กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

แท่งเทียน Heikin-Ashi กรองการเคลื่อนไหวราคา

  • 0 replies
  • 3,163 views
แท่งเทียน Heikin-Ashi กรองการเคลื่อนไหวราคา

ต่อจากบทความที่แล้วเรื่องของการใช้แท่งเทียน Heikin-Ashi ว่าต่างจากแท่งเทียนแบบ Standard อย่างไร เนื่องจากการหาค่า HA-Open, HA-High, HA-Low, HA-Close มาจากการคำนวณหาค่าเฉลี่ยจาก 2 แท่งเทียน ไม่ได้แค่ ราคา Open, High, Low, Close ตามที่เกิดขึ้นแต่ละแท่งเทียนของแบบ Standard Candlestick ขบวนการประมวลผลเพื่อหาค่าเลยทำให้มีการกรอง Noise ของการเคลื่อนราคาไปไหนตัวด้วย เลยช่วยให้การกำหนดเทรนของการเคลื่อนราคาได้ง่ายและชัดเจน แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือจะทำให้เราพลาดข้อมูลสำคัญของ Price Action จริงๆ ได้ เพราะ HA ทำงานเป็นอินดิเคเตอร์ ต้องอาศัยข้อมูลที่เกิดขึ้นก่อนค่อยเอามาคำนวณ [รายละเอียดหลักการหาค่าของ HA-Open/High/Low/Close อยู่ในบทความแรก]

แท่งเทียน HA กับการตีความหมาย


ก่อนที่จะกำหนดเทรนเป็นหรือตีความเพื่อนำแท่งเทียนแบบนี้ไปใช้ข้อมูล จำเป็นต้องเข้าใจรูปแบบที่แสดงออกมาก่อนว่าเป็นอย่างไร ข้อแรกเลยต้องไม่ลืมว่าค่า Open, High, Low, Close ของแท่งเทียนแบบ HA มาจากการคำนวณหาค่าเฉลี่ย 2 แท่งเทียน ราคา Close และ Open ช่วยให้เรากำหนดสีประกอบแท่งเทียนได้แบบเดียวกันกับแท่งเทียนแบบ Standard เลยทำให้เรากำหนดแท่งเทียนว่าเป็น Bullish หรือ Bearish ได้ง่าย แต่ถ้าราคาทำเทรนมีการเคลื่อนทางใดทางหนึ่งด้วยแท่งเทียนยาวๆ เมื่อมองแบบ Standard แต่พอมองแท่งทียนของ HA จะเห็นเทรนได้ชัดเจนกว่าเพราะการหาค่า OHLC หาค่าเฉลี่ยอิงแท่งเทียนก่อนด้วย เลยทำให้แท่งเทียนเป็นไปทางเดียวกัน จะเห็น Bullish ดูเส้นเทรนที่เลข 3 หรือ Bearish ดูเส้นเทรนที่เลข 2 เป็นส่วนมาก เลยกำหนดเทรนง่าย ถ้าเห็นแท่งเทียน Bullishและ Bearish อยู่สลับไปมาอย่างพื้นที่ เลข 1 บอกถึงราคาไม่ทำเทรนหรือช่วง Consolidation นี่คือส่วนสำคัญที่บอกว่า HA ช่วยให้เห็นการเคลื่อนของราคาชัดเจนกว่า เลยช่วยกำหนดเทรนได้ง่ายกว่า


ต่อมาส่วนขนาดหรือ Body แท่งเทียน และหางหรือ Wick ของแท่งเทียน เรื่องขนาดของส่วน Body บอกถึง Momentum และส่วนของหางหรือ Wick หรือ Shadow ก็บอกถึง trading pressure ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับความหมายของแท่งเทียนธรรมดา แต่สิ่งหนึ่งที่อาจเห็นน้อยคือรูปแบบ Price Action ต่างๆ สำหรับแท่งเทียนแบบ HA ท่านจะเห็นแค่ Doji และ Spinning Tops ก็ไม่แปลกเพราะว่าค่า Open, High, Low, Close ของแท่งเทียนแบบ HA มาจากการคำนวณหาค่าเฉลี่ย 2 แท่งเทียน ต่างจากของแท่งเทียนแบบ Standard ที่มาจากการเทรดที่เกิดขึ้นช่วงแท่งเทียนนั้นๆ เลยเป็นรูปแบบ Price Action จากแท่งเทียนเยอะ การตีความหมายไม่ต่างกัน ทั้งเรื่องของขนาด หรือ Body แท่งเทียน และ Wick หรือ Shadow ว่าเกิดทางไหน


  • ถ้าราคาปิด HA-Close มากกว่าราคาเปิด HA-Open เป็นแท่งเทียน Bullish, ถ้าราคาปิด HA-Close ต่ำกว่าราคาเปิด HA-Open เป็นแท่งเทียน Bearish – แบบเดียวกันกับแท่งเทียนแบบ Standard
  • แต่สิ่งที่ต่างจากแท่งเทียนแบบ Standard ขนาดแท่งเทียนจะต่างกันเพราะการคำนวณหาค่าเกิดจาก 2 แท่งเทียน ดูตัวอย่างในชาร์ตที่บอก Body size ของแท่งเทียนแบบ Standard ทางซ้ายมือ และแบบ HA ทางขวามือจะเห็นความแตกต่างชัดเจนมาก ยิ่งแท่งเทียน HA มีส่วนขนาด Body มาก รูปแบบแท่งเทียนแบบนี้ยิ่งให้ความหมายของแรงเข้าเทรดต่อเนื่องทางนั้นๆ ชัดเจนกว่า และยิ่งแท่งเทียนมีการทำ Higher Low หรือ Lower High ประกอบเทียบกับแท่งเทียน HA ก่อนด้วยยิ่งบอกถึงเทรนได้อย่างดี
  • หางแท่งเทียน หรือ Wick หรือ Shadow ตีความหมายเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากหางแท่งเทียนของแท่งเทียน HA มาจากแท่งเทียนที่คำนวณค่า OHLC จาก 2 แท่งเทียนเลย เช่นเมื่อแท่งเทียนเป็น Bullish และขนาด Body มาก มี lower wick น้อยหรือไม่มีบอกถึงความแรงของ buy trading pressure อย่างชัดเจน และยิ่งถ้าทาง upper wick ไม่มีหรือมีน้อย ยิ่งบอกว่า sell trading pressure นั้นไม่มีหรือมีน้อย ยิ่งบอกว่าการเคลื่อนไปทางนั้นๆ ยิ่งแข็งมาก

การตีความของแท่งเทียน HA ก็จะประกอบการอ่านรูปแบบของแท่งเทียนว่าเป็น Bullish หรือ Bearish และขนาดของ Body ว่าเป็นอย่างไร ถ้ายิ่งมากยิ่งบอกถึง trading pressure มากกว่าทางนั้นๆ และต้องดูส่วนของหาง หรือ Wick เพื่อดู trading pressure ของแต่ละข้างแต่ละแท่งเทียนว่าเป็นอย่างไรประกอบด้วย และอ่านแท่งเทียน HA ต่อเนื่องกัน ท่านก็จะเห็นการเคลื่อนหรือเทรนได้อย่างชัดเจน


ดูที่เลข 1 ของแท่งเทียน HA หลังจากที่ราคาได้เบรค เห็นแท่งเทียน HA ขนาด Body ยาวมาก ส่วนด้าน Upper wick ไม่มี บอกว่าแรกเข้าเทรด Sell trading pressure เยอะมาก มองส่วน Lower wick มีเยอะ แต่ไม่สามารถดันขึ้นมาได้ ดูอีก 3 แท่งต่อมาไม่เห็น upper wick เลย แม้มี lower บ้างเล็กน้อย แต่ก่อนที่จะมาถึงเลข 2 ถ้ามองแท่งเทียนธรรมดทางซ้ายมือจะเห็น Bullish candlestick แท่งหนึ่งที่เป็น Noise ถ้ามองในส่วนของ HA ยังคงเป็น Bearish candlestick ต่อเนื่องกัน จนลงมาถึงล่างเลย สิ่งเห็นชัดแจนคือแท่งเทียน Bearish ต่อเนื่องกัน มีขนาด Body แท่งเทียนยาวก็จะบอกถึง Momentum ไม่มี Upper wick บอกถึง sell trading pressure อย่างชัดเชนและต่อเนื่อง เห็น lower wick ชัดเจน จนถึงเลข 3 ที่มี Lower wick อยู่พื้นที่เดียวกันด้วย บอกถึง buy trading pressure เข้ามาต่อเนื่อง และขนาด Body แท่งเทียน Bearish ก่อนถึงพื้นที่เลข 3 ก็จะน้อยลงด้วย 

จากการตีความเราจะเห็นว่า แท่งเทียนสีเดียวกัน ช่วยให้กำหนดเทรนหรือบอกทิศทางการเคลื่อนได้ง่าย เพราะเนื่องจากการสร้างแท่งเทียนแบบ HA เกิดจาการคำนวณหาค่าเฉลี่ยจาก 2 แท่งเทียน สีเดียวกันก็จะกำหนดเทรนได้ง่าย ถ้าสลับสีกัน ก็ไม่ทำเทรนเป็นช่วง consolidation, ต่อมาขนาดของ Body บอกถึง momentum หรือการเข้าเทรดแบบ aggressive buying/selling ว่าเป็นอย่างไร, ส่วนหางแท่งเทียนแต่ละข้าง บน-ล่าง พร้อมทิ้งขนาดยาวหรือระยะห่างจากส่วน Body บอกถึง trading pressure เช่นกัน ต้องเห็นไปทางเดียวกัน อีกอย่างถ้าเห็นหางแท่งเทียนอยู่พื้นที่เดียวกันอย่างในกรอบสีดำบอกถึงพื้นที่ตรงนั้นเป็นแนวรับ-แนวต้านอย่างดี