กองทุน SPDR Gold Shares

ประจำวันที่

เวลา ครั้งที่ ก่อนหน้า ถือล่าสุด เปลี่ยนแปลง
- - - - -
รวมวันนี้-
เดือนนี้ - : 
ปีนี้  : 
*หน่วยตัน
*อ้างอิงจาก SPDR Gold Share

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ ครั้งที่ เวลา น.

ชนิดทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 96.5% - -
ทองรูปพรรณ 96.5% - -
รวมวันนี้-
เปลี่ยนแปลงล่าสุด-
*หน่วยเงินบาท
*ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ

🟢🔰วิเคราะห์ กราฟ EUR/USD🟢🔰 อังคาร 13 ธันวาคม 2565 ลงมารับหน่อยนะแล้วจะพาไปขึ้นยานแม่🔰

  • 10 replies
  • 3,052 views
*

admin

  • 82,762
🟢🔰วิเคราะห์ กราฟ  EUR/USD🟢🔰  อังคาร 13 ธันวาคม 2565 ลงมารับหน่อยนะแล้วจะพาไปขึ้นยานแม่🔰



  Type Price SL TP1 TP2
Signal 1 Buy Limit 1.0525 1.0470 1.0600 1.0645



ข่าวแดงที่น่าสนใจตามเวลาประเทศไทย



แนวโน้มกราฟ  H1=ขาขึ้น
แนวโน้มกราฟ  H4=ขาขึ้น
แนวโน้มกราฟ  Day=ขาขึ้น
แนวโน้มกราฟ  Week=ขาลง
แนวโน้มกราฟ  Month=ขาลง

***แนวสำคัญของกราฟประจำวันมีดังนี้ครับ***





ราคาปัจจุบัน=1.0546
Daily Pivot=1.0541
Fibo 50 Daily=1.0542

Resistance - แนวต้าน     Support - แนวรับ
R1 = 1.0562 S1 = 1.0525
R2 = 1.0580 S2 = 1.0495
R3 = 1.0615 S3 = 1.0450
R4 = 1.0645 S4 = 1.0400
R5 = 1.0700 S5 = 1.0350



   
                     ✅สวัสดี เช้า วันอังคาร ครับ เมื่อวาน EU แม้ว่าจะปิดลบจากแรงเทขายทำกำไร และการแข็งค่าของสกุลเงิน USD ก่อนข่าว นะครับก็ทำให้ EU ปิดลบ ลงมาได้ต่อเนื่อง จากการ ที่ ล่าสุด high ของ EU อยู่ที่ 1.0595ก่อน ที่ จะ sideway และย่อลงมา ช่วงแนว 1.0467 จนล่าสุด มาอยู่ที่แนว 1.0545 เช้านี้นะครับแนวโน้มหลักของ EU ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นนะครับ จาก Day และ H4 โดยแนวโน้มหลักของกราฟ ถือว่า เป็นแนวโน้มขาขึ้นหลังจากการยืนเหนือราคา 1.0000 ได้ ต่อเนื่อง ครับ โดยแผนการเทรดวันนี้ มอง เป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยมี ระยะ Swing ที่ อาจจะลงมาได้ถึง 1.0500-1.0525 ช่วงนี้ จะเป็นช่วง ที่ จะทำการเข้า buy นะครับหรือ ท่านใด อยาก เข้าออเดอรแต่เช้าก็ พอจะ หาจังหวะในการ  buy เช้านี้ได้ครับ โดยตอนนี้มองไปที่ ตัวเลข ของ CPI ทีจะประกาศออกมาคืนนี้นะครับ ที่อาจจะทำให้ EU ปรับตัวลงมา จุด buy ได้แต่ ถ้าไม่ลงมาแล้ว ไปตามเป้าหมายก็ไม่เป็นไรครับผม โดย Stop loss วันนี้จะไม่เยอะนะครับ เน้น Risk Reward
   


  Type Price SL TP1 TP2
Signal 1 Buy Limit 1.0525 1.0470 1.0600 1.0645



   
       ขอให้ทุกท่านนะครับโชคดีมีกำไรทุกท่าน ครับ ขอกำไร ทั่วหน้าทุกท่านนะครับ
เชิญเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองการเทรดกันได้ตามสะดวกครับ
หากมีข้อแนะนะประการใดก็ยินดี น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ อยากให้ทุกท่าน แบ่งปันความรู้ร่วมกันครับ
   



(TH)** (TH)** (TH)**


  • สามารถเปิดบัญชี XM เทรดแล้วรับรีเบต 3usd/lot ได้ที่ Rebate XM หรือ http://fxmade.vip


  • เปิดบัญชี Exness เทรดแล้วรับรีเบต 1.5usd/lot ได้ที่ http://bit.ly/2Hr8zz7


"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน"
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

CASE Forex

  • 19,199
🌐วิเคราะห์แนวโน้มกราฟ FOREX EUR/USD วันอังคาร 13 ธันวาคม 2565 ทุบไปหาจุดงัดสวยๆ 2 ทาง🌐



  Type Price SL TP
Signal 1 Sell 1.054-1.056 20-30 pip 60-80 pip


  Type Price SL TP
Signal 2 Buy 1.046-1.048 20-40 pip 100-120 pip




    Signal Sell "หลังจากที่เมื่อวานลุ้นให้ตลาดทุบลงไปยาวๆ แต่สุดท้ายก็เหวี่ยงไปมาๆที่เดิม ก็หวังว่าวันนี้เราจะซ้ำจนกราฟสามารถไปถึงจุดงัดสำคัญได้ต่อเนื่องทั้งขึ้นและลง" ซึ่งจะมีจุดไหนที่น่าสังเกตุบ้างนั้นไปดูกันดีกว่า...

📌 แผนของการเทรดคือ 📌

    แนวโน้มวันนี้เราจะยังคงใช้ โซน Supply เดิมๆมาเป็นตัวช่วยในเรื่องของแรงทุบลงอยู่ เพิ่มเติมเข้ามาก็คือแรงจาก Supply ตัวใหม่ใน Low TF เสริมเข้าไปอีกก็น่าจะมีจังหวะให้ทุบสวยๆกดลงไป (ชั่วคร่าวเท่านั้น!!)

    เพื่อที่จังหวะถัดไป จะได้จุดงัดขึ้น จุดพลุสวยๆอย่างโซน 1.046 ซึ่งคือว่าเป็น Demand zone RBR สำคัญเลยนั้นเอง แถมราคานี้ในอดีตก็ยังเคยเป็นแนวต้านที่สุดแข็งแกร่ง 2 จุดด้วยกัน ก็หวังว่าหากลงไปโดนรอบนี้เขาจะกลายเป็นแนวรับสำคัญทำให้กราฟสามารถพุ่งขึ้นแรงได้เช่นกัน #อย่าลืมวางความเสี่ยงก่อนเริ่มสงคราม

*** พอเจอจุดเข้าจากแท่งเทียนที่ Rejection แล้วก็อย่าลืมวางความเสี่ยงที่รับได้ SL ไว้เสมอ ***


ขอให้ทุกท่านนะครับโชคดีมีกำไรทุกท่าน ครับ ขอกำไร ทั่วหน้าทุกท่านนะครับ
เชิญเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองการเทรดกันได้ตามสะดวกครับ
หากมีข้อแนะนะประการใดก็ยินดี น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ อยากให้ทุกท่าน แบ่งปันความรู้ร่วมกันครับ



"...มนุษย์บางคนมีปากเหมือนท่อไอเสีย
เขาจำเป็นต้องระบายของเสียในสมองออกมาทางปาก
ไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าได้
โปรดอย่ารับไอเสียจากท่อนั้นมาใส่ใจ
ไม่งั้นเราเองจะเป็นมะเร็ง..."

*

PoNgPk

  • 6,340
ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.18% สู่ระดับ 104.94 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.03% สู่ระดับ 1.054 เทียบยูโร และร่วงลง 0.16% สู่ระดับ 137.43 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 7.7% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนต.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนต.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้สหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI สูงกว่าคาดในวันนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพรุ่งนี้ โดยเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่ตัวเลขดัชนี CPI ที่สูงกว่าคาดจะส่งผลกระทบต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของเฟด
นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลหลังการประชุมพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.00% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%

โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด ขานรับคาดการณ์ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว



ณ เวลา 19.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 205 จุด หรือ 0.6% สู่ระดับ 34,474 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว



ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 7.7% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้สหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI สูงกว่าคาดในวันนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ โดยเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่ตัวเลขดัชนี CPI ที่สูงกว่าคาดจะส่งผลกระทบต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของเฟด

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลหลังการประชุมพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.00% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค.2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%

อย่างไรก็ดี ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2.00% ในปีหน้า หากสหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ นายเอริค โรเบิร์ตสัน หัวหน้านักวิจัยระดับโลกของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานชื่อ "เรื่องเซอร์ไพรส์ของตลาดการเงินในปี 2566" หรือ "The financial-market surprises of 2023" โดยได้ระบุถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งตลาดได้มองข้ามไป

หนึ่งในเหตุการณ์ในรายงานดังกล่าวคือ หากเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เฟดอาจจะต้อง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 2.00%

รายงานระบุว่า เฟดได้ประเมินความเสี่ยงของเงินเฟ้อต่ำเกินไปในปี 2565 ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยอมรับว่าเงินเฟ้อไม่ใช่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวตามที่เฟดระบุก่อนหน้านี้ ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ทำให้เฟดมีความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะถดถอยในปี 2566 ขณะที่เฟดประเมินความเสียหายต่อเศรษฐกิจต่ำเกินไปจากการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน

"แถลงการณ์ของ FOMC มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เน้นความจำเป็นในการขยายเวลาคุมเข้มนโยบายการเงิน ไปสู่ความจำเป็นในการจัดสรรสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงการทรุดตัวลงอย่างรุนแรง" นายโรเบิร์ตสันระบุในรายงาน

ด้านนายคริส ซาร์คาเรลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนของบริษัท Independent Advisor Alliance กล่าวว่า ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในปีนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเลขดัชนี CPI ในวันนี้

"เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่แนวโน้มการเกิด 'ซานต้า แรลลี่' จะขึ้นอยู่กับว่าตัวเลข CPI จะออกมาต่ำกว่าคาดหรือไม่" นายซาร์คาเรลลีกล่าว
ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่า สถิติในอดีตบ่งชี้ว่า เดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นร้อนแรงมากที่สุดของปี

ข้อมูลระบุว่า ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 2.3% ในเดือนธ.ค.นับตั้งแต่ปี 2479 และดัชนีปรับตัวเป็นบวกในเดือนธ.ค.คิดเป็นสัดส่วน 79% นับตั้งแต่ปีดังกล่าว



โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว




ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%




ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%




โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนักเทียบสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย



ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 1.33% สู่ระดับ 103.73 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 1.10% สู่ระดับ 1.065 เทียบยูโร และร่วงลง 1.85% สู่ระดับ 135.11 เยน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%



เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%




โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 1,820 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้


ณ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. บวก 30.90 ดอลลาร์ หรือ 1.72% สู่ระดับ 1,823.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะเป็นปัจจัยเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาด



กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%


โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้



ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 35.1%

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว



ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%




โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 555 จุด ทะลุแนว 34,000 จุดในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ณ เวลา 21.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,560.67 จุด บวก 555.63 จุด หรือ 1.63%
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้นในวันนี้ นำโดยกลุ่มสื่อสาร

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 35.1%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ โดยเฟดจะเริ่มการประชุมในวันนี้ และจะแถลงผลการประชุมในวันพรุ่งนี้
ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลหลังการประชุมพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568

โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,340
And here is how Biden nearly got oil down to $60: last week, the White House drained 4.7 million barrels from the SPR the largest weekly release since early October. 

The US SPR now has just 382.3 million barrels, the lowest since January 1984


และนี่คือวิธีที่ Biden เกือบทำให้น้ำมันลดลงเหลือ 60 ดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวระบายน้ำออกจาก SPR 4.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปล่อยน้ำมันรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม

ขณะนี้ US SPR มีเพียง 382.3 ล้านบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2527
TRADE RIDER

*

admin

  • 82,762
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

 

XM Global Limited