มุมมองต่อสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Currency)
มุมมองต่อสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Currency) นั้นจะผูกติดอยู่กับมุมมองต่อสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเห็นได้ชัด แต่มุมมองต่อสินค้าโภคภัณฑ์ก็ไม่ได้ดีเท่าใดนัก ดังนั้น ผมค่อนข้างแนะนำให้ถือเงินสกุลนี้แบบสั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หรือไม่ก็พยายามที่จะถือครองสกุลเงินนี้
ก่อนอื่น สกุลเงินใดบ้างล่ะที่เป็นสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ ภายในกลุ่มจี 10 สกุลเงินที่เป็นสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ คือ CAD, AUD, NZD และ NOK เศรษฐกิจของประเทศแคนาดาค่อนข้างขึ้นอยู่กับน้ำมัน ซึ่งคิดเป็น 24% ของการส่งออก ในขณะที่ไม้แปรรูป โลหะ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ จะนำไปสู่ยอดรวมอย่างน้อย 40% ส่วนบัญชีผลิตภัณฑ์หลักสำหรับการส่งออกของประเทศออสเตรเลียอยู่ 62% โดยมีสินแร่หลักและถ่านหินที่มีน้ำหนักต่อการส่งออกมาก (25% และ 14% ตามลำดับ) ในขณะที่อัตราส่วนสำหรับประเทศนิวซีแลนด์มีน้ำหนักมากกว่า นั่นคือ อย่างน้อย 71% ของการส่งออกเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ แม้ว่าประเทศนิวซีแลนด์จะมีสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์จากนม (29%) และเนื้อวัว (12%) ตามมาด้วยท่อนซุง (8%) นอกจากนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมมีบทบาทเล็กน้อยในการส่งออกผสม ส่วนประเทศนอรเวย์มีพลังงานที่เหนือกว่า (น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ) ซึ่งคิดเป็น 64% ของยอดส่งออก
ส่วน EM, RUB และ MXN เป็นสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็น น้ำมันและก๊าซคิดเป็น 55% ของการส่งออกของประเทศรัสเซีย ทั้งยังมีถ่านหินและโลหะประเภทเหล็กทำให้ซึ่งทำให้ยอดส่งออกสูงถึง 62% อนึ่ง โดยธรรมชาติแล้ว RUB มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาน้ำมันแน่นอน นอกจากนี้ MXN ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดน้ำมัน แม้ว่าตามความจริงแล้ว 11% ของการส่งออกจะเป็นน้ำมันปิโตรเลียมและอีก 85% เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคารถยนต์ (22%) แต่ส่วนมากผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรมจะเป็นเพียงการประกอบแบบง่าย ๆ ที่นั่น และนอกจากนี้ มูลค่าของการส่งออกน้ำมันจะแปรผันอย่างมากกับมูลค่าของผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรม ส่วนประเทศแอฟริกาใต้เป็นผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์หลักอีกประเทศหนึ่ง จากการบิดทำให้โลหะมีค่าและอัญมณีคิดเป็น 16% ของการส่งออก ในขณะที่พลังงานได้หายไปจากการส่งออก ผมไม่เห็นปัจจัยใด ๆ กับราคาทองคำจากการคำนวณในปัจจุบัน อนึ่ง ประเทศบราซิลยังเป็นผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์หลักด้วย แต่เนื่องจากเป็นเรื่องยากสำหรับลูกค้ารายย่อยในการเทรด BRL ผมจึงจำกัดตัวเองให้อยู่แต่เฉพาะบรรดาสกุลเงินที่เราสามารถเทรดได้
มีหลายสิ่งที่บันทึกได้จากการศึกษาครั้งนี้
พึงระลึกไว้ว่ากลุ่มสกุลเงินที่ใกล้ชิดอยู่รอบ ๆ เส้นอย่างไร แม้ว่า NZD จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทั้งราคาทองแดงและราคาน้ำมัน แต่ก็ไม่ได้ส่งออก สิ่งนี้แนะนำให้นักลงทุกที่กำลังเทรดสกุลเงินเหล่านี้กับ "สินค้าโภคภัณฑ์" โดยทั่วไปไม่ได้เจาะจง VS สินค้าโภคภัณฑ์ที่แต่ละประเทส่งออก
สิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมแต่ละสกุลเงินที่สัมพันธ์กับทองแดงจึงมีความสัมพันธ์ค่อนข้างเป็นแบบเดียวกันกับความสัมพันธ์กับน้ำมัน (เช่น ทำไมเส้นจึงเกือบอยู่ใกล้ 45%) สกุลเงินที่มีความแตกต่างมากที่สุด คือ NZD, AUD และ MXN ซึ่งอาจมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราคาทองแดง สิ่งนี้มีเหตุผลสำหรับ NZD และ AUD เนื่องจากราคาทองแดงจะดูเหมือนเป็นตัวแทนสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชาวจีน ผมไม่สามารถอธิบายได้ในทันทีว่าทำไมเรื่องนี้จึงมีผลกระทบต่อ MXN ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม RUB และ EUR/NOK มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับน้ำมันซึ่งมีความหมายเช่นกันด้วย
จากความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ให้ไว้ด้านบน มุมมองต่อสกุลเงินเหล่านี้ค่อนข้างเป็นมุมมองในแบบเดียวกันต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ในความเห็นของผมแล้ว ผมคาดว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จะตกลงไปอีก เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายย่อยของสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ ยังคงปรับโครงสร้างเศรษฐกิจออกไปให้ห่างจากการลงทุนและมุ่งหน้าสู่ความต้องการของผู้บริภาค ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ทั้ง 22 ประเภทในดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ของบลูมเบิร์กยังตกลงต่อในปีนี้ โดยมีระยะตั้งแต่ - 4% สำหรับอ้อย ไปจนถึง - 46% สำหรับนิกเกิ้ล (สินค้าโภคภัณฑ์หลักที่ใช้ผลิตแผ่นสแตนเลส)
โดยปราศจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในประเทศจีน หรือการลดอุปทานอย่างฉับพลันใด ๆ ผมไม่เห็นเลยว่าจะมีการพลิกฟื้นในเวลาใดเวลาหนึ่งเร็ว ๆ นี้ และหากมีสิ่งใด แนวโน้มก็กำลังจะไปทางทิศทางอื่น ๆ นั่นคือ ผู้ผลิตทำงานในระยะเวลาหนึ่งเพื่อขยายความสามารถในการจัดหาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ตามความคาดหวังของอุปสงค์อย่างต่อเนื่องจากประเทศจีน และความสามารถดังกล่าวยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นกระแส หากสิ่งนี้เกิดขึ้น การนำอิรักเข้าไปในตลาดน้ำมันของโลกยังดูเหมือนเป็นการกดดันต่อราคาน้ำมันให้ลงไปอีก แน่นอนว่าการต่อสู้ในตะวันออกลางอาจมีผลบางอย่างกับผู้ผลิตน้ำมัน แม้ว่าในเวลานี้ดูเหมือนว่ายังไม่ได้เกิดขึ้นก็ตาม และเนื่องจากราคาที่ตกลง การผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาอาจตกลงมาด้วยแม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นเร็วตามที่ผู้คนคาดหวัง
ตอนนี้ ดัชนีค่าระวางเรือของ Baltic (Baltic Dry Freight Index) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการเรือในการเคลื่อนย้ายสินค้าโภคภัณฑ์ไปทั่วโลก ได้มีการใช้ที่ต่ำ
ยิ่งไปกว่านั้น หากเรามองไปยังแหล่งที่มาของตลาดหุ้นในปัจจุบันนี้แล้ว เราจะพบว่าภาคส่วนที่ร้อนแรงที่สุดสองในสามภาคส่วน คือ อุตสาหกรรมสุขภาพและเทคโนโลยี ซึ่งไม่ได้ใช้ทรัพยากรอย่างมากเลย อีกทั้งซอฟต์แวร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สินแร่เหล็กมากนักด้วย
ถ้าจะกล่าวสรุปแบบสั้น ๆ นั้น ผมคาดว่าราคาของสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงตกลงอย่างต่อเนื่องต่อไป และโดยทั่วไปแล้วในส่วนของสกุลเงินสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Currency) ก็จะอ่อนค่าต่อไปเป็นผลที่ตามมา โดยเฉพาะสกุลเงินที่สัมพันธ์กันกับน้ำมันอย่างใกล้ชิด เช่น สกุลเงิน CAD, RUB และ NOK ซึ่งอาจจะถูกกระหน่ำอย่างหนัก เว้นเสียแต่ว่ามีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงในในภาพของอุปทาน
เอา มาให้อ่าน วัน ว่างๆ พักสมองกันครับ
Credit : FXPRIMUS SUPPORT