Overlapping Fibonacci Trade
ลิขสิทธิ์ Traderider
ผู้แปล Numay
Overlapping Fibonacci Trade ลำพังแค่ Fibonacci level ก็สำคัญแล้ว แต่ว่าถ้าเป็น Fibonacci สองอันหล่ะ จะเป็นการรวม Indicator สองตัวที่ทรงพลังมากกว่าไหม?...
แนวคิดการใช้ Overlapping Fibonacci ในการเทรด Forex คือกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ใช้หลังจากที่ได้รู้จักกับ Fibonacci
โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะใช้ Fibonacci retracements หรือ extensions ในการหาสัญญาณร่วมกันกับสัญญาณอื่น เช่น แนวรับแนวต้าน Pivot หรืออื่น ๆ แนวคิดของ overlapping Fibonacci เหมือนจะเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้น ทำไมหรอ?
เพราะว่าบ่อยครั้ง ที่สิ่งที่เราต้องทำในการเทรด คือ สัญญาณ Fibonacci ที่ชัดเจน ซักสองอันในแนวรับแนวต้าน เทรดเดอร์หลายคนอาจจะรู้สึกว่ากลยุทธ์นี้จะใช้ง่าย
ในตัวอย่างเรามีกราฟตัวอย่าง ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการอธิบาย
กราฟที่มีการขึ้นหรือลง แล้วลาก Fibonacci ในกราฟนั้น ดังนี้ :
ตัวอย่างข้างบนแสดงให้เห็นถึงกราฟ Fibonacci สองชุดที่ลากในขาลง สีเหลืองเป็นผลการลากจากราคาสูงที่ด้านซ้ายบนมายังราคา Low สีน้ำเงิน Fibonnaci เป็นผลการลากจาก จุด Swing high ไปยัง Swing low
คุณสามารถเห็นจุดเข้าที่ร่วมกันได้จาก สีน้ำเงินและสีเหลืองที่ระดับ 38 % กับจุด 79 % ของสีน้ำเงิน
กราฟข้างบนนี้เป็นสถานการณ์เดียวกันแต่เป็นขาขึ้น และวงกลมสีขาวคือจุดเข้า พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียนที่เกิดร่วมกัน ณ จุด 79 % และ 38 %
หมายเหตุ จุดร่วมกันนั้นประกอบไปด้วย Fibonacci retracement levels, จากระยะ 38% 50% 62% และ 79%.
ซึ่งก็มีโอกาสในการเทรดภายใต้สัญญาณร่วมที่เกิดขึ้น ณ จุด Fibonacci extension levels และการได้มาของสัญญาณก็ใช้หลักการเดียวกันกับอันก่อนหน้า
ข้อควรจำคือ การเทรดสัญญาณร่วมมักจะเป็นสัญญาณที่ดีกว่าเสมอ
London Hammer Trades เราจะเทรด Forex ในช่วงเวลาตลาด London เปิดได้อย่างไร? นี่คือคำแนะนำ ...
แท่งเทียนที่มีความผันผวนสูง หรือแท่ง Indecision เกิดในช่วงตลาดยุโรปเปิด ผมไม่ได้ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับตลาดนี้นัก ผมได้ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ ในช่วงที่ราคามันเกิดซิกแซก ในช่วงที่แกว่งตัวกรอบแคบ ๆ
ณ ตอนนี้ กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับแท่งเทียน : The Rejection Bar หรือ Hammer นั่นคือผมกำลังมองหา rejection bars ที่เกิดที่แนวต้านหลังจากราคาได้เคลื่อนตัวในกรอบแคบ ๆ หลังจากนั้น ผมจะ Sell หรือ Buy ขึ้นอยู่กับทิศทางของ the hammer โดยตั้ง Stop loss ไม่ไกลห่างจากหางของ the hammer ผมตั้งเป้าหมายกำไรไว้ที่ 2 ต่อ 1 และย้าย Stop loss ไปยังเท่าทุน เมื่อตอนอัตรากำไรเท่ากับจำนวน Stop
กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นเวลาเทรดเต็มวันในตลาด Asia เริ่มด้วยช่วงต้นสัปดาห์ด้านซ้ายสุด ซึ่งมี Hammer เกิดขึ้น ที่แท่งสุดท้ายของสัปดาห์ ราคาเกิด Gap ในตลาดเอเชียในช่วงเช้านี้และแกว่งตัว Sideway ในแถบสีน้ำเงินแสดงช่วงเวลาตลาดยุโรป
ผมพยายามจะเข้าเทรดโดยการตั้ง Limit order ไว้ 2 จุดห่างจากรูปแบบกราฟ (ด้านล่างจอ) ซึ่งราคาชนและผมตั้ง Take profit อัตรา 2:1 จากความเสี่ยง ไว้ที่สีน้ำเงิน ณ จุด Weekly Pivot และชนจุดทำกำไรอย่างรวดเร็ว
ในวงกลมที่ 3 มันบอกว่า อาจจะเกิด bullish hammer หลังจากราคาได้เกิดจุดกลับตัวที่ก้น ซึ่งมันปฏิเสธระดับราคานั้นถึง 3 ครั้ง ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ มันบ่อยมากที่ราคาได้มาทดสอบแนวต้านนี้ ในกรณีนี้ ซึ่งก็คือ Weekly Pivot ซึ่งสุดท้ายมาชนตรงแนวต้านที่สอง ผมไม่ได้ส่งคำสั่งแต่เฝ้าดูกลยุทธ์การเทรดที่ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ใหม่
ผมจะโพสต์เกี่ยวกับกลยุทธ์นี้เพิ่ม พร้อมกับจุดเข้าและจุดออก เช่นเคย ผมยินดีรับคอมเม้นท์ต่าง ๆThe Bladerunner Reversal: Best EMA Crossover Strategy
ความผันผวนนี้อาศัยการเทรด crossover ของ Indicator สองตัว ซึ่งการตัดกันปกติไม่ชัดเจนใน polarity indicator ซึ่งเกิดจากการยืดและหดตัวของราคาเฉลี่ย
รูปแบบราคาที่เรากำลังมองหาในการเกิด Price Break out จากเทรนด์และกระจุกตัว แล้วดีดกลับผ่าน Polarity Indicator ก่อนที่จะย้อนกลับมาทดสอบ Indicator จากอีกฟากหนึ่ง
กราฟด้านบนแสดงตลาดในช่วง เวลาตลาดเอเชีย Asian session แบ่งโดยแถบสีน้ำเงิน จะเห็นว่าราคาร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย หลังจากที่ไม่สามารถผ่านเส้น Daily Pivot ได้ ราคายังลงต่อเนื่อง ไปยังเส้น Weekly Pivot เส้นประสีน้ำเงิน (blue dotted line) ก่อนที่มันจะพักแล้วดีดกลับจาก แนวตัวเลขกลม ๆ (เส้นประสีเทา)
หลังจากนั้นราคาเกิดแท่งที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อีกครั้งจนถึงช่วงตลาดเอเชียปิด ซึ่งเกิดแท่งขาลงแท่งใหญ่ ข้างใต้ Polarity indicator ซึ่งอยู่ราวเลขกลม ๆ หลังจากนั้นราคาขึ้นและปิดกับ Polarity Indicator ณ จุดนี้ เส้น EMA และ Mid Band ของ Bollinger band จะตัดกัน ซึ่งเกิดสัญญาณ EMA Cross over
หมายเหตุ วงกลมสีขาว 2 วง วงแรกหมายความว่าเกิด bullish engulfing candlestick pattern และเป็นจุดเข้าเทรดจุดแรก ส่วนวงที่สอง บ่งบอกถึงจุดเข้า ที่มีสัญญาณ Quasi Moring star หรือ Bullish Engulfing Candle Stick ซึ่งดูได้จากเส้น Horizontal line สีขาว 
Bladerunner Reversal จะเทรดตามจุดกลับตัวแล้วปิด อีกด้านหนึ่งของ Indicator Polarity ซึ่งกลยุทธ์ทั้งสองจะเทรดทิศทางเดียวกับเทรนด์โดยดูจากราคาปิดของ Indicator Polarity
ภาพด้านบนแสดง Bladerunner reversal จากเทรนด์ขาขึ้น และกราฟที่ด้านซ้ายแสดงด้านขาลง ข้างใต้ Polarity Indicator จากจุดนี้เป็นจุดจบของเทรนด์ขาขึ้นและเป็นเทรนด์ขาลงยาว ในวงกลมมีรูปแบบแท่งเทียน Evening Star (ในวงกลม) ที่เกิดข้างใต้ Indicator Polarity
การใช้กลยุทธ์ Bladerunner และ Bladerunner Reversal พร้อมกันใน Session เดียวกัน สามารถทำให้รู้ว่าช่วงไหนที่ราคาไม่ได้มีเทรนด์ในช่วงนั้น ซึ่งช่วงที่ไม่เป็นเทรนด์สามารถใช้กลยุทธ์ Scalping EMA ได้กลยุทธ์ Simple Breakout Strategy ในตลาด Forex :
Pop 'n' Stop Tradesจะเทรด Break Out ในตลาด Forex อย่างไร Part 1 : Upside Breakout
ส่วนใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ คือ ราคาได้ขึ้นไปสักพัก แม้ว่าเราจะเฝ้าดูอยู่ก็ตาม เนื่องจากมันพุ่งขึ้นไปราวกับจรวด แล้วเราจะคิดว่า " เรากำลังพลาดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกแล้ว"
หลังจากนั้น ความยั่วยวนให้เราเทรด Break Out หมดไปแต่กลายมาเป็นไล่ตามราคาแทน ซึ่งตามมาด้วยความเสียหาย เราจะเข้าเทรดทันทีหลังจากนั้นราคาจะเคลื่อนไหวช้าลง และจบด้วยการขาดทุน
การกระตุ้นให้อยากเทรดเป็นเรื่องธรรมชาติ เรามักอยากจะตีลูกบอลทุกครั้งที่มีคนขว้างออกมา เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ทำอย่างนั้น ส่วนใหญ่แล้วมันก็ไม่เวิร์ค กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับคนอยากเทรด Break Out ซึ่งเป็นการรวม กลยุทธ์ Price Action กับ Rejection Bar เข้าด้วยกัน
รูปด้านบนแสดงให้เห็นถึงราคาเกิด Break Out range ณ ตอนเริ่มต้นช่วงตลาดเปิด (เส้นสีน้ำเงินเริ่มตรงด้านซ้ายของจอ) เราไม่มีทางรู้ได้เลยวาอะไรที่ทำให้ราคา Break ด้านบน บางทีอาจจะเป็นเพราะข่าว หรือว่าอาจจะเป็นเพราะขาใหญ่เข้าซื้อ แต่ว่าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันทำให้เกิด ราคา "popped" ออกจากกรอบการแกว่งตัว ก่อนที่จะหยุด "stopped" ก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเรียกว่า Pop 'n' Stop Trade พื้นที่นั้นดูได้จากวงกลมสีขาว วงกลมแรก
ณ จุด นี้เราจะเห็น Bullish rejection bars สองแท่งเกิดขึ้น ณ ตัวเลขกลม ๆ (เส้นประสีเทา) โดยปกติ เมื่อราคาทะลุออกทางใดทางหนึ่ง ด้วยแท่งเทียนยาว ๆ เช่นนี้ เราสามารถเดาได้ว่าจะมีการพักฐานกลับมา ณ จุดนี้อีกครั้ง ซึ่งเพราะว่าการเคลื่อนไหวรวดเร็วจะทำให้เกิด Gap ในตลาด และมันจะต้องกลับมาสร้างฐานที่จุดเดิม ไม่ช้าก็เร็ว
เหตุผลที่เราเข้าเทรดการเทรดแบบนี้เพราะว่า :
• Time of day: ราคาค่อนข้างเงียบ ส่งผลต่อในช่วงที่ตลาดเปิดทำให้ตลาดผันผวนต่อมา
• ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ
• ราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางใด ทิศทางหนึ่งเกิด pop and stop ณ จุดนี้เราสามารถรอให้มันเกิดสัญญาณกลับตัว
• เมื่อราคาเกิด rejection bar จากระดับที่มีนัยสำคัญ – เช่น ตัวเลขกลม ๆ
วิธีหนึ่งที่จะเทรดการเคลื่อนไหวจากนี้คือการส่ง Limit Order 1- 2 Pip ตรงข้างหน้า Rejection Bar ขณะที่ stop loss อาจจะต่ำกว่าตรงราคาปลาย Rejection bars ถ้าคุณต้องการเทรดอยากจะเทรด ทันทีหรือว่าอยากจะรอให้มันเกิดรูปแบบที่สมบูรณ์ คุณสามารถส่งออเดอร์ Limit แค่ต่ำกว่า ราคา High ของ Range
โปรดสังเกตุว่า ผมได้วงกลมพื้นที่ที่สองที่อาจจะเกิดจุดเข้าเทรดได้ เมื่อเกิดแท่ง Bullish Rejection ประกอบกับ Pivot รายเดือน (เส้นประสีเทา) แล้วก็เกิด Pop and Stop ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น 
วงกลมที่สอง แสดงให้เห็นถึง แท่งเทียน Bullish ซึ่งราคาเริ่มผ่อนความแรง มีไส้เทียนยาวด้านบน ในวงกลมที่สอง เป็นรูปแบบ Harami Candlestick ถ้าคุณได้เข้าสัญญาณ Long ตั้งแต่สัญญาณเข้าครั้งแรก คุณก็สามารถทำกำไรได้ ณ จุดนี้ อย่างน้อยก็ได้ย้าย Stop loss มาจุดเท่าทุน
กลยุทธ์ Pop 'n' Stop เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับใครก็ตามที่อยากจะเทรด Break Out และสิ่งที่ต้องให้ความระมัดระวังคือ
• มันเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยง เนื่องจากบางครั้ง Gap ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าราคาจะกลับคืน ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องใช้ Rejection Candle ในการยืนยันการเคลื่อนไหวของราคา
• กลยุทธ์ pop and stop เป็นกลยุทธ์ที่ดีในการเทรดหลังจากที่มีข่าวออก เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่กราฟเกิด Break Out จากช่วงที่ราคากระจุกตัว
• ให้ระวังข่าวที่กำลังจะประกาศซึ่งออกมาทำให้เกิดการกลับตัวอย่างรวดเร็ว
• Breakout ที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้มักจะเกิดเมื่อตอนตลาดเปิด เช่น ตลาด นิวยอร์ค ลอนดอน เป็นต้น จริง ๆ แล้วผมสร้างกลยุทธ์นี้มาจากงานวิจัยที่ผมทำในช่วงตลาด London ผมเห็นว่าบางคนเทรดเบรคเอาท์ในตลาดอื่น ๆ ด้วย แต่ภายใต้กฏเดียวกัน แต่นั่นก็เพียงพอที่จะบอกว่า ช่วงตลาดเป็นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับ Break Out Trading
• ความผันผวนของกลยุทธ์นี้มักจะเกิดขึ้น ณ ช่วงใกล้ตลาดปิด แต่ว่านี่เป็นหัวข้อสำหรับบทความอื่น ผมจึงไม่อยากกล่าว
• นี่เป็นกลยุทธ์ Scalping ระยะสั้น และต้องตั้ง Stop loss ไว้แคบ ต้องตั้ง Take Profit ไว้อย่างน้อย 1.5 หรือ 2 เท่าของความเสี่ยง น้อยครั้งมากที่ราคาจะพุ่งสูง ฉะนั้น อย่าโลภ!
• อย่างที่ได้บอกไว้ วงกลมสีขาวที่สอง กลยุทธ์สามารถเทรดร่วมกับกลยุทธ์ Counter Move ถ้าราคากลับตัวอย่างดุดัน และเช่นเคย ต้องเฝ้าระวังดูความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เทรดอย่างระมัดระวัง!ลิขสิทธิ์ Traderider
ผู้แปล Numay
สถิติกองทุน SPDR
