กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

Risk&Reward Ratio คืออะไร?🧐

  • 0 replies
  • 638 views
Risk&Reward Ratio คืออะไร?🧐
« เมื่อ: 19, ตุลาคม 2022, 03:59:01 PM »
Risk&Reward Ratio คืออะไร?🧐


เมื่อพูดถึงการลงทุน ก็ต้องคิดถึงความเสี่ยงที่เราจะขาดทุนหรือได้กำไร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าการลงทุนในครั้งนั้นจะมีผลลัพธ์ออกมายังไง แต่เราสามารถที่จะควบคุมมันได้ในระดับนึง วันนี้ทาง traderider จะพามาทำความรู้จักกับ การบริหารความเสี่ยงหรือสิ่งที่จะช่วยในการจัดการลงทุนของเรา


🔶ความหมายของ Risk&Reward Ratio
Risk&Reward Ratio เมื่อเราลองแยกคำออกมาแล้ว ก็จะสามารถแปลได้ว่า Risk คือ ความเสี่ยงหรือขาดทุน Reward คือ ผลตอบแทนหรือกำไร และ Ratio คือ อัตราส่วน เมื่อเราลองนำ 3 คำนี้มารวมกันแล้ว Risk&Reward Ratio ก็คือ อัตราส่วนของความเสี่ยง(ขาดทุน)ต่อผลตอบแทน(กำไร) หรือที่เราเห็นทั่วไปในคำว่า RRR หรือก็คือการกำหนดเป้าหมายในความเสี่ยงหรือการขาดทุนที่จะเกิดขึ้นที่เราสามารถรับได้ และผลตอบแทนหรือกำไรที่เราคาดว่าจะได้รับ โดย Risk&Reward Ratio หรือ RRR นั้น สามารถนำมาใช้ควบคู่กับการเทรด Forex ได้ โดยการคำนวณหาความคุ้มค่าของเงินที่เราจะนำไปลงทุน ว่ามีความคุ้มค่าพอที่จะเสี่ยงไหม และจะได้ผลตอบแทนกลับมามากแค่ไหน หาก Risk มีมากกว่า Reward ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง แต่ถ้าหาก Reward มีมากกว่า Risk ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง


🔷RRR เกี่ยวกับการเทรดอย่างไร ?
RRR สามารถใช้ได้กับทุกการลงทุนที่มีความเสี่ยง ซึ่งในตลาด Forex นั้นมีความเสี่ยงสูง รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการเทรดมีสภาพคล่องและผันผวนสูง และได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอกหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจ สงคราม รวมถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ อีกด้วยซึ่งการกำหนด RRR ไว้ล่วงหน้านั้น จะทำให้เทรดเดอร์ สามารถลงทุนได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น


🚨ตัวอย่างแรก
RRR 1:1  หมายความว่าหากการลงทุนในครั้งนั้นเราลงทุนไป 10$ หากผิดทางเราจะเสีย 10$ แต่หากถูกทางได้กลับมา 10 $
ในตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าหากระบบเทรดของท่านมี Winrate ที่ 50% (เทรด 10 ครั้ง ชนะ 5 ครั้ง) ผลรวมจะออกมาเท่าทุน


🚨ตัวอย่างที่2
RRR 1:3  หมายความว่าหากการลงทุนในครั้งนั้นเราลงทุนไป 10$ หากผิดทางเราจะเสีย 10$ แต่หากถูกทางได้กลับมา 30 $
ในตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าหากระบบเทรดมี Winrate 50% เท่ากันกับตัวอย่างแรก  (เทรด 10 ครั้ง ชนะ 5 ครั้ง) ก็ยังทำกำไรได้ $100 เมื่อหักกับส่วนที่เทรดเสียไปนั่นเอง


🔶ตั้ง Risk & Reward Ratio แบบไหนดีที่สุด
อัตราส่วน RRR ที่ดีที่สุดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ , รูปแบบการเทรด เช่น การเทรดแบบ Scalping จะมี RRR ต่ำมากหรืออาจถึงขั้นติดลบ แต่จะได้ winrate ที่สูงกว่ามาชดเชยแทน  ในขณะที่การเทรดแบบ Trend Following จะให้ RRR ที่ค่อนข้างสูงกว่า แต่ก็อาจจะแลกมาด้วย winrate ที่น้อยลงมาแทน


🔷วิธีที่ดีที่สุดที่จะหา Risk Reward Ratio ที่เหมาะสมกับเรา
ต้องทดสอบเป็นกลยุทธ์ ๆ ไปทีละอย่าง และจำนวนออเดอร์ที่ทดสอบเพื่อเก็บผลงานก็ควรจะต้องให้เยอะที่สุดด้วย ซึ่งปัจจุบันนั้นมีโปรแกรมสำหรับแบคเทส หรือทดสอบเทรดย้อนหลังให้ใช้ทดสอบระบบเทรดได้  แต่ถึงแม้ว่าจะได้ระบบเทรดหรือค่า RRR ที่เหมาะสมที่ทดสอบย้อนหลังแล้วได้กำไร ก็ไม่ได้หมายความในอนาคตระบบนั้นๆจะทำกำไรให้เราได้อีก

ดังนั้นก่อนการลงทุนทุกครั้งแนะนำให้คำนวณหรือวานแผนการลงทุนนั้นๆ ก่อน หากเราไม่คำนวณสิ่งใดเลยแล้วพึ่งโชคหรือดวงอย่างเดียว ก็อาจจะทำให้เราหมดตัวได้ง่ายๆ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้การวิ่งของกราฟนั้นก็จะแตกต่างไปในแต่ละสถานการณ์ด้วย จึงทำให้ระบบเทรดที่เคยผลงานดีในอดีตอาจจะเป็นระบบที่แย่ที่สุดในอนาคตได้เช่นกัน