เทคนิคการเทรด Forex ทำยังไงไม่ให้ล้างพอร์ต ด้วยการบริหารพอร์ตเงินทุน (สูตรลับ Forex)
คำแนะนำ1. ระบบการบริหารเงินทุนนี้ ผมได้ใช้ประสบการณ์ตามความเข้าใจด้วยตัวเอง และตั้งใจมาแบ่งปัน ซึ่งอาจจะซ้ำกับผู้ที่เคยทำมาแล้วหรือรู้แล้วยังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
2. ระบบนี้เหมาะกับผู้ที่กำลัง สด ใหม่กับตลาด Forex และอยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือ อยู่ในช่วงทำกำไรได้แบบขึ้นๆลงๆ ได้ๆ แล้วก็เสียๆ ล้างพอตบ้าง กำไรหนักบ้างสลับๆกันไป หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการจะลับคมมีดของตัวเอง ก็ลองฟังไปตามๆกันนะครับ
3. การบริหารเงิน สำหรับผมมองว่าเป็น สิ่งที่สำคัญพอๆกับ การหา การใช้ เทคนิคเทพๆ เทคนิคต่างๆที่ทุกๆท่านชำนาญ เลยล่ะครับ เพราะว่า ในแต่ละเทคนิคอาจจะมีการบริหารเงินทุนที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับผมแล้วการบริหารเงินทุนแบบที่กำลังจะพูดถึงนี้ น่าจะทำให้สามารถใช้ได้กับหลายๆเทคนิค ที่ทุกๆท่านเทรดๆกันอยู่แน่นอนครับ
4. การที่จะทำแล้วเห็นผลนั้น คงต้องใช้วินัยมากพอสมควร สำหรับผู้แนะนำคือแอดมิน ก็ยังมีหลุดบ้างจากแผนที่วางไว้ในการบริหารเงินทุนนี้ เพราะฉะนั้น สำหรับใครที่จะทำตามนี้ผมว่าวินัยต้อง สูงมากพอสมควรเลยครับ
5. เมื่อทำตามแล้วผมมั่นใจว่า การอยู่ในตลาดของทุกๆท่านต้องดีขึ้นแน่นอนครับ เพราะเราจะได้รู้ว่าจุดเข้าของเราดีแค่ไหน ทำสถิติออกมาได้ และอยู่ในตลาดได้นานขึ้น สามารถปรับปรุงระบบของตัวเองได้ดีขึ้น ชัดเจนครับ
6. ถึงจะเดินไปช้า จากระบบนี้ แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของหยุดล้างพอตก็ได้นะครับ
คลิปประกอบความเข้าใจ เทคนิคการเทรด Forex ทำยังไงไม่ให้ล้างพอร์ต ด้วยการบริหารพอร์ตเงินทุน (สูตรลับ Forex)เริ่มต้นบทบรรยาย1. ผมเข้าใจว่าทุกคนที่ผ่านเข้ามาในตลาด Forex นี้มีจุดประสงค์ในการหาเงิน แสวงหาผลกำไร อาจจะเจอการสอนก็ต่างรูปแบบ ต่างการทำกำไร ต่างการหาจุดเข้าออเดอร์ ซึ่งทุกๆอย่างผมถือว่าเป็นประสบการณ์ ที่ดีที่ทำให้ทุกๆท่านเข้าใจ ตลาดมากขึ้น อาจจะมองว่าง่าย หรือ ยาก ก็แล้วแต่มุมมองคน สำหรับผมแล้ว มองว่ามันยาก และยากมากๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังมา แชร์ ในเรื่องของการ บริหารเงินทุน ในรูปแบบนึงที่ผมกำลังทำอยู่และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในหลายๆสิ่ง กับตัวเอง และผมคิดว่าเพื่อนๆก็น่าจะเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันมาพอสมควรครับ (เริ่มต้น)
2. จากการเทรดที่เรามั่นใจว่าจะทำได้ดี เทคนิคชั้นยอด แรกๆอาจจะทำกำไรได้ดี หลังๆอาจจะมีพลาด แต่ก็ไม่ได้โทษระบบเทคนิค นึกไม่ถึงการที่ต้องบริหารเงินทุนไปด้วยนั้นสำคัญยิ่งกว่า ก็ทำให้ผมได้กำไรมาเยอะ และด้วยความมั่นใจก็มีทั้งที่ได้ถอน และไม่ได้ถอน ปั้นพอร์ตมา โตมากและมี ECO ครอบงำ จึงทำให้การเข้า ออเดอร์ เต็มไปด้วยความโลภ (ต้องมั่นใจว่าระบบดีพอนะครับ) และมองตลาดว่าสบายๆเราเอาอยู่ แต่นั้นคิดผิด หลายครั้งที่เกือบจะเลิกการเทรดและคิดว่า ทำไม ทำไม ทำไม ผมก็เลยหยุดคิดและมองใหม่ให้เหมือนเริ่มต้นใหม่ ก็จึงได้ค้นพบว่า ไอ้ที่พลาดไปคือการ บริหารเงินทุน ให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ให้โอกาสการวิเคราะห์ที่ผิดพลาดบ้าง ไม่ใช่หวังชนะ 100 % ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ มันจึงทำให้ได้รับรู้ว่า การที่เทรดชนะรั่วๆ มากๆ มันอาจจะทำให้พอร์ตโต กำไรสวย แต่ถ้าเราพลาด 1 ครั้ง ทุกอย่างที่ทำมามันสามารถหายไปได้เลยในทันที (อารมณ์)
3. ก่อนจะไปเข้าเรื่อง ผมขอให้ทุกๆคนไปลองศึกษา การลงทุน โดยรวมๆแบบสรุปๆ ของการลงทุนมาก่อน ก็จะมี
3.1 การฝากเงินในธนาคาร กำไรอยู่ที่ 0.5-2 % ต่อปี
3.2 การเกร็งกำไรธนาบัตร(ตราสารหนี้) กำไรอยู่ที่ 3-5 % ต่อปี (ขึ้นตามเงินเฟ้อถ้านับๆแล้วไม่ต่างกับฝากเงินธนาคารเลย)
3.3 การทำกำไรกับกองทุนรวม กำไรอยู่ที่ 10-15 % ต่อปี (อันนี้ไม่ได้เสมอไปนะความเสี่ยงที่ % ติดลบยังมีเช่นกัน)
3.4 การทำกำไรกับ หุ้นรายตัว การทำกำไรกับทองคำ ทำกำไรกับน้ำมัน กำไรอยู่ที่ 20-35 % ต่อปี (อาจจะซื้อกับธนาคารหรือเข้าหาโบรคเกอร์ไทยเองก็ได้)
3.5 การทำกำไรกับตลาดอื่นๆ และรวมไปถึง Forex ที่เรากำลังเทรดหรือลงทุนกันอยู่นี้ด้วย ซึ่งกำไร มันเป็นได้หมด ตั้งแต่ -100% จนไปถึง + 1000 % ++
(ทั้งหมดนี้ทุกๆท่านอาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ลองไปหาข้อมูลดูนะครับ แต่จะบอกว่าการลงทุนในแบบอื่น เขาเล่นกันเป็น % ต่อปี ซึ่งความเสี่ยงที่เขาทำกันไม่ถึงก็ยังมี แล้วมามองที่ Forex ของเราโอกาสที่จะทำกำไรได้สูงๆ กับความเสี่ยงที่ได้มามันแทบเป็นไปได้ยาก มหาโหด ขนาดไหนลองคิดดูนะครับ)
4. ระบบการคำนวณบริหารพอร์ตนี้ สมควรที่จะทำคู่กับระบบ RR ที่ต้องสามารถวัดผลได้ จะ 1: 2 หรือ 1 : 5 ก็ว่าไปแต่ต้องมีวินัยในการทำ กล่าวคือ เราต้องให้ความสำคัญกับ Sloploss มากกว่า Take profit นั้นเอง และสามารถวัดผลได้กับจุดเข้าออเดอร์ สามารถทำออกมาเป็นสถิติได้ เพื่อสร้างกำลังใจของผู้เทรด และการพัฒนาจุดเข้าให้ดีกว่าเดิม พร้อมทั้งทำให้เราอยู่ในตลาดได้นานขึ้น อยู่ได้นานขึ้นก็มีโอกาสทำกำไรได้ต่อเนื่องขึ้น และสกิวก็ต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
5. มาถึง คีย์สำคัญในการเข้าออเดอร์ พร้อมทั้งการบริหารพอร์ต
ยกตัวอย่าง คุณมีเงิน อยู่ 1000 us การที่จะเข้าทำกำไร สมควรที่จะรับความเสี่ยงอยู่ที่ 1-5 % ประมาณนี้เท่านั้น ใน 1 ออเดอร์ที่กดไป ถามว่าทำไมต้องเป็นตามนี้ล่ะ
ก็เพราะ ถ้าคุณมี RR กับความเสี่ยง 1 - 5 % ต่อออเดอร์นี้แล้ว RR คุณสมมุติเป็น 1 : 3 คุณรับความเสี่ยงได้ 3 % (ถ้าคุณเสียคุณเสีย 3 % แต่ถ้าได้ จะเป็น 9 %) เห็นไหมครับว่า 9 % กับออเดอร์เดียว มันทำให้เราทำกำไรได้เท่ากับ กองทุนรวม ทั้งปีบางกองทุนไปเสียแล้ว กับการเปิดออเดอร์แค่ออเดอร์เดียว เพราะฉะนั้นยิ่งเราใส่ใจ SL ว่าจะเสียได้น้อยเท่าไหร่ ความปลอดภัยของ เงินทุนคุณก็จะมากขึ้นเท่านั้น เรามีออเดอร์ให้เข้าเกือบทุกๆวัน สะสม % ไปยังไงพอร์ตก็ต้องโตแน่นอน
***ซึ่งการคำนวณนี้คุณต้องเข้าใจเรื่องของ Lot กับ % ที่ได้ + เสียนะครับ***มายกตัวอย่างกันต่อนาย A เงิน 1000 US รับความเสี่ยงได้ 2 % มี RR 1:4 = สรุปถ้าแพ้เสีย 2 % 20 us แต่ถ้าได้ก็ 8 % 80 us เมื่อแพ้เหลือเงิน 980 เมื่อชนะเหลือเงิน 1080 us
นาย B เงิน 1000 US รับความเสี่ยงได้ 20 % มี RR 1 : 2 = สรุปถ้าแพ้เสีย 20 % 200us ถ้าได้ 40 % 400 us เมื่อแพ้เหลือเงิน 800 เมื่อชนะเหลือเงิน 1400 us
สรุป จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 คน มีการรับความเสี่ยงที่ต่างกัน แต่คุณดูเงินที่เหลือนะครับ นาย A แพ้ก็เจ็บแค่ 20 us แถบไม่ได้เจ็บตัวอะไร นาย B แพ้ขึ้นมาเงินเหลือ 800 us การที่จะทำกำไรกลับขึ้นมาให้เท่าเดิม 1000 us ต้องกำไรถึง 25 % จากทุน 800 ถึงจะกลับขึ้นมายืนที่ 1000 us ได้ ต่างจากนาย A ที่ถ้าเหลือ 980 ทำขึ้นมาแค่ 2.04 % เท่านั้นเอง เห็นไหมครับว่า สิ่งที่ต่างเนี่ยคืออะไร (เราจะมองในกรณีความพ่ายแพ้นะครับเพราะจะได้เข้ากับสถาการณ์จริงๆ)
มาต่อกันครับกันคนเดิมนาย A เหลือเงิน 980 รับเสี่ยงได้ 2 % เท่าเดิม มี RR 1 : 3 = แพ้เสีย 2 % 19.6 us ได้ก็ได้ 6 % 58.8 us เมื่อแพ้เหลือเงิน 960.4 ชนะมีเงิน 1038.8 us
นาย B เหลือเงิน 800 รับเสี่ยงได้ 20 % เท่าเดิม มี RR 1 : 3 = แพ้เสีย 20 % 160 us ได้ก็ได้ 60 % 480 us เมื่อแพ้เหลือเงิน 640 ชนะมีเงิน 1280 us
สรุปต่อ เห็นไหมครับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นของทั้ง 2 คนในการรับความเสี่ยงรอบที่ 2 ช่างแตกต่างยิ่งนัก นาย A ยังชิวๆ กับการเปิดออเดอร์ นาย B จะบอกว่าชิวๆ คงไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะว่าทุนแทบจะเหลือ 50 % เมื่อเป็นแบบนี้ นาย B ต้องโดนอารมณ์ความแค้น ตลาด อยากได้เงินคืนเข้ามารั่วๆแน่นอน ผลหลังจากนี้อาจจะแย่กว่าเดิมก็ได้ ซึ่งผมเองเป็นนาย B มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ก็เลยมาแชร์เหตุการณ์แบบนี้ ให้เพื่อนๆ ไม่ต้องมาเจอแบบผมอีก ซึ่งใครจะแย้งมาว่า ผมเก่งกว่าคุณ ผมมีจุดเข้าแม่นกว่าผมไม่โดน ความเสียหายแบบผม ก็แล้วแต่นะครับ ความสามารถผมอาจจะน้อยกว่าคนแย้งจริงๆก็ได้ แต่สำหรับใครที่ เห็นว่าเกิดประโยชน์ ก็หวังว่าจะมองเห็นนะครับว่า ทำกำไรไม่ได้ยากเลย เพียงแค่เราบริหารพอร์ต ให้เราอยู่ได้ในตลาดนานๆ ก่อนนะครับ
สุดท้ายถ้าเกิดว่ายอดเงินมากขึ้นถ้านาย A มีเงิน 100000 us รับเสี่ยงได้ 2 % มี RR 1 : 3 = แพ้เสีย 2 % 2000 us ได้ก็ 6 % 6000 us
นาย B มีเงิน 100000 us รับเสี่ยงได้ 10 % มี RR 1 : 2 = แพ้เสีย 10 % 10000 us ได้ก็ 20 % 20000 us
(เห็นไหมครับถ้าวันนึงพอร์ตคุณมีเงินระดับนี้แล้ว การที่จะมารับความเสี่ยง % มากๆแบบเดิมเนี่ยอาจจะทำให้หัวใจช็อตตายกันได้เลยทีเดียว แต่ถ้าปั้นเรื่อยๆ สร้างวินัยไปเรื่อยๆ ไม่ว่าพอร์ตจะโตมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม คุณก็จะได้ระบบและวินัยที่สามารถทำแบบเดิมๆได้ตลอดไปครับ)
6. สรุปถึงสาระสำคัญสุดท้าย ระบบนี้มันอาจจะ ดูง่าย ทำง่าย คำนวณสบายๆ สิวๆ ขี้ๆ แต่ใครที่กำลังเกิดปัญหาพอร์ตขึ้นๆลงๆ ไม่ไปไหน ลองเอาระบบนี้ไปใช้ดูนะครับ ซึ่งแน่นอนมันอาจจะไม่เห็นผลโดยทันทีสำหรับทุกๆคน เพราะว่าต่างคนต่างเทคนิค ต่างจุดเข้า ต่างวินัย แต่ผมก็คิดว่าถ้าได้ลองใช้อย่างจริงๆจังๆ ถึงยังทำกำไรต่อเนื่องไม่ได้แต่พอร์ตก็ไม่ได้เสียหายมากแบบเดิม และไม่ล้างพอร์ตแบบเดิมๆแน่นอน แล้วจะทำให้การจะหาจุดเข้าใหม่ๆ ไม่ต้องมากังวลกับ ทุนที่หายไป ทำให้จิตใจโฟกัสกับ จุดเข้าได้อย่างดีมากขึ้นแน่นอนครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีมีวินัย ทุกท่านครับ