เมื่อวานนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า คิม โยจอง น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ออกมาโจมตีความเห็น "พรีแอมทีฟ สไตรก์" หรือการโจมตีก่อนของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซูห์ วุก ว่า เป็นสิ่งไม่สร้างสรรค์ บั่นทอนความสัมพันธ์ของ 2 ชาติเกาหลี และทำให้ความตึงเครียดทางการทหารบนคาบสมุทรเพิ่มขึ้น และเตือนโซลว่า อาจจะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามร้ายแรงจากเปียงยางเป็นเพราะ การแสดงความเห็นเช่นนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวการฝึกซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่คาดว่า จะมียุทโธปกรณ์ และกำลังพลเข้าร่วมมากขึ้นกำลังจะเปิดฉากในไม่ช้า
.
โดยเอเอฟพีรายงานว่า การออกมาแสดงความเห็นของคิม โยจอง (Kim Yo Jong) เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดของ 2 ชาติเกาหลี ที่เห็นตั้งแต่ต้นปีนี้เปียงยางยิงทดสอบขีปนาวุธถี่ยิบ รวมไปถึงมิสไซล์พิสัยข้ามทวีป ICBM ล่าสุดที่ทางเปียงยางยุติไปนาน 4 ปี เอพีชี้ว่า หลังแถลงการณ์ของน้องสาวประธานาธิบดีเกาหลีเหนือออกมาเป็นเสมือนสัญญาณว่า เปียงยางจะทำการทดสอบยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นในไม่ช้า และจะใช้จุดยืนสายเหยี่ยวที่แข็งกร้าวต่อโซลมากขึ้น
.
สำนักงานข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA กล่าวในรายงานว่า คิม โยจอง กล่าวตอบโต้ว่า "คำพูดที่เลินเล่อ และไร้เหตุผลเกี่ยวกับ "พรีแอมทีฟ สไตรก์" (การเปิดฉากโจมตีก่อน) นั้นจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ 2 ชาติเกาหลีเสื่อมทรามลงมากขึ้น และรวมไปถึงความตึงเครียดทางการทหารบนคาบสมุทรเกาหลี"
.
พร้อมกันนี้ เธอยังกล่าวเตือนผ่านแถลงการณ์ว่า "เกาหลีใต้อาจเผชิญหน้ากับภัยคุกคามร้ายแรง เนื่องมาจากการแสดงความเห็นที่ไม่ระมัดระวังจากรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่สมควรต้องลงวินัยตัวเองหากว่า ต้องการที่จะเลี่ยงหายนะ"
.
เอพีชี้ว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซูห์ วุก (Suh Wook) เยือนศูนย์บัญชาการยุทธศาสตร์มิสไซล์เขากล่าวแสดงความเห็นว่า เกาหลีใต้มีความสามารถ และความพร้อมในการเปิดฉากการโจมตีที่มีความแม่นยำต่อเกาหลีเหนือ หากว่า โซลตรวจจับได้ว่า ฝ่ายเปียงยางตั้งใจที่จะยิงมิสไซล์เพื่อโจมตีเกาหลีใต้
.
ทั้งนี้ เอพีรายงานว่า โซลตลอดเวลาที่ยาวนานใช้หลักการพรีแอมทีฟ สไตรก์ทางการทหารกับเกาหลีเหนือเพื่อจัดการภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากภัยคุกคามทางมิสไซล์ และนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
.
อย่างไรก็ตาม เอพีชี้ว่า ถือเป็นเรื่องที่แปลก ที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซลภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีมุน แจอิน ที่เสาะหาสันติภาพกับเปียงยางจะออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะเช่นนี้อย่างเปิดเผย
.
นอกจากนี้ เลขาธิการกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ปั๊ก จอง ชอน (Pak Jong Chon) ออกแถลงการณ์ออกมาหนึ่งฉบับเตือนไปยังโซล ให้เลี่ยงความเคลื่อนไหวทางการทหารใดๆ ต่อเกาหลีเหนือ
.
"กองทัพของเราจะออกคำสั่งอย่างไร้ความเมตตากองกำลังของตัวเองต่อการทำลายเป้าหมายใหญ่ในกรุงโซล" ปั๊กกล่าวโดยที่ไม่ระบุชื่อถึงเป้าหมายที่ว่า
.
ด้านศาสตราจารย์ ลิฟ-เอริค อิสลีย์ (Leif-Eric Easley) ประจำมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในกรุงโซลออกมาแสดงความเห็นกับเอพีถึงแถลงการณ์น้องสาวของคิม จองอึน ว่า "ความเห็นของคิม โยจอง แสดงให้เห็นถึงลางบอกเหตุต่อการทดสอบทางการทหารที่สำคัญอีกครั้ง" และเสริมต่อว่า "คล้ายกับการที่มอสโก และปักกิ่งพยายามที่จะบอกทั่วโลกว่า การบุกยูเครนของรัสเซียว่า บางทีอาจจะเป็นความผิดของนาโต้ ซึ่งเปียงยางพยายามที่จะกล่าวโทษความคืบหน้าของโครงการมิสไซล์ และนิวเคลียร์ของตัวเองไปที่ความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้"
.
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี ที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า การฝึกซ้อมร่วมกันทางการทหารครั้งใหญ่ระหว่างเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ มีกำหนดจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งอาจถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ และกำลังพลมากขึ้น และการส่งข้อความที่แข็งกร้าวมากขึ้น
.
ขณะที่ ชอง ซุง-ชาง (Cheong Seong-Chang) ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ประจำสถาบันเอกชน สถาบันเซจอง (Sejong Institute) ในกรุงโซลกล่าวว่า การออกมาแสดงความเห็นแบบหลังชนหลังของเกาหลีเหนือเที่ยวนี้แสดงให้เห็นว่า เปียงยางจะใช้มาตรการสายเหยี่ยวเพิ่มขึ้นต่อเกาหลีใต้ พร้อมเสริมว่า เปียงยางรู้สึกอ่อนไหวต่อความสามารถการโจมตีก่อนของโซล เพราะเปียงยางขาดทรัพยากรทางการทหาร และความสามารถในการตรวจจับการโจมตีล่วงหน้าจากเกาหลีใต้
.
แต่อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า ความเห็นของปั๊กเรื่องพรีแอมทีฟ สไตรก์ ส่งผลร้ายเพราะจะยิ่งส่งผลทำให้เพิ่มกำลังมากขึ้นในความเห็นจากเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวในเปียงยาง และเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติเกาหลี
-------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.theguardian.com/world/2022/apr/03/scum-like-guy-north-korean-leaders-sister-attacks-south-korea-defence-ministerhttps://mgronline.com/around/detail/9650000032310