(Aug 11) WHO ต้องการงบเร่งด่วน 7.7 พันล้านดอลล์ วอนชาติร่ำรวยช่วยกู้วิกฤตไวรัสเดลตา : องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้มีการระดมเงินทุนมูลค่า 7.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นงบประมาณเร่งด่วนที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดหาวัคซีน ออกซิเจน และความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้ประเทศรายได้น้อยสามารถผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

"งบประมาณดังกล่าวจะนำไปใช้ในโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 (Access to Covid-19 Tools - ACT) ของ WHO ซึ่งจะส่งมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นไปทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 " ดร.บรูซ ไอล์วาร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้อำนวยการใหญ่ WHO ชี้แจงต่อข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ WHO ในระหว่างการไลฟ์สด

ดร.ไอล์วาร์ดกล่าวว่า งบประมารณดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อนำไปใช้อุดหนุนโครงการวงเงิน 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ยังขาดแคลนอยู่บางส่วน ทำให้ WHO ไม่สามารถต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ในประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าถึงวัคซีนได้ต่ำหรือยังเข้าไม่ถึงเลย

ดร.ไอล์วาร์ดระบุว่า ประชาชนในประเทศยากจนไม่สามารถเข้าถึงชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เมื่อมีอาการไข้หรืออาการอื่นๆ เพื่อที่จะทราบว่าเป็นอาการของโควิด-19 หรือโรคอื่นๆ เช่น มาลาเรีย, วัณโรค, ปอดบวม หรือเอชไอวี นอกจากการจัดหาวัคซีนแล้ว ดร.ไอล์วาร์ดยังกล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวควรจะต้องครอบคลุมการตรวจหาเชื้อ, การรักษาโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ และจัดสรรหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ WHO ตั้งเป้าหมายในการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชากรโลก 10% เป็นอย่างน้อยภายในเดือนก.ย.นี้ และเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40% ภายในปีนี้ และให้ได้ 70% ในช่วงกลางปีหน้า ในขณะที่บางประเทศยังไม่ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีน แต่ประเทศร่ำรวยอย่างสหรัฐและอิสราเอลฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศครบสองโดสแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง

"ประเทศร่ำรวยทุ่มเงินเป็นล้านล้านดอลลาร์เพื่อยับยั้งการระบาด เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เป็นสิ่งที่บอกว่า คุณจะต้องฉีดวัคซีนให้โลกด้วย" ดร.ไอล์วาร์ดกล่าว

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุภัค โห้พึ่งจู/รัตนา

☀️YLG_Update : 11 ส.ค. ข่าวทองภาคเช้า📊
.
📣 Highlight: ทองปิดทรงตัว‼️ขณะที่ดอลล์ยังแข็ง‼️บอนด์ยีลด์พุ่งต่อ‼️รับข่าววุฒิฯสหรัฐไฟเขียวร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านดอลล์ ➕ยูโรอ่อนหลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีแย่เกินคาด‼️ฉุดทองร่วงลงแตะ Low $1,717.81‼️ก่อนแรงซื้อ Buy the dip หนุนราคาฟื้นปลายตลาด‼️ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
.
📌 วุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้  ก่อนส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
.
❌ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 แตะ 1.359% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. หลังวุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมเปิดการอภิปรายเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์  นั่นหมายถึงอุปทานพันธบัตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต #กดดันทอง
.
❌ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.11% สู่ระดับ  93.07โดยแข็งค่าขึ้น 3 วันทำการติดต่อกันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์  เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าตัวเลขการจ้างงานรอบล่าสุดอาจผลักดันให้เฟดเริ่มลด QE ในเร็วๆ นี้ #กดดันทอง
.
❌ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์  หลังจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันเนื่องจากความกังวลว่าการติดเชื้อ COVID-19 ระลอกที่ 4 อาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป  #กดดันทอง
.
❌ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีในเดือนส.ค.ลดลงเหลือ 40.4 จาก 63.3 จุดในเดือนก่อนหน้า  ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 56.7 #กดดันทอง
.
❌ ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากหดตัว 2.8% ในไตรมาส 1  เมื่อเทียบรายปี ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 0.1% ในไตรมาส 2  #กดดันทอง
.
❌ กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 146 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.    #กดดันทอง
.
❌ ดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ #กดดันทอง
.
⭕️ นาย Charles Evans ประธานเฟดชิคาโก กล่าวเมื่อวันอังคาร  อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบันไม่ควรผลักดันให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควร โดยต้องมีข้อมูลแรงงานอีกหลายเดือนก่อนการเปลี่ยนแปลงใดๆ เช่นเดียวกับต้องให้แน่ใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด #หนุนทอง
.
⭕️ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไบออนเทค ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในธุรกิจยาของเยอรมนี จะช่วยหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นถึง 0.5% ในปีนี้ #หนุนทอง
.
⭕️ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3% ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% #หนุนทอง
.
⭕️ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวลง 2.8 จุด สู่ระดับ 99.7 ในเดือนก.ค. หลังจากดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. #หนุนทอง
.
⭕️ รัฐบาลเกาหลีเหนือเดินหน้าวิพากษ์วิจารณ์โจมตีแผนการร่วมซ้อมรบทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่มีกำหนดเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ พร้อมขู่ว่า การดำเนินแผนงานดังกล่าวทำให้กรุงเปียงยางจำต้องเริ่มพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธของตนให้สูงขึ้นไปอีก  #หนุนทอง
.
Source : Infoquest, Reuters, Bloomberg, CNBC, SPDR, Kitco, Investing
#YLGResearch

หลังจาก EU ทำ New Low ใหม่ในรอบ 3 เดือนได้ตอนนี้กำลังจ่อที่ จำทำ New Low ใหม่ ในรอบ 5 เดือน กับ 9 เดือน ตามลำดับ

โดย 5 เดือน ราคาจะต่ำกว่า 1.1700
      9 เดือน ราคาจะต่ำกว่า 1.1600

โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.1735 ตอนนี้มีลุ้นมากสำหรับ Pattern Head & Shoulder ใน กราฟ Day แผนการเทรดวันนี้ยังคง เน้นไปในการหาจังหวะ Sell ลุ้น New Low ใหม่ในรอบ 5 เดือน ครับ

🔔🔔 ราคาทองคำ เช้านี้ ยัง Sideway แนว 1730-1735 โดยมี Low ของเมื่อวานอยู่ที 1717.80 โดย Low ล่าสุด อยู่ที่ 1686 จากวันจันทร์ที่ผ่าน มา โดยภาพรวมแล้วราคาทองคำยังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลล่าห์และความกังวล ในเรื่องการ ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นและ ลดวงเงิน QE เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิน สหรัฐนั้นดีขึ้นมาก แบบน่าตกใจ  จากรูป กราฟหลุด 3 เหลี่ยมลงมาเป็นขาลงแล้ว แนวต้านสำคัญตอนนี้ 1795-1800$ และแนวรับก่อนหน้า 1750$ ตอนนี้กลายเป็นแนวต้านไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากราคาอยู่ต่ำกว่า ราคา แนวต้านนี้ดังนั้น วันนี้จึง รอเข้า Sell ที่จุดนี้ก่อน ครับ โดยมีแนวต้านถัดไปที่แนว 1775-1780 วันนี้ มอง ที่การ Swing ระหว่าง 1750-1720 ช่วงนี้นะครับเนื่องจากวันนี้ กราฟวิ่งแรงไปแต่เช้าแล้ววันนี้จึงยังไม่น่าจะมีการทำ Low ใหม่หรือ high ใหม่แต่อย่างใด ดังนั้นวันนี้ จึงเข้า Sell ตามแนวต้าน ครับ แต่อย่างไรก็ตาม นะคัรบแนวต้านสำคัญ ตรง 1795-1800 ยังคงเป็นแนวต้านหลักตอนนี้ ให้เผื่อ ระยะ Stop loss ให้สูงกว่าแนวนี้ไว้ด้วย นะครับ


🔔📣🔕🔔
🆘🆘ไม่เปลี่ยนแปลง🆘🆘

รายงานทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Share  11 สิงหาคม 2564

ทองคำแท่งในคลัง SPDRล่าสุด ❌❌ 1023.54 ตัน

เดือนนี้  สิงหาคม 2564 ลดลง ⭕️🔕 - 7.92  ตัน

ปีนี้ 2564 ลดลง  🔻🔻 147.20 ตัน

#เครื่องมือช่วยเทรดทองคำ
#ราคาทอง วันนี้ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทองคำ คลิกที่ นี่ : : https://bit.ly/2KCAAWV
#อัพเดทการซื้อขายทองคำ ของ SPDR Gold  ที่ลิ้งนี้ : : https://bit.ly/2KE162k

**********************************************
#ทองคำ,#ทองคำแท่ง,#กองทุนทองคำ,#ซื้อทอง,#spdrgoldtrust,#gold,#goldtrust,#goldshare,#ราคาทองคำ #traderider

🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔
#ติดตามข่าวสาร Forex,ทองคำ
🌐🌐เวปไซต์ :www.traderider.com
**********************************************
🎯แนะนำ Forex โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนไทยมานานหลายปี โดยมี License FCA เป็นเครื่องการันตี รวมถึงรีวิวดีๆ จากทั่วโลก สามารถเลือกบัญชีได้หลากหลายประเภท ฝากถอนเงิน รวดเร็ว ลองเลย click : https://bit.ly/34ptfnL
🎯FXTM เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมโดยคนไทยในการใช้เทรด ค่าเงิน และ ทองคำ สามารถฝาก ถอน เงินได้อย่างรวดเร็ว ทันใจใน 24 ชั่วโมงในวันทำการ ลองเลย click : https://bit.ly/34ptfnL
**********************************************

 

USD/CAD อาจร่วง 16 - 31 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)
1.2545

จุดที่ต้องการ
สถานะขายต่ำกว่า 1.2545 เป้าหมายต่อไปที่ 1.2505 และ 1.2490

ทางเลือกการลงทุน
สูงกว่า 1.2545 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.2565 และ 1.2590 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค
หาก 1.2545 ยังคงเป็นแนวต้าน คาดหมายว่าจะเกิดราคาที่แกว่งตัวแบบผันผวนที่มีมุมมองเชิงลบ

แนวรับและแนวต้าน

1.2590

1.2565

1.2545

1.2521 สุดท้าย

1.2505

1.2490

1.2470

จำนวนเครื่องหมายดอกจันแสดงถึงความแข็งแกร่งของระดับแนวรับและระดับแนวต้าน

AUD/USD อาจขึ้น 15 - 30 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)
0.7330

จุดที่ต้องการ
สถานะซื้อสูงกว่า 0.7330 เป้าหมายต่อไปที่ 0.7360 และ 0.7375

ทางเลือกการลงทุน
ต่ำกว่า 0.7330 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 0.7315 และ 0.7300 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค
มีการสร้างฐานแนวรับที่ 0.7330 และช่วยให้เกิดเสถียรภาพชั่วคราว

แนวรับและแนวต้าน

0.7390

0.7375

0.7360

0.7345 สุดท้าย

0.7330

0.7315

0.7300

USD/CHF อาจขึ้น 15 - 30 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)
0.9205

จุดที่ต้องการ
สถานะซื้อสูงกว่า 0.9205 เป้าหมายต่อไปที่ 0.9235 และ 0.9250

ทางเลือกการลงทุน
ต่ำกว่า 0.9205 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 0.9190 และ 0.9170 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค
แม้จะไม่สามารถยอมรับความต่อเนื่องของราคายืนได้ แต่ก็ควรจะจำกัดขอบเขต

แนวรับและแนวต้าน

0.9265

0.9250

0.9235

0.9220 สุดท้าย

0.9205

0.9190

0.9170

USD/JPY อาจขึ้น 8 - 23 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)
110.45

จุดที่ต้องการ
สถานะซื้อสูงกว่า 110.45 เป้าหมายต่อไปที่ 110.70 และ 110.85

ทางเลือกการลงทุน
ต่ำกว่า 110.45 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 110.30 และ 110.15 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค
การทะลุผ่านเหนือระดับ 110.45 ขึ้นไปเป็นสัญญาณบวกที่เปิดโอกาสให้ไปอยู่ที่ 110.70 ได้

แนวรับและแนวต้าน
111.00

110.85

110.70

110.62 สุดท้าย

110.45

110.30

110.15

☀️YLG_Update : 11 ส.ค. ข่าวทองภาคบ่าย📊
📣 Highlight: ดอลล์ยังแข็ง‼️บอนด์ยีลด์พุ่งต่อ‼️ ขานรับวุฒิฯสหรัฐไฟเขียวร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านดอลล์ สกัดช่วงฟื้นทอง  📌19.30น.จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ(CPI)‼️ พร้อมระวังความผันผวน‼️
⭕️ กูรูหวั่นจีนล็อกดาวน์โควิดฉุดศก.โลก-อาจหั่นคาดการณ์จีดีพี #หนุนทอง
❌ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 รักษาแรงบวกแถว 1.35% หลังวุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ #กดดันทอง
❌ ดัชนีดอลลาร์ยืนเหนือ 93 และอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์  จากความหวังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแข็งแกร่ง #กดดันทอง
❌ ตัวเลขจ้างงานเกาหลีใต้เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 #กดดันทอง
❌ สื่อสหรัฐฯ เผย มีพลเมืองอเมริกันราว 1.1 ล้านราย เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว แม้ทางการชี้ ยังไม่จำเป็นในเวลานี้ #กดดันทอง
📌 วันนี้ 19.30 น. ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งมาตรวัด"เงินเฟ้อ" ทั้งนี้  ตัวเลขที่ออกมาจะกระทบต่อการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดและอาจสร้างความผันผวนให้ราคาทองคำ  และติดตามถ้อยแถลงของนายบอสติก ประธานเฟดแอตแลนตาเพิ่มในช่วงเวลา 21.30 น.
Source : Infoquest, Bangkokbiznews, Investing, Forexfactory
#YLGResearch

ราคายังคงปรับตัวลงมาได้อย่างต่อเนื่องจนใกล้จะมาทดสอบ low เดิมของเดือนมีนาที่ผ่านมาได้แล้วนะครับ ตอนนี้กราฟยังคงไม่มีสัญญาณการกลับตัวขึ้นใดๆ คาดว่าราคาน่าจะลงมาทำ new low ลงไปหา 1.1650-1.1615 ได้ต่อ สำหรับแนวต้านวันนี้มีแนวต้านอยู่ที่ 1.1753 ซึ่งเป็นสวิงโลวล่าสุดที่กราฟเบรกลงมาได้ครับ ก็มารอให้กราฟย่อขึ้นไปทดสอบค่อยทุบกลับลงมากันอีกทีครับ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.



--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ณ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.08% สู่ระดับ 110.47 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.05% สู่ระดับ 129.61 เยน และดีดตัว 0.12% สู่ระดับ 1.173 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.1% สู่ระดับ 92.96 กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.

ตัวเลขเงินเฟ้อที่สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ได้ลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.



--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ