(Aug 16) ตุรกีประกาศจะคว่ำบาตรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐ: หลายสำนักข่าวรายงานว่า ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของประเทศตุรกี ประกาศจะดำเนินการคว่ำบาตรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องการจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
ทั้งนี้ นาย Erdogan ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานครบรอบ 17 ปีของพรรค Justice and Development Party ระบุว่า "We are going to enforce a boycott on U.S. electronic goods. If they have iPhones, there is also Samsung."
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมา นาย Erdogan เคยประกาศคว่ำบาตรสินค้าจากต่างประเทศอยู่หลายครั้ง แต่มิได้ดำเนินการตามที่ประกาศไว้แต่อย่างใด โดยกรณีล่าสุดคือการประกาศการคว่ำบาตรสินค้านำเข้าจากอิสราเอล จากกรณีที่กองกำลังอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายสิบรายในแถบฉนวนกาซา แต่ก็มิได้มีการบังคับใช้มาตราการคว่ำบาตรดังกล่าว
นาย Erdogan ยังไม่ได้เปิดเผยวิธีการบังคับใช้ รวมถึงมิได้ระบุประเภทสินค้าหรือบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากการประกาศคว่ำบาตรในครั้งนี้ ยกเว้นการพาดพิงถึง iPhone ของบริษัท Apple โดยในปี 2017 ประเทศตุรกีนำเข้า iPhone เป็นจำนวนกว่า 1.6 ล้านเครื่อง จากจำนวนโทรศัพท์นำเข้าทั้งหมด 216.8 ล้านเครื่อง
อนึ่ง สำนักข่าว Reuters ระบุในช่วงบ่ายวันนี้ว่า ทางรัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะเพิ่มมาตราการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกีภายในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า หากทางการตุรกียังไม่ยอมปล่อยบาตรหลวง Andrew Brunson ให้เป็นอิสระ
ด้านนาย Joachim Wuermeling - Executive Board member ธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความมั่นใจว่าประเทศตุรกีสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่ตนเองมี แต่ "bold action is missing"
นาย Wuermeling ระบุว่า ประเทศที่ต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศกว่าครึ่งหนึ่งนั้นไม่สามารถละเลยกฎของตลาดการเงินโลกได้ นอกจากนี้ตุรกียังแสดงให้เห็นว่าหากธนาคารกลางสูญเสียความเป็นอิสระไปจะเกิดผลเสียอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นาย Wuermeling ให้ความเห็นว่า ไม่ต้องกังวลมากเกินไปในประเด็นด้านความเสี่ยงที่ปัญหาจะลุกลามไปยังยูโรโซน โดยธนาคารกลางยุโรปสามารถสั่งให้ธนาคารต่างๆเพิ่มเงินทุนสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงจากประเทศตุรกีเพิ่มเติมได้หากมีความจำเป็น และในขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิด currency swap lines ให้กับประเทศตุรกี
Source: BOTSS