☀️YLG_Update : 29 เม.ย. ข่าวทองภาคเช้า📊
.
📣 Highlight: ทองทะยาน‼️หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย-คงวงเงิน QE ‼️➕พาวเวลล์ชี้ยังไม่ถึงเวลาหารือลด QE‼️กดบอนด์ยีลด์ 10 ปีลดช่วงบวก‼️➕ดอลล์ดิ่งหนัก‼️หนุนทองพุ่งกว่า $20 จาก Low $1,762.50‼️สู่ High เช้านี้ที่ $1,788‼️ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
.
🚨เช้านี้จับตา‼️ ปธน.ไบเดนแถลงต่อสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
.
⭕️ สรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประจำเดือนเม.ย. 2021 ดังนี้
.
   ▶️ เฟดมีมติ "คง" อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% #หนุนทอง
.
   ▶️ เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน #หนุนทอง
.
   ▶️ พาวเวลล์ย้ำชัดอีกครั้งว่า "ยังไม่ถึงเวลาที่จะหาคือเกี่ยวกับการลด QE (QE tapering)" #หนุนทอง
.
   ▶️ พาวเวลล์ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวในปีนี้จะไม่เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย  ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์มีความเหมาะสมจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย #หนุนทอง
.
⭕️ ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลง 0.32% สู่ระดับ 90.597 เมื่อคืนนี้  หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงิน QE ตามคาด และไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม #หนุนทอง
.
⭕️ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงจาก 1.659% สู่ระดับ 1.618% หลังถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ย้ำชัดว่า  ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหารือเกี่ยวกับการลด QE เนื่องจากเศรษฐกิจยังห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ #หนุนทอง
.
⭕️ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง #หนุนทอง
.
⭕️ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 164.55 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิด -0.08% ดัชนี Nasdaq ปิด -0.28%  หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย-คงวงเงิน QE #หนุนทอง
.
❌ เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของนายอีลอน มัสก์ ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.ว่า ทางบริษัทได้ลงทุนในบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค.  #กดดันทอง
.
❌ GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดของเยอรมนี เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีสำหรับเดือนพ.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ -8.8 จากระดับ -6.1 ในเดือนเม.ย. #กดดันยูโร #กดดันทอง
.
❌ เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ออกรายงานระบุว่า ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนในช่วง 100 วันแรกของการทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน สูงกว่าประธานาธิบดีทุกคนนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา  #กดดันทอง
.
Source : Infoquest, Reuters, Bloomberg, CNBC, SPDR, Kitco, Investing
#YLGResearch

  ...ขอบคุณค่าาาา..

ละไม่ได้ช่วงนี้..ต้องเฝ้าหน้าจอให้ดี..ต้องเฝ้า ต้องเฝ้า ต้องเฝ้า..

เจ็บตัวไปเบาๆครับเมื่อวาน วันนี้แก้มือใหม่ 

                 🔔🔔 ราคาทองคำ จากเมื่อวานก็ถือว่า ขา Sell ปิดลบมาเล็กน้อย นะครับ โดยจากข่าว Fed เมื่อคืนนี้ที่ผ่านก็น่าจะได้ทราบผลกันไปแล้ว โดยรวมคือ มีผลกระทบทำให้ USD อ่อนค่า กับทุกสกุลเงิน เนื่องจาก Fed ไม่มี มาตรการอะไรเปลี่ยนแปลง ในเชิงนโยบาย ดังนั้น TFM30 ที่พากราฟลงไปได้ถึง 1762$ จาก high 1798 ก็โดนสวนด้วยข่าวตามระเบียบ ครับแนวโน้มกราฟวันนี้ได้กลับมาเป็นขาขึ้นแล้วแต่เนื่องจากความผันผวนยังคงมีอยู่ดังนั้น แนะนำให้รอ กราฟราคาทองคำ ย่อมาประมาณแนว 50% ของกราฟ Day เมื่อวานก่อน Buy ขึ้นไปนะครับคือเนื่องจาก นักลงทุนคลายความกังวลจาก Fed ได้แล้วกราฟจะเริ่มมี Volume ดังนั้นกราฟจะเริ่มเหวี่ยง หรือ Swing มากกว่าเดิม ครับ แต่อย่างไรแนวโน้มกราฟตอนนี้ H1 กับ H4 ยังขึ้นต่อเนื่องแนะนำหาจังหวะ Buy ตามเทรน ครับ โดย กองทุน SPDR ยังคงยิ่งอยู่ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับ

✅✅✅# SPDR ไม่เปลี่ยนแปลง✅✅✅

รายงานการถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Share  2ค เมษยน 2564

🏆🏆 ✅✅✅#ไม่เปลี่ยนแปลง✅✅✅

ทองคำแท่ง รวมในคลัง SPDRล่าสุด ❇️❇️ 1021.70ตัน

เดือนนี้  เมษายน 2564 ลดลง  🔻🔻15.80 ตัน

ปีนี้ 2564 ลดลง  🔻🔻 149.04 ตัน

#เครื่องมือช่วยเทรดทองคำ
#ราคาทอง วันนี้ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทองคำ คลิกที่ นี่ : : https://bit.ly/2KCAAWV
#อัพเดทการซื้อขายทองคำ ของ SPDR Gold  ที่ลิ้งนี้ : : https://bit.ly/2KE162k

**********************************************
#ทองคำ,#ทองคำแท่ง,#กองทุนทองคำ,#ซื้อทอง,#spdrgoldtrust,#gold,#goldtrust,#goldshare,#ราคาทองคำ #traderider

TRADERIDER.COM

#โบนัสเทรดฟรี 50$ จาก XM.com #เทรดforex,#เทรดทองคำ,#กำไรถอนได้ Click: https://clicks.pipaffiliates.com/c?m=46802&c=585911

(Apr 28) "พาวเวล" เผยเฟดยังไม่ถึงเวลาหารือลดวงเงิน QE แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง : นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า "ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่คณะกรรมการเฟดจะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้นก็ตาม"

"เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เราจะแจ้งให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าเราจะหารือกันในเรื่องดังกล่าวเมื่อใด เราจะส่งสัญญาณให้รู้ล่วงหน้าหากเราจะตัดสินใจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร ขณะเดียวกัน เราจะจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับเป้าหมายต่างๆ ของเรา โดยเราคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่เราจะเห็นเป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลอย่างยั่งยืน" นายพาวเวลกล่าว

นายพาวเวลยังระบุด้วยว่า การฟื้นตัวของภาคส่วนต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจยังคงไม่สอดคล้องกันและยังอยู่ห่างไกลจากการฟื้นตัวอย่างเต็มศักยภาพ โดยหากมองถึงภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว ตัวเลขการจ้างงานที่ระดับ 8.4 ล้านตำแหน่งนั้น ยังคงอยู่ต่ำกว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่อัตราว่างงานดีดตัวขึ้นแตะระดับ 6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตอกย้ำว่า การจ้างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ"

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพาวเวลเน้นย้ำว่า หากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐดีดตัวขึ้นในทิศทางที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เฟดก็พร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

"หากเราเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% เป็นเวลานาน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อพุ่งขึ้น เราก็จะใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ เพื่อปรับทิศทางอัตราเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับ 2% เราให้คำมั่นว่าเราจะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน" นายพาวเวลกล่าว
สำหรับการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมประกาศว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/กัลยาณี


************
แถลงการณ์ประชุมธนาคารกลางสหรัฐเดือนเม.ย.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) โดยระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ โดยเฟดเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมนุษย์ และฉุดเศรษฐกิจของสหรัฐและทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนและการใช้นโยบายสนับสนุนที่แข็งแกร่งนั้น สัญญาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดยังคงอ่อนแอ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าหลายภาคส่วนได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้น โดยส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยต่างๆ ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ ส่วนภาวะทางการเงินโดยรวมยังคงผ่อนคลาย ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนถึงมาตรการด้านนโยบายต่างๆ ที่นำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดสรรสินเชื่อให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของสหรัฐ

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้านั้น จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน โดยวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจ และยังคงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ทั้งนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจึงตั้งเป้าหมายที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2% โดยคณะกรรมการจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

คณะกรรมการ FOMC ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% โดยคณะกรรมการคาดว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนกว่าภาวะตลาดแรงงานจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศัยภาพตามที่เฟดประเมินไว้ และอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2% และอยู่ในทิศทางที่จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดจะยังคงเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลังอีกอย่างน้อย 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ที่มีหนี้จำนองค้ำประกัน (MBS) อีกอย่างน้อย 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน การซื้อสินทรัพย์เหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดต่างๆ ดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น และช่วยสนับสนุนภาวะด้านการเงินให้เป็นไปในลักษณะที่ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะช่วยให้สินเชื่อไหลเวียนไปสู่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ

ส่วนในการประเมินแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการเงินนั้น คณะกรรมการจะยังคงจับตาข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการจะเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เฟดไม่สามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ของคณะกรรมการ โดยคณะกรรมการจะประเมินข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงข้อมูลด้านสาธารณสุข ภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงการพิจารณาความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ

สำหรับกรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียมส์ รองประธานเฟด, โธมัส ไอ บาร์กิน, ราฟาเอล ดับเบิลยู บอสติก, มิเชล ดับเบิลยู โบวแมน, ลาเอล เบรนาร์ด, ริชาร์ด เอช คลาริดา,แมรี ซี ดาลี, ชาร์ลส อีแวนส์, แรนดัล เค ควอร์เลส และคริสโตเฟอร์ เจ วอลเลอร์

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/กัลยาณี

กราฟคู่เงิน AU ที่ TF H1 แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น หลังจากที่เมื่อวานราคามาทดสอบที่เส้นเทรนด์ไลน์ กราฟก็ดีดขึ้นมาได้อีกรอบจนตอนนี้มาติดอยู่ที่บริเวณไฮเดิมและกลายเป็นแพทเทิร์นสามเหลี่ยมขาขึ้นแล้วนะครับ คาดว่ากราฟจะสามารถเบรกกรอบสามเหลี่ยมขึ้นไปหาเป้าที่แนว Fibo 138.2% - 161.8% ที่ราคา 0.7863 - 0.7892 ได้ต่อ  สำหรับแนวรับตอนนี้ก็จะมีแนวรับที่เส้นเทรนด์ไลน์สีน้ำเงินและที่แนว Fibo 61.8% ที่ราคา 0.7767 ที่สามารถใช้เป็นจุดเข้า buy ได้หากกราฟกลับลงมาทดสอบ จุดตัดขาดทุนที่ 0.7720 ครับ

กราฟคู่เงิน UCHF กราฟที่ TF H4 ยังเป็นขาลงต่อเนื่องนะครับ ตอนนี้กราฟก็สามารถลงมาทำ new low ได้อย่างต่อเนื่องเป้าการลงต่อในตอนนี้มองไปที่แนว fibo 161.8% ที่แถวๆราคา 0.9054 โดยมีแนวต้านอยู่ที่ราคา 0.9124 - 0.9129 ที่สามารถใช้เป็นจุดทุบได้เมื่อกราฟกลับขึ้นไปทดสอบ ตัดขาดทุนที่ 0.9185 ครับ

USD/CAD อาจร่วงถึง 1.1940 - 1.2100



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)

1.2640

จุดที่ต้องการ

สถานะขายต่ำกว่า 1.2640 เป้าหมายต่อไปที่ 1.2100 และ 1.1940

ทางเลือกการลงทุน

สูงกว่า 1.2640 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.2745 และ 1.2855 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค

RSI อยู่ในช่วงขาลงและทำให้เกิดการลบสะสมต่อเนื่อง

แนวรับและแนวต้าน

1.2855 **

1.2745 **

1.2640 ***

1.2309 สุดท้าย

1.2100 ***

1.1940 ***

กราฟคู่เงิน UCAD แนวโน้มที่ TF H1 , H4 และ DAY เป็นขาลงทั้งหมด ตอนนี้กราฟก็ลงมาถึงเป้า TP ที่ราคา 1.2325 แล้วนะครับ อาจจะต้องระวังกราฟหลอกว่าจะลงต่อแล้วดีดตัวขึ้นที่สูงได้อีกรอบ เนื่องจากแนวรับที่กราฟทดสอบอยู่ตอนนี้เป็นแนวรับจาก TF Month นะครับ ดังนั้นหากจะทุบก็แนะนำรอกราฟขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนก่อนค่อยทุบลงมาหาแนวรับ Month นี้อีกรอบน่าจะปลอดภัยกว่า โดยแนวต้านที่เล็งๆไว้ตอนนี้คือแนวต้านที่ราคา 1.2385 ครับ หากกราฟขึ้นไปทดสอบก็สามารถทุบได้ทันที ตัดขาดทุนสั้นๆที่ 1.2420 ครับ

USD/SGD อาจขึ้น 20 - 30 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรอยู่ที่ 1.3232.

จุดที่ต้องการ

ดีดกลับระยะสั้น

ทางเลือกการลงทุน

การทะลุผ่านแนวรับลงไปที่ 1.3232 จะอยู่ที่ 1.3216 และ 1.3206.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) อยู่เหนือเส้นสัญญาณแต่เป็นลบ. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 1.3200 และ 1.3300)

แนวรับและแนวต้าน

1.3299 **

1.3289 *

1.3280 **

1.3270

אחרון

1.3250

1.3238

1.3232 **

1.3216 *

NZD/USD อาจร่วง 40 - 57 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรอยู่ที่ 0.7276.

จุดที่ต้องการ

เป้าหมาย 0.7193.

ทางเลือกการลงทุน

สูงกว่า 0.7276, คาดหมายที่ 0.7306 และ 0.7323.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) ต่ำกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 0.7300 และ 0.7200)

แนวรับและแนวต้าน

0.7323 **

0.7306 *

0.7276 **

0.7264

אחרון

0.7250

0.7210

0.7193 **

0.7175 *

0.7157 **

GBP/JPY อาจขึ้น 59 - 87 จุด



151.08 คือจุดอ้างอิงทำกำไรของเรา.

จุดที่ต้องการ

หาก 151.08 ยังคงเป็นแนวรับ ให้มองหา 152.36.

ทางเลือกการลงทุน

ต่ำกว่า 151.08, คาดการณ์ 150.62 และ 150.34.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 151.43 และ 151.31)

แนวรับและแนวต้าน

152.91 **

152.64 *

152.36 **

152.08

אחרון

151.49

151.27

151.08 **

150.62 *

150.34 **

GBP/USD อาจขึ้น 30 - 50 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)

1.3925

จุดที่ต้องการ

สถานะซื้อสูงกว่า 1.3925 เป้าหมายต่อไปที่ 1.3980 และ 1.4000

ทางเลือกการลงทุน

ต่ำกว่า 1.3925 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 1.3890 และ 1.3860 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค

RSI ผสมกับช่วงขาขึ้น

แนวรับและแนวต้าน

1.4020

1.4000

1.3980

1.3950 สุดท้าย

1.3925

1.3890

1.3860

USD/JPY อาจร่วง 33 - 53 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)

108.80

จุดที่ต้องการ

สถานะขายต่ำกว่า 108.80 เป้าหมายต่อไปที่ 108.40 และ 108.20

ทางเลือกการลงทุน

สูงกว่า 108.80 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 109.05 และ 109.25 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค

หากแนวต้านที่ 108.80 ยังไม่เลยขึ้นไป ความเสี่ยงที่จะทะลุต่ำกว่า 108.40 ยังคงสูงอยู่

แนวรับและแนวต้าน

109.25

109.05

108.80

108.73 สุดท้าย

108.40

108.20

108.05