ประธานเฟดย้ำการดำเนินนโยบายผ่อนคลายยังมีความเหมาะสม :นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในงาน 'Aspects of Monetary Policy in the Post-Crisis Era' โดยมีเนื้อหาสอดคล้องกับ congressional testimony ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย uncertainties ที่ปรับเพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะจากประเด็นด้านการค้าระหว่างประเทศ และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเด็นด้าน debt ceiling และ Brexit) ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมีความเหมาะสม เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้สามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นาย Powell กล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกต่างมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ส่งผลให้การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องคำนึงถึง anticipated effects ของความเชื่อมโยงดังกล่าว
ทางด้านนาย Charles Evans, Federal Reserve Bank of Chicago President (Voter; dovish) กล่าวสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50 bps จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นสู่ร้อยละ 2.25 ภายในเวลา 3 ปี พร้อมคาดการณ์ "a couple of rate cuts" ก่อนสิ้นปี 2019
ทั้งนี้ นาย Evans กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps อาจเหมาะสมกับการดำเนินนโยบายในลักษณะ risk–management approach
ในส่วนของนาย Robert Kaplan, Federal Reserve Bank of Dallas President (Alternative Voter; neutral) ให้ความเห็นเชิงเปิดรับต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก market rate โดยเรียกว่าเป็นการปรับลดเชิง tactical (มากกว่า strategic) พร้อมคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ที่ร้อยละ 2.00–2.25 อนึ่ง นาย Raphael Bostic, Federal Reserve Bank of Atlanta President (Non–voter; dovish) เริ่มกังขาถึงคุณภาพในการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากหลายฝ่ายยังคงมีข้อสงสัย ต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
Source: BOTSS