ปฏิเสธกันไม่ได้เลยนะครับว่า หนึ่งในอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้ หรือแม้กระทั้งเทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด Forex ก็เลือกที่จะใช้กัน ซึ่งอินดิเคเตอร์นี้ก็คือ RSI โดยเจ้าตัว RSI นี้มีอายุมามากกว่า 50 ปีแล้วนะครับ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมในการใช้งานมาตั้งแต่ยุคที่แอดเทรดกันแรกๆเลย แล้วอินดิเคเตอร์ตัวนี้มันดียังไง ทำไมเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ถึงเลือกใช้กัน และวิธีการใช้งานเป็นยังไง เทรดไรเดอร์ก็จะมาอธิบายให้ฟังกันครับ
RSI (Relative Strength Index) เป็นอินดิเคเตอร์ที่มีคุณสมบัติในการดูการแกว่งตัวของราคาการซื้อขาย จากค่าการแกว่งตัวของราคาที่มีค่าตั้งแต่ 0 - 100 โดยการสังเกตุค่าว่าอยู่ในช่วงภาวะตลาดแบบไหนในช่วงเวลานั้น ซึ่งลักษณะของช่วงสภาวะของตลาดจะแบ่งได้เป็น 2 ช่วง คือ Overbought และ Oversold (เป็นช่วงสภาวะที่สำคัญในการดู RSI นะครับ) ทีนี้เรามารู้จักช่วงสภาวะของตลาดทั้ง 2 ช่วงกันเลยดีกว่า
Overbought คือช่วงที่ตลาดมีสภาวะการซื้อที่มากเกินไป ซึ่งลักษณะการซื้อที่มากเกินไปในตลาดนั่นก็หมายถึงตลาดอาจจะมีการปรับตัวลงหลังจากที่ราคาได้ขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สุดแล้ว
Oversold จะตรงกันข้ามกับ Overbought เลยครับ คือช่วงที่ตลาดมีสภาวะการขายที่มากเกินไป ซึ่งลักษณะการขายที่มากเกินไปในตลาดนี้ ก็หมายถึงตลาดอาจจะมีการปรับตัวขึ้นหลังจากที่ราคาได้ลงไปยังจุดที่ต่ำที่สุดแล้วนั่นเองครับ
โดยเราจะใช้ค่า RSI เป็นตัวกำหนดว่าช่วงไหนที่มีการซื้อขายที่มากเกินไปในค่า 2 ค่า คือ 70 และ 30 ครับ
ค่า 70 หมายถึงหากราคามีการปรับตัวขึ้นไปจนเส้น RSI ถึง 70 หรือเลยไปมากกว่า 70 แล้ว นั่นหมายถึงตลาดอยู่ในช่วงการซื้อที่มากเกินไปหรืออยู่ในช่วง Overbought เทรดเดอร์ก็จะรอให้ราคามีการปรับตัวลงมาพร้อมกับเส้น RSI ที่ปรับตัวลงมา เพื่อหาจังหว่ะในการเปิดออเดอร์ขาลง
ค่า 30 หมายถึงหากราคามีการปรับตัวลงไปจนเส้น RSI ถึง 30 หรือลงไปมากกว่า 30 แล้ว นั่นหมายถึงตลาดอยู่ในช่วงการขายที่มากเกินไปหรืออยู่ในช่วง Oversold เทรดเดอร์ก็จะรอให้ราคามีการปรับตัวลงมาพร้อมกับเส้น RSI ที่ปรับตัวลงมา เพื่อหาจังหว่ะในการเปิดออเดอร์ขาลง
ที่นี้เราจะมาใช้งานกับกราฟจริงกันบ้างดีกว่า ว่าจะมีหน้าตาเป็นยังไงจะดูง่ายเหมือนที่แอดได้บอกวิธีการใช้ข้างต้นไหม เราก็สามารถเปิดใช้งานเครื่องมือได้ทั้งใน MT4, MT5 เลยครับ โดยเข้าไปที่ Insert > Indicator > Oscillators > Relative Strength Index
ยกตัวอย่างกราฟเมื่อเกิด Overbought จะเห็นว่ากราฟมีการพุ่งตัวสูงขึ้นจนกราฟใน RSI มาถึงค่าที่ 70 ซึ่งอยู่ช่วงโซน Overbought และหลังฟจากที่กราฟพุ่งตัวขึ้นไปแตะโซนแล้ว จะเห็นว่ากราฟก็ได้มีการปรับตัวลงมาจริง ทำให้เรายืนยันได้ว่าเมื่อตลาดมีการซื้อที่มากเกินไป ก็จะมีการปรับตัวลงมา เราจงสามารถใช้สัญญาณการกลับตัวตรงนี้เปิดออเดอร์ได้
ยกตัวอย่างกราฟเมื่อเกิด Oversold จะเห็นว่ากราฟมีการพุ่งตัวต่ำลงจนกราฟใน RSI มาถึงค่าที่ 30 ซึ่งอยู่ช่วงโซน Oversold และหลังจากที่กราฟพุ่งตัวต่ำจนไปแตะโซนแล้ว จะเห็นว่ากราฟก็ได้มีการปรับตัวขึ้นจริง ทำให้เรายืนยันได้ว่าเมื่อตลาดมีการขายที่มากเกินไป ก็จะมีการปรับตัวขึ้นมา เราจงสามารถใช้สัญญาณการกลับตัวตรงนี้เปิดออเดอร์ได้เช่นกันครับ
คงมีคำถามว่าแล้วถ้ากราฟไม่ได้วิ่งไปอยู่ในโซนไหนเลยหล่ะ หรือก็คือกราฟวิ่งในโซนที่มากกว่า 30 และน้อยกว่า 70 ก็คือราคายังอยู่ในช่วง Sideway ไม่มีการซื้อขายที่มากเกินไปนั่นเองครับ
อีกเทคนิคที่เทรดเดอร์ใช้ RSI ในการหาจุดกลับตัวของกราฟนั่นก็คือการสังเกต Divergences นั่นเองครับ โดยการสังเกตุลักษณะของกราฟกับอินดิเคเตอร์ RSI ที่มีการสวนทางกัน แอดก็จะลองเปิดตัวอย่างให้ดูกันนะครับ
หากกราฟมีการพุ่งตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ลักษณะของ RSI เกิดต่ำลง ลักษณะนี้จะเป็นการเกิด
Bearish divergence บ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวของกราฟขาลง เทรดเดอร์สามารถพิจารณาสัญญาณการกลับตัวตรงนี้เปิดออเดอร์ได้
อีกทางหนึ่งหากกราฟมีการพุ่งตัวต่ำลงเรื่อยๆ แต่ลักษณะของ RSI เกิดสูงขึ้น ลักษณะนี้จะเป็นการเกิด
Bullish divergence บ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวของกราฟขาขึ้น เทรดเดอร์ก็สามารถพิจารณาสัญญาณการกลับตัวตรงนี้เปิดออเดอร์ได้เช่นกันครับ
ซึ่ง RSI เราสามารถใช้ได้กับ Timeframe ทุก Timeframe เลยครับ หากเราใช้ Timeframe ที่สั้นเราจะสามารถดูการแกว่งตัวของราคาได้ละเอียดก็จริงแต่จะทำให้เราสับสนจากค่าของ RSI ที่แสดงออกมาเป็นจำนวนมากได้ ส่วนเทรดเดอร์ที่ถนัดในการดู Timeframe ใหญ่หรือชอบการเทรดในระยะยาวก็สามารถใช้ RSI ในการดูภาพรวมของการแกว่งตัวของราคาได้เช่นกันครับ เราก็จะเห็น RSI แสดงออกมาในภาพรวมของตลาด ซึ่งเราสามารถใช้ในการเปิดออเดอร์ได้ดีกว่า Timeframe แบบสั้นนั่นเองครับ
และเหตุผลที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมเลือกที่จะใช้ RSI ในการดูสัญญาณการซื้อขาย ก็อาจจะเป็นเพราะเครื่องมือนี้มีมาอย่างยาวนาน เทรดเดอร์หลายๆคนได้ศึกษาและบอกต่อการใช้เครื่องมือนี้อย่างหลากหลาย ทำให้เทรดเดอร์มือใหม่ที่เข้ามาศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ง่าย บวกกับวิธีการใช้งาน RSI ก็ใช้ง่ายสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมืออื่นๆได้อย่างหลากหลายอีกด้วยนั่นเองครับ