กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

การใช้อินดิเคเตอร์ Bears Power และ Bulls Power

  • 0 replies
  • 3,178 views
การใช้อินดิเคเตอร์ Bears Power และ Bulls Power
« เมื่อ: 26, มิถุนายน 2021, 01:40:46 PM »
การใช้อินดิเคเตอร์ Bears Power และ Bulls Power

อินดิเคเตอร์ Bears Power และ Bulls Powers เป็นอินดิเคเตอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Oscillator ที่เป็นอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่มากับโปรแกรมเทรด Metatrader เป็นทูลที่บอกกำลังของทางด้าน Sellers สำหรับ Bears Power และกำลังทางด้าน Buyers สำหรับ Bulls Powers เป็นทูลที่บอกหรือยืนยันพลังของฝ่าย Sellers และ Buyers ว่าเป็นอย่างไรเพื่อช่วยในการเทรด เพราะว่าการเทรดที่เกิดขึ้น เป็นการสู้กันระหว่างฝ่าย Buyers (หรือกระทิง) ทางที่ดันราคาให้ขึ้น กับทางฝ่าย Sellers (หรือ หมี) ทางที่ดันราคาลง ราคาปิดของแต่ละแท่งเทียนบอกว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายชนะที่สามารถดูข้อมูลเพิ่มได้จาก Bears Power และ Bulls Powers



อินดิเคเตอร์สองตัวนี้รู้จักกันในอีกชื่อคือ Elder-Ray Index ที่คิดค้นโดย Dr. Alexander Elder เพื่อวัดพลังของ Sellers และ Buyers เพื่อดันราคาไปทางที่พวกเขาต้องการ เป็นอินดิเคเตอร์ที่คำนวณพื้นฐานจาก Exponential Moving Average (EMA) ค่าที่กำหนด 13-Period ดังนั้นการใช้งาน แนะนำให้ใส่ EMA 13 เข้าไปที่ชาร์ตด้วยจะเข้าใจการนำเสนอ และหลักการใช้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะสามารถใช้อินดิเคเตอร์แต่ละตัวแยกกันได้ แต่แนะนำให้ใช้ด้วยกันเพื่อดูถึงกำลังของแต่ละฝ่ายเมื่อจะเปิดเทรด เพราะหลักการเทรดเบื้องต้นง่ายๆ คือเปิดเทรดทางที่กำลังแข็ง สวนทางที่กำลังอ่อนลง ทูลทั้งสองจะให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไรพร้อมๆ กัน บอกถึง demand/supply ที่เกิดขึ้นจากออเดอร์ที่มาจากฝ่าย buyers/sellers ว่าเกิดความไม่สมดุลย์อย่างไร และต่อเนื่องตรงไหน

ตีความ Bears Power และ Bulls Power


ก่อนจะตีความ ต้องเข้าใจการแสงผลของ Bears Power และ Bulls Power ก่อน จะแสดงผลเป็น Histogram เหนือและล่างเส้นระดับ 0.00 ระดับความแรงของกำลังแต่ละฝ่าย แสดงด้วยความยาวของ Histogram อิงจากเส้นระดับ 0.00 เป็นหลัก อธิบายละเอียดได้ดังนี้

Bulls Power จะมีความแข็งอย่างไรดูว่า Histogram อยู่เหนือกว่าเส้นระดับ 0.00 มากขนาดไหน เช่น เมื่อเส้น Histogram อยู่เหนือกว่า 0.00 และมากกว่าเส้น Histogram ก่อน แสดงว่าพลังทางฝ่าย Bulls เพิ่มมากขึ้น เมื่อน้อยกว่า Histogram ของแท่งเทียนก่อนแสดงว่ากำลังลดลง แต่ถ้าต่ำกว่าเส้น 0.00 พลังอ่อนมาก ดังนั้นการเปิด Buy ต้องได้เงื่อนไขว่าเห็นพลังฝ่าย Bulls เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่พอ เราต้องการดูว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรด้วยเมื่อเปิดเทรดจริงๆ

Bears Powers การจะดูว่าฝั่งทาง Sellers หรือ Bears มีพลังมากขนาดไหน ดูว่าเส้น Histogram ต่ำกว่า 0.00 อย่างไร ถ้าต่ำกว่ามาก หรือมี Histogram ที่แทงลงไปยาวมาก เมื่อเทียบกับ Histogram ของแท่งเทียนก่อนๆ ก็บอกว่าพลังฝ่าย Bears แข็งมาก แต่ถ้าขึ้นมามากกว่าเส้น 0.0 แสดงว่าพลังทางฝ่าย Bears อ่อนมาก

การใช้ Bears Power และ Bulls Power  เพื่อการเทรด


การที่จะใช้ข้อมูลจากทูลนี้เทรด แม้ว่าจะสามารถใช้แยกกันได้ แต่ถ้าท่านใช้ตัวเดียวก็ไม่สามารถรู้ความแข็งอีกข้างเป็นอย่างไร จึงแนะนำให้ใช้คู่กัน เพราะเทียบความแข็งและอ่อนแต่ละข้างได้ง่ายเพื่อให้เข้ากับการเปิดเทรด หลักการเปิดเทรดด้วยการใช้ Bears Power และ Bulls Power ถือว่าง่าย คือถ้า Histogram จากทั้งสองอินดิเคเตอร์สูงกว่า 0.00 ให้หาโอกาสเปิดทาง Buy และถ้าต่ำกว่า 0.00 ให้หาโอกาสเปิดทาง Sell แล้วใช้การตีความตามด้านบนเพื่ออ่านพลังของแต่ละข้างประกอบกัน

อ่านการเปิดเทรดที่เลข 1 ด้วยการเปิดเทรดอิง price level และใช้ EMA 13 ที่เป็นตัวหลักที่แนะนำให้ใส่ที่ชาร์ตเพื่อให้เข้าใจการทำงานของ Bears Power และ Bulls Power ในการกำหนดเทรน พอราคาเบรค Support ด้านล่างได้ ราคาลงมาต่ำกว่าเส้น EMA 13 ดูสิ่งที่ Bears Power บอก Histogram ต่ำกว่า 0.00 และมากกว่า Histogram ต่ำกว่า Histogram ของแท่งเทียนก่อน นี่บอกถึงความแรงฝ่าย Sellers มากและต่อเนื่อง มองดูทางฝ่าย Bulls บ้าง เป็นอย่างไร ถ้าราคาจะลงไปได้จริง เราต้องเห็นสิ่งที่ยืนยันความไม่สมดุลย์ได้ คือต้องเห็นว่ากำลังทางฝ่าย Bulls ลดลงด้วย  ณ เวลาเดียวกัน จะเห็นว่าหลังจากที่ Histogram แท่งเทียนก่อนๆ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตอนที่อยู่เหนือเส้นระดับ 0.00 บอกถึงความแรงลดลง พอมาถึงเส้นเวลาเดียวกัน ลงมาต่ำกว่าเส้น 0.0 ด้วย บอกว่ากำลังอ่อนมาก เราก็ได้เงื่อนไขการยืนยันข้อมูลจากหลักการนี้คือ ข้อ 1. ราคาต่ำกว่าเส้น EMA  ข้อ 2. ระดับ Histogram ของ Bears Power ต่ำกว่า 0.0 และต่ำกว่า Histogram ของแท่งเทียนก่อน บอกถึงแรงของฝ่าย Bears กำลังเพิ่มขึ้น ข้อ 3 ระดับ Histogram ของ Bulls Power ต่ำกว่าเส้นระดับ 0.00 บอกถึงความอ่อนแรงทางฝ่าย Bulls อย่างชัดเจน ทั้ง 3 ข้อยืนยันว่ากำลังทางฝ่าย Bears เพิ่มขึ้น ก็จะเปิดโอกาสให้เปิดเทรด Sell ที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาทันที หลักการปิดกำไรเบื้องต้นก็ต่อเนื่อง Histogram ของ Bears Powers ลดลง หรือกลับมาเหนือกว่าเส้นระดับ 0.00

ส่วนการเปิดเทรดที่เลข 2 ก็หลักการเดียวกัน แต่เลข 2 ส่วนตรงที่ Histogram ของ Bears Power จะไม่เห็นต่ำกว่าระดับแท่งเทียนอื่นแบบโดดเด่น แบบข้อ 1  ให้ดูแท่งเทียนประกอบ ท่านก็จะไม่เห็นแท่งเทียน แบบยาวๆ ที่เห็น Momentum เวลาอันสั้น แต่หลักการเดียวกัน

จะเห็นว่าการใช้งาน อาจใช้เวลาสร้างความเข้าใจและคุ้นเคย แต่เนื่องจากอินดิเคเตอร์ทั้งสองเป็นประเภท Oscillator ที่ยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น ครวใช้กับหรือเป็นตัวเสริมทูล Technical Analysis อื่นๆ เช่นอย่างที่ยกตัวอย่างการเปิดเทรดมา เป็นการใช้หลักการแนวรับ-แนวต้าน หรือพวก price level เช่นหลักการ demand/supply ก็จะเพิ่มประสิทธภาพการใช้งานทูลทั้งสองได้ดี  ก่อนจะใช้งาน ให้แน่ใจว่าเข้าใจสิ่งที่อินดิเคเตอร์นำเสนออย่างไร และใช้งานอย่างไรก่อน ค่อยประยุกต์ให้เข้ากับกลยุทธ์กาเทรดต่างๆ ที่แต่ละเทรดเดอร์ถนัด  ส่วนการกำหนด stop loss ให้เน้นเปิดเทรดจาก setup ที่เห็นรูปแบบ price action เกิดขึ้นก่อน จะช่วยให้ระยะห่าง stop loss แคบ และการกำหนด take profit เบื้องต้นอาจใช้จังหวะที่ Histogram ของทางที่เปิดเทรดตัดระดับ 0.00 เปลี่ยนข้างหรือใช้ market structure ประกอบในการกำหนด