การใช้อินดิเคเตอร์ Alligator
อินดิเคเตอร์ Alligator เป็นอินดิเคเตอร์ที่พัฒนามาเพื่อเรื่องของเทรนโดยเฉพาะ ที่บอกเรื่องของเทรน และจุดเข้าตอนเทรนเริ่มตอนเกิด Momentum และจุดออกตอนเทรนอ่อน โดย Bill Williams ที่เป็นผู้พัฒนา ด้วยสมมุติฐานที่ว่า ตลาดเคลื่อนไหวทำเทรนแค่ 15%-30% เท่านั้น เวลาที่เหลือ 70%-80% ส่วนมากจะเป็นช่วงที่ตลาดวิ่งอยู่ในกรอบหรือ sideway เป็นหลัก ดังนั้นโอกาสทำกำไรได้จะมีแต่ช่วงที่ตลาดทำเทรนเท่านั้น
Bill Williams จะใช้พฤติกรรมของจระเข้เพื่อบรรยายพฤติกรรมของตลาด ช่วงที่ไม่มีเทรน หรือตลาด sideway เทียบได้กับช่วงที่จระเข้นอน หลังจากนั้นจระเข้ก็จะตื่นขึ้นมาและมองหาเหยื่อ ช่วงนี้เป็นช่วงเทรนของตลาด ส่วนเทรนจะแข็งมากขนาดไหน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงระยะเวลาของช่วง sideway เพราะเทียบกับว่าความหิวของจระเข้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่ามันนอนนานหรือเปล่า ยิ่งนานยิ่งหิวมาก ดังนั้นเทรดเดอร์ก็จะใช้ Alligator เพื่อกำหนดสถานะตลาดช่วงต่างๆ และหาโอกาสเข้าเทรด
การใช้ Alligatorอินดิเคเตอร์ Alligator เป็นอินดิเคเตอร์มาตรฐานที่มากับโปรแกรมเทรด Metatrader เรียกใช้ได้ด้วยการไปที่ Insert -> Indicators -> Bill Williams แล้วเลือก Alligator ก็จะได้ตามภาพประกอบ อินดิเคเตอร์ Alligator ต่างจากอินดิเคเตอร์อื่นคือ ค่ามาตรฐานแทบไม่ต้องปรับแต่งเลยเป็นค่าที่ทำงานได้ดีอยู่แล้ว มาดูว่า Settings มีค่าอะไรบ้าง หลักๆ จะมี 3 ส่วนกำหนดสำหรับไปหาค่าเส้น MA คือ Jaws period 13 และ Shift 8, Teeth period 8 และ Shift 5 และ Lips period 5 และ Shift 3 และมีการปรับค่าวิธีหาค่า Method = Smoothed และ Apply to = Median Price (HL/2) หลักๆ มีเท่านี้ และสามารถปรับรูปร่างแล้วสีได้ตรงที่ Color
มองดูการแสดงผลที่ชาร์ต จะเป็นแบบหลักการแสดงผลแบบ Moving Average ดีๆ นี่เอง แต่ที่มากกว่าคือมีการ Shift หรือตรงผลแต่ละเส้นไปด้านขวา หรือยังไม่เกิดขึ้นถ้ามองที่ชาร์ต ตามจำนวนแท่งเทียนที่กำหนดใน Shift ของแต่ละเส้น มองดูที่ชาร์ตที่มีการเพิ่มแท่งเทียนเข้าไป เพื่อให้เข้าใจการนำเสนอ ดังนั้นเมื่อเราศึกษาย้อนหลังจากชาร์ตที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่ลืมว่าเส้น 3 เส้นของ Alligator มีการ shift ไปข้างหน้าด้วย
อธิบาย 3 เส้นต่อไปนี้ Alligator จะกำหนดสถานะเทรนด้วย 3 เส้น Moving Average แต่ละเส้นก็จะเปรียบเทียบได้กับ 3 ส่วนของปากจระเข้ ตามชื่อแต่ละเส้นบอก คือเส้น
Alligator's Jaw [กรามจระเข้] – เส้นสีน้ำเงิน ค่าสำหรับ Period 13 มากสุดในการเอาไปหาค่าเส้น เลยเป็นเส้นที่เคลื่อนไหวช้าสุด และ shift แท่งเทียนไปข้างหน้ามากสุดคือ 8 แท่งเทียน
Alligator's Teeth [ฟันจระเข้] – เส้นสีแดง ค่าสำหรับ Period 8 น้อยกว่าค่าของ Jaw เลยเป็นเส้นที่เคลื่อนไหวเร็วกว่าเส้น Jaw และ shift แท่งเทียนไปข้างหน้า 5 แท่งเทียน น้อยกว่าของเส้น Jaw
Alligator's Lips [ริมฝีปากจระเข้] – เส้นสีเขียว ค่าสำหรับ Period 5 น้อยสุดในการเอาไปหาค่าเส้น เลยเป็นเส้นที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุด และ shift แท่งเทียนไปข้างหน้ามากสุดคือ 3 แท่งเทียน
การตีความ Alligator เพื่อเทรดแต่ละเส้น จะมีค่ากำหนด Period ต่างกันออกไป [เส้น 3 เส้นนี้เปรียบได้กับการทำงานเส้น MA ความเร็วการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับค่า Period ยิ่งน้อย ยิ่งเปลี่ยนแปลงเร็ว ยิ่งมากยิ่งเปลี่ยนแปลงช้า] หลักการตีความก็จะมองความสัมพันธ์ของ 3 เส้นต่อกันเอง, ความสัมพันธ์ 3 เส้นกับราคา และทิศทางของเส้นและราคา หลักการหลักๆ คือ การใช้ Alligator เพื่อบอกสถานะของเทรนว่าเป็นอย่างไร อธิบายได้ด้วยการเปรียบเทียบดังนี้ เมื่อทั้ง 3 เส้น อยู่พื้นที่เดียวกันพันกันไปมา หรืออยู่แถวเดียวกัน เทียบได้กับว่าจระเข้กำลังนอนหรือนอนอยู่แล้ว ยิ่งนอนนานก็ยิ่งจะหิวมาก พอนอนนานตื่นขึ้นมาก็ยิ่งจะหิวมาก สิ่งแรกที่ทำหลังจากตื่นคือเปิดปากและอ้างปากค้างรอ พอได้กลิ่น มันค่อยจะเริ่มล่า หลังจากได้กินอิ่นเต็มที่มันก็ไม่สนใจเหยื่อก็จะหยุด เทียบได้กับตอนหยุดเป็นตอนปิดทำกำไร
ดังนั้น Alligator จะบอกเรื่องของสถานะของเทรนด้วยการเปรียบเทียบพฤติกรรมของจระเข้ เทรดเดอร์ก็จะใช้ Alligator กำหนดสถานะเทรนเรื่องไม่มีเทรนหรือ sideway หรือ consolidation, ช่วงเทรนกำลังสร้าง หรือจนเริ่มต้นเทรน และทิศทางของเทรน การตีความก็จะตีความจากเส้น 3 เส้นที่สัมพันธ์ต่อกันเอง ทิศทาง ระยะห่างต่อกันเอง การตัดกันเอง และสัมพันธ์กับราคาอย่างไร
ช่วงไม่มีเทรน [Lack of The Trend] - ดูที่เลข 1 บอกถึงช่วงไม่มีเทรน หรือ Sideway/Consolidation เทียบได้กับช่วงจระเข้นอน เส้นทั้ง 3 จะพันกันอยู่พื้นที่เดียวกัน หรือปิดพื้นที่เดียวกัน ไม่ห่างกัน ไม่บอกทิศทางขึ้นหรือลง เส้นตัดกันไปมา แต่กำหนดทิศทางไม่ได้ แบบนี้ตามหลักการผู้พัฒนาแนะนำไม่ให้เปิดเทรด
ช่วงเริ่มสร้างเทรน [Trend Formation] – ดูที่เลข 2 จุดแรกที่เห็นว่าเทรนเริ่มคือจะเห็นว่าเส้นที่เร็วสุด จะตัดเส้นอื่นๆ อีก 2 เส้น และทุกเส้นควรเป็นไปทางเดียวกัน ตรงนี้ดูระยะห่างระหว่างเส้นประกอบด้วย ก็จะบอกถึงความแข็งของเทรน ยิ่งถ้าเส้นห่างกันมาก เทรนก็จะแข็งมาก
ทิศทางของเทรน – ถ้าดูจากราคาและเส้น Alligator บอกเทรนง่ายว่า ถ้าเส้น Alligator ทั้ง 3 เส้นต่ำกว่าราคา บอกว่าเป็นเทรนขึ้น (uptrend) แต่ถ้าเส้นทั้ง 3 เหนือกว่าราคาบอกว่าเป็นเทรนลง (downtrend) อธิบายต่อที่เลข 3 พอเส้นสีเขียวดันขึ้น และอีก 2 เส้นหันไปทางเดียวกันบอกว่าเทรนน่าจะเริ่มเกิด พอต่อมา วิ่งไปตามเทรนที่เกิดขึ้นจริง ดูการแสดงผลของเส้น Alligator ทิศทางไปทางเดียวกัน ระยะห่างกันมาก บอกถึงความแข็งของเทรน ถึงตอนนี้เราสามารถใช้ Alligator อ่านได้ ไม่มีเทรนเป็นอย่างไร เริ่มสร้างเทรนเป็นอย่างไร และทิศทางและความแข็งของเทรนเป็นอย่างไร
จากการตีความก็จะอิงความสัมพันธ์ระหว่างเส้นและราคา และระยะห่างระหว่างเส้นกันเอง และระยะห่างระหว่างเส้นกับราคา การเปิดเทรดและ stop loss และ take profit ก็จะสัมพันธ์กับการตีความพวกนี้หมด จะเห็นว่าจุดแรกที่เราต้องการมองคือ การเริ่มสร้างเทรน เราก็จะหาการตัดกันระหว่างเส้นก่อนแท่งทียนนั้นจบค่อยหาโอกาสเทรดตามไป ยิ่งเห็นระยะห่าง ระหว่างเส้นด้วย ก็ยิ่งรอได้ จนกว่าเส้นเริ่มวิ่งหากันอีก หรือถึงจุดตัดกันค่อยปิดทำกำไร แต่แนะนำให้ใช้ Alligators กับ Technical analysis อื่นประกอบ
เช่นการเปิดเทรดด้วย Alligator ข้อ 1 รอการตัดกันระหว่างเส้น พอตัดกับแล้ว เราได้เห็นว่าราคาได้เบรค Low พื้นที่ด้วยเราก็กำหนดตรงนั้นเป็น Resistance ที่เลข 2 ต่อมาอีกหลายแท่งเทียนได้ ราคาได้ขึ้นมาทดสอบและแท่งเทียนปิดล่าง ก็เปิดเทรด Sell ที่เลข 3 ดูเทรนที่เกิดขึ้นและระยะห่างเส้นกันเอง และราคาห่างมากพอที่จะถือรอได้ แต่เลข 4 ต้องคอยสังเกต ถ้าราคาเด้งกับมาแถวเส้นได้ บอกว่าเทรนเริ่มอ่อน สุดท้ายราคาลงต่อถึง Alligator มาตัดกันที่เลข 5 นั่นคือจุดที่ปิด Take Profit