☀️YLG_Update : 26 เม.ย. ข่าวทองภาคเช้า📊
.
📣 Highlight: วันศุกร์  ทองพักปิดลบ $6.3‼️หลังบอนด์ยีลด์ฟื้น‼️ขานรับตัวเลขศก.สหรัฐ"ดีเกินคาด"‼️กดทองร่วงแตะ Low $1,769‼️แต่ดอลล์อ่อน‼️➕ยูโรแข็ง‼️สกัดช่วงติดลบทอง‼️ด้านกองทุน SPDR ถือทองไม่เปลี่ยนแปลง
.
❌ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 20.7% สู่ระดับ 1.021 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 886,000 ยูนิต หลังจากดิ่งลง 16.2% ในเดือนก.พ. และราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 330,800 ดอลลาร์ในเดือนมี.ค. #กดดันทอง
.
❌ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 62.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 59.7 ในเดือนมี.ค. #กดดันทอง
.
❌ รอน เทมเพิล หัวหน้าฝ่ายหุ้นของลาซาร์ด แอสเซท แมเนจเมนต์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 50 ปี โดยจะขยายตัวมากกว่า 6% ทั้งในปีนี้และปีหน้า #กดดันทอง
.
❌ วันศุกร์  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีฟื้นจากระดับต่ำสุดที่ 1.53% ปิดที่ระดับ 1.56% ขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด #กดดันทอง
.
❌ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าสภาคองเกรสจะทำการพิจารณาทบทวนแผนเพิ่มภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) ของปธน.ไบเดนสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยจะปรับลดขนาดของอัตราภาษีดังกล่าวเหลือเพียง 28% จากแผนการเดิมที่ระดับ 39.6% #หนุนหุ้น #กดดันทอง
.
❌ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐประกาศในวันศุกร์ (23 เม.ย.) ว่า ได้ตัดสินใจยกเลิกคำแนะนำให้ระงับใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แล้ว โดยอนุญาตให้เริ่มใช้วัคซีนดังกล่าวได้อีกครั้งสำหรับประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐ #กดดันทอง
.
❌ วันศุกร์  ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 227.59 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี S&P500 ปิด+1.09% และดัชนี Nasdaq ปิด+1.44% ขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ และการคาดการณ์ที่ว่า บริษัทต่างๆ จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ #หนุนทอง
.
📊 Kitco's gold survey ชี้ผู้เชี่ยวชาญใน Wall Street มองทองขึ้น-Sideway และนลท.ใน Main Street มอง "ทองขึ้น" ในสัปดาห์นี้
.
     📈 ผู้เชี่ยวชาญใน Wall Street  17 คนเข้าร่วมในการสำรวจความคิดเห็นของสัปดาห์นี้ ในจำนวนนี้มีผู้ตอบแบบสอบถาม 41% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้  อีก 18% ระบุว่าราคาจะลง  และอีก 41% มองทอง Sideway
.
     📈 นลท.ใน Main Street ทั้งหมด 850 คนเข้าร่วมในการสำรวจความคิดเห็นของสัปดาห์นี้  ในจำนวนนี้มีผู้ตอบแบบสอบถาม 68% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้  อีก 28% ระบุว่าราคาจะลง  และอีก 14% มองทอง Sideway  #หนุนทอง
.
⭕️สถานะสุทธิสัญญาฟิวเจอร์สทองคำ COMEX ของบรรดา Money Manager ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20/04/2021 เป็น "สถานะซื้อสุทธิ" ต่อเนื่อง 103 สัปดาห์ติดต่อกัน และสถานะซื้อสุทธิ "เพิ่มขึ้น"จากสัปดาห์ก่อนหน้า #หนุนทอง
.
⭕️วันศุกร์  ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลดลง 0.52% สู่ระดับ 90.8621 หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงชะลอตัว ซึ่งลดความน่าดึงดูดใจของดอลลาร์ ส่วนยูโรแข็งค่ากดดันดอลลาร์เพิ่ม #หนุนทอง
.
⭕️ วันศุกร์ สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.7% สู่ระดับ 1.2098 ดอลลาร์  หลังการเปิดเผยดัชนี PMI ของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ออกมาดีเกินคาดซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังเร่งตัวขึ้น  และจะไม่ล้าหลังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐ #หนุนทอง
.
⭕️ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 349,691 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 16,960,172 ราย ขณะเดียวกันพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2,767 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 192,311 ราย  #หนุนทอง
.
Source : Infoquest, Reuters, Bloomberg, CNBC, SPDR, Kitco, Investing, CFTC
#YLGResearch

EUR/USD อาจขึ้น 9 - 34 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็นโมฆะ)

1.2085

จุดที่ต้องการ

สถานะซื้อสูงกว่า 1.2085 เป้าหมายต่อไปที่ 1.2120 และ 1.2145

ทางเลือกการลงทุน

ต่ำกว่า 1.2085 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาลงต่อเนื่องที่ 1.2060 และ 1.2040 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค

RSI สนับสนุนให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง

แนวรับและแนวต้าน

1.2160

1.2145

1.2120

1.2111 สุดท้าย

1.2085

1.2060

1.2040

  ..ขอบคุณค่าาาาา..

 

NZD/USD อาจขึ้น 38 - 56 จุด



0.7189 คือจุดอ้างอิงทำกำไรของเรา.

จุดที่ต้องการ

อยู่เหนือแนวรับขาขึ้นหาก 0.7189 ยังคงเป็นแนวรับ

ทางเลือกการลงทุน

ต่ำกว่า 0.7189, คาดการณ์ 0.7159 และ 0.7141.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) อยู่เหนือเส้นสัญญาณและเป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 0.7200 และ 0.7200)

แนวรับและแนวต้าน

0.7307 **

0.7290 *

0.7272 **

0.7254

אחרון

0.7216

0.7200

0.7189 **

0.7159 *

0.7141 **

AUD/JPY อาจขึ้น 43 - 61 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรอยู่ที่ 83.47.

จุดที่ต้องการ

อยู่เหนือแนวรับขาขึ้นหาก 83.47 ยังคงเป็นแนวรับ

ทางเลือกการลงทุน

ต่ำกว่า 83.47, คาดการณ์ 83.17 และ 82.99.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) อยู่เหนือเส้นสัญญาณและเป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 83.67 และ 83.53)

แนวรับและแนวต้าน

84.70 **

84.52 *

84.34 **

84.16

אחרון

83.73

83.59

83.47 **

83.17 *

82.99 **

GBP/JPY อาจขึ้น 56 - 83 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรของเราอยู่ที่ 149.34.

จุดที่ต้องการ

หาก 149.34 ยังคงเป็นแนวรับ ให้มองหา 150.57.

ทางเลือกการลงทุน

การทะลุผ่านแนวรับลงไปที่ 149.34 จะอยู่ที่ 148.90 และ 148.64.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 149.74 และ 149.65)

แนวรับและแนวต้าน

151.09 **

150.83 *

150.57 **

150.30

אחרון

149.74

149.52

149.34 **

148.90 *

148.64 **

EUR/JPY อาจขึ้น 38 - 55 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรของเราอยู่ที่ 130.15.

จุดที่ต้องการ

หาก 130.15 ยังคงเป็นแนวรับ ให้มองหา 130.98.

ทางเลือกการลงทุน

การทะลุผ่านแนวรับลงไปที่ 130.15 จะอยู่ที่ 129.87 และ 129.70.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) สูงกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 130.48 และ 130.21)

แนวรับและแนวต้าน

131.32 **

131.15 *

130.98 **

130.81

אחרון

130.43

130.27

130.15 **

129.87 *

129.70 **

EUR/GBP อาจร่วง 25 - 37 จุด



จุดอ้างอิงทำกำไรของเราอยู่ที่ 0.8728.

จุดที่ต้องการ

เป้าหมาย 0.8672.

ทางเลือกการลงทุน

สูงกว่า 0.8728, คาดหมายที่ 0.8748 และ 0.8760.

ความเห็น

RSI (ตัวชี้วัดทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา) ต่ำกว่า 50.MACD (ตัวชี้วัดการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม) ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก. ยิ่งกว่านั้น ราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 0.8700 และ 0.8700)

แนวรับและแนวต้าน

0.8760 **

0.8748 *

0.8728 **

0.8720

אחרון

0.8709

0.8684

0.8672 **

0.8660 *

0.8648 **

กราฟคู่เงิน AU ที่ TF H1 จากภาพจะเห็นนะครับว่าตอนนี้กราฟได้เกิดสัญญาณ Divergence ซ้อนขึ้นมา การที่กราฟเกิดสัญญาณแพทเทิร์นแบบนี้กราฟมีโอกาสจะกลับไปเป็นขาขึ้นได้ต่อค่อนข้างสูงนะครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้กราฟที่ H1 วิ่งเป็นขาขึ้นมาก่อน การทำแพทเทิร์นแบบนี้เป็นการสบัดออเดอร์ฝั่ง Buy ทิ้ง (ที่บริเวณวงกลมสีฟ้า) และสลัดออเดอร์ฝั่ง Sell ทิ้ง (ที่บริเวณวงกลมสีส้ม)  โดยเป้าการขึ้นในรอบนี้อาจจะขึ้นไปได้ถึงราคา 0.7837 - 0.7900 ตามลำดับ โดยแนวรับตอนนี้อยู่ที่ราคา 0.7740 และ 0.7709 ตามลำดับ ที่สามารถใช้เป็นจุดเปิด buy ได้  ตัดขาดทุนที่ 0.7680 ครับ

กราฟคู่เงิน UCAD แนวโน้มหลักของ TF DAY ยังคงเป็นขาลงอยู่ ตอนนี้กราฟกำลังจะมาถึงแนวรับสำคัญที่ราคา 1.2440 แล้วนะครับ หากท่านใดเปิด sell ไว้อาจจะต้องจับตามองแนวรับนี้ไว้สักหน่อย กราฟมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นจากแนวรับนี้ได้นะครับ หากท่านใดที่กำลังมองหาจุดเข้า buy กันอยู่ แนวรับนี้ก็น่าจะใช้เป็นจุดเข้าเก็บสั้นได้อยู่นะครับ แต่ก็ไม่แนะนำให้ถือยาวเนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลงอยู่ หากต้องการเข้าแล้วถือยาวก็ให้ไปรอเข้า sell จากแนวต้านด้านบนน่าจะดีกว่า โดยแนวต้านตอนนี้จะมีที่ราคา 1.2494 , 1.2526 และ 1.2580 ตามลำดับครับ

กราฟคู่เงิน UCHF กราฟที่ TF H4 ยังเป็นขาลงต่อเนื่องนะครับ เป้าการลงในรอบนี้น่าจะลงมาถึงราคา 0.9115 - 0.9054 ตามลำดับ จากแผนเทรดของวันศุกร์ ตอนนี้กราฟก็ลงมาเบรก low ที่ราคา 0.9142 ได้แล้วนะครับ ตอนนี้กราฟก็ดีดกลับขึ้นมาทดสอบ 0.9142 อีกรอบอยู่พอดี ก็สามารถใช้จุดนี้เป็นจุดเข้า Sell กันได้เลยครับ ตัดขาดทุนที่ 0.9197 ครับ

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 20.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 48 จุด หรือ 0.14% สู่ระดับ 33,989 จุด

นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยบริษัท 1 ใน 3 ในดัชนี S&P 500 จะประกาศผลประกอบการในไตรมาส 1 รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ บริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน และอัลฟาเบท

ขณะนี้ บริษัท 25% ในดัชนี S&P 500 ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 แล้ว โดยมีจำนวน 84% ที่รายงานตัวเลขกำไรเป็นบวก ขณะที่ 77% รายงานรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน



--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ