ก่อนนำไปใช้ให้ Back testing หรือใช้กับ Demo ก่อนน่ะครับ
ใช้ได้ดีเมื่อเกิด Trend ขาขึ้น หรือ ขาลง
ดังนั้นต้องมอง Trend ให้ออกถึงจะใช้ได้ดีครับ
ให้ใช้ใน Timeframe 1H หรือ 4H
- EMA 12 & 36 + ADX• ตั้งค่า MA ประเภท EMA 12 สีฟ้า
• ตั้งค่า MA ประเภท EMA 36 สีแดง
• ตั้งค่า ADX : min = 0 , max = 80 ตั้งเส้น แบ่ง 20, 40 และ 60
วิธีการใช้กลยุทย์1. เกิดจุดตัดระหว่าง EMA 12 และ EMA 36
2. รอจนกว่าราคา ไปชน EMA 12 หาก ราคาชน EMA12 ข้างบนให้ BUY หากราคาชน EMA12 ข้างล่างให้ SELL
3. ตั้ง SL ที่เส้น EMA 36 (หากเส้น EMA12 และ EMA36 แคบมากให้ตั้ง SL อย่างน้อย 30 pip)
ตัวอย่างการ TP กรณี ADX ตัดเส้น ADX 40 ลงมา กรณีนี้หมายความว่า กราฟอ่อนแรงลงให้ TP ได้แล้วตัวอย่างการ TP กรณี ADX ใกล้เส้น ADX 60 หรือ เหนือกว่า ADX 60 กรณีนี้หมายความว่า กราฟขึ้นหรือลงสุดมากๆแล้วให้ TP ได้
- MACD + ADX1. ตั้งค่า MACD : Fast EMA = 12 , Slow EMA = 26 , MACD SMA = 9
2. ตั้งค่า ADX : min = 0 , max = 80 ตั้งเส้น แบ่ง 20, 60 และ 80
วิธีการใช้กลยุทย์1. รอ MACD แท่งที่ 5
2. หาก แท่งอยู่ข้างบน ให้ BUY หาก แท่งอยู่ข้างล่าง ให้ SELL
3. ตั้ง SL แนวรับข้างล่าง หรือแนวต้าน
ตัวอย่างการ TP กรณี ADX ตัดเส้น ADX 40 ลงมา กรณีนี้หมายความว่า กราฟอ่อนแรงลงให้ TP ได้แล้วตัวอย่างการ TP กรณี ADX ใกล้เส้น ADX 60 หรือ เหนือกว่า ADX 60 กรณีนี้หมายความว่า กราฟขึ้นหรือลงสุดมากๆแล้วให้ TP ได้
ทั้งสองแบบมีข้อแตกต่างกัน • หากใช้ EMA12&36 คุณต้อติดตามกราฟอยู่ตลอด
• หากใช้ MACD แท่งที่ 5 คุณสามารถกลับมาดูกราฟทุกๆ 5 ชั่วโมง ใน 1H หรือ ทุกๆ 20 ชั่วโมง ใน 4H
ย้ำอีกครั้ง กลยุทย์นี้จะใช้ได้ดีเมื่อเกิด Trend เท่านั้น
หากช่วง Sideway จะใช้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
เพิ่มเติม
สามารถใช้สลับ 1H กับ 4H ก็ได้ เช่น เข้าในกราฟ 4H แต่ TP ให้กราฟ 1H เป็นต้น