวอลล์สตรีทบางรายเพิ่มการคาดการณ์ว่า "เฟด" จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.75% หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพุธนี้ (15 มิ.ย.) จากที่ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่คาดว่าจะขึ้น 0.50% และขึ้นในอัตราเดียวกันอีก  2 ครั้งในเดือน กรกฎาคม และกันยายน  ดาวโจนส์ดิ่ง 800 กว่าจุด
         
หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของ เดือนพฤษภาคม โตเร็วกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้นถึง 8.6% เนื่องจากต้นทุนอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงสุดนับตั้งแต่ปี  2524  ธนาคารในวอลล์สตรีทจำนวนหนึ่งได้เพิ่มประมาณการว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นจะต้องขึ้นดอกเบี้ยมากเพียงไรเพื่อยับยั้งเงินเฟ้อในเดือนที่จะมาถึง
         
ในขณะนี้บาร์เคลย์มองว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลาสองวันในวันพุธที่ 15 มิถุนายนนี้ โดยเป็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี  ขณะที่นักกลยุทธ์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ  0.50% ในการประชุมสามครั้งข้างหน้า
         
ราคาตราสารดอกเบี้ย เฟด ฟันด์ เมื่อวันศุกร์ก็สะท้อนว่า มีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ภายในเดือนกรกฎาคม โดยมีโอกาสหนึ่งในห้าที่จะขึ้น 0.75% ในสัปดาห์นี้  จากที่มีโอกาสเพียงหนึ่งในยี่สิบก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานเงินเฟ้อ
         
ผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 85 คนของรอยเตอร์ในระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยดัชนีซีพีไอ  คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.50% หลังเสร็จสิ้นการประชุมวันพุธที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 1.25-1.50%  หลังจากที่ได้ขึ้น 0.50% เมื่อเดือน พฤษภาคม
         
นักเศรษฐศาสตร์เกือบทุกคนโดยยกเว้นเพียงไม่กี่คน คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อีกครั้งในเดือน กรกฎาคม และในขณะที่ 59 คน หรือมากกว่าสองในสาม คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน กันยายน และมี 23 คน หรือมากกว่าหนึ่งในสามมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งประมาณครึ่งเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเดือนที่ผ่านมาที่มีเพียงหนึ่งในห้าคน
         
ก่อนจะมีการเปิดเผยดัชนีซีพีไอเมื่อวันศุกร์ นักเศรษฐศาสตร์ 43 คน มีความเห็นโดยเฉลี่ยว่า มีความเป็นไปได้ 50%
         
ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน กันยายน และมีความเป็นไปได้เฉลี่ย 30% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เหมือนกันในเดือน พฤศจิกายน และมีความเป็นไปได้ 25% ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน ธันวาคม
         
เกือบ 60% หรือ 24 ใน 41 คน กล่าวว่า เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกหรือไตรมาสสองของปีหน้า และ 9 คนกล่าวว่า จะหยุดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าหรือหลังจากนั้น  ส่วนที่เหลือกล่าวว่าจะหยุดขึ้นบางครั้งในปีนี้
         
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดจะเกินกว่าระดับปานกลางที่ 2.4% โดยประมาณ  ภายในปลายปี โดยดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วง 2.50-2.75% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของตลาดซึ่งอยู่ในช่วง 2.75%-3.00% เล็กน้อย
         
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ระดับดอกเบี้ยในขั้นสุดท้ายจะอยู่ที่ 3.00-3.25% หรือสูงกว่านี้ภายในปลายไตรมาสสองของปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าผลสำรวจเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน 3 เดือน และนั่นเท่ากับว่าดอกเบี้ยจะสูงกว่าระดับปานกลางอย่างน้อย 0.75% และสูงกว่าระดับสูงสุดของวงจรการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายซึ่งอยู่ที่ 2.25-2.50%
         
การคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยได้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่แดนตลาดหมีเป็นช่วงสั้น ๆ ในเดือนที่ผ่านมาและผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่มีอายุไถ่ถอน 10 ปี สูงกว่า 3% เป็นครั้งแรกในรอบสามปี และยังทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยได้
         
ผลการสำรวจของรอยเตอร์ชี้ว่า มีความเป็นไปได้เฉลี่ย 40% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยในช่วงสองปีข้างหน้า โดยมีโอกาส 25% ที่จะเกิดภาวะถดถอยในปีหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะโต 2.6% ในปีนี้ และโต 2.0% ในปีหน้าซึ่งลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนที่ผ่านมา
         
หลังมีการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเมื่อวันศุกร์  ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงเทขายในวงกว้าง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 880 จุด หรือ 2.73% ที่ระดับ  31,392.79 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง  2.91% ปิดที่ 3,900.86 จุด  ส่วนดัชนีแนสแด็กปรับตัวลง 3.5% ปิดที่ 11,340.02 จุด
         
นักกลยุทธ์ตลาดหุ้นกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อทำให้ความหวังที่ว่าเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดแล้วดับไป ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อกำไรบริษัทอเมริกัน ยิ่งเพิ่มความกังวลให้นักลงทุน

Source: ข่าวหุ้น

ขาทุบมุดกันต่อครับวันนี้