คืนนี้มีข่าวน่ายินดีข่าวหนึ่งครับ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะประกาศสิ้นสุดสงครามที่ยืดยาวมาถึง 68 ปีก่อนสิ้นเดือนนี้ครับ และข่าวที่ดีกว่านั้นคือวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ ปธน.มูน และปธน.คิม จะพบกันเป็นครั้งแรก นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคาบสมุทรเกาหลี
สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันเดียวหรอกครับ ต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าความประจวบเหมาะจากสวรรค์ด้วย กระทรวงรวมชาติของทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมานานพอสมควรแล้วตั้งแต่ยุคพ่อของตี๋คิม แต่ก็ยังเจรจาได้ไม่เข้าจุดนักจนกระทั่งยุคของตี๋คิมขึ้นนั่งเก้าอี้ ปธน.เกาหลีเหนือทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป และเมื่อ ปธน.มูนขึ้นนั่งเก้าอี้ ปธน.เกาหลีใต้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของรัฐบาลสายพิราบของเกาหลีใต้ที่ไม่เคยมีมานานแล้ว
และกาวใจสองเกาหลีที่ประสพความสำเร็จอย่างสูงคือหมวยคิม โยจอง น้องสาวที่เดินเกมส์การทูตระดับสูงเมื่อครั้งที่ไปเยือนเกาหลีใต้ช่วงแข่งโอลิมปิก และเดินทางมาร่วมกับ คิม ยองนัม ประมุขแห่งรัฐในทางพิธีการของเกาหลีเหนือ นั่นคือแผนที่วางเอาไว้แล้วล่วงหน้าของตี๋คิม ความสวยสดใสและฉลาดของน้องสาว รวมถึงความสวยและดูดีมีเสนห์ของ รี ซอล-จู สตรีหมาเลข 1 ที่ในช่วงสองปีนี้ออกมาสู่สาธารณะทำกิจกรรมภายในประเทศออกข่าวไปต่างประเทศมากขึ้น โดยออกไปเยี่ยมเยือนตามที่ต่างๆ ทำให้รูปแบบของครอบครัวของตี๋คิมนั้นดูเป็นมนุษย์ธรรมดามากขึ้น และเข้าตาคนทั้งโลกว่าที่จริงแล้วเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศบ้าบอพูดว่าไม่รู้เรื่องแต่อย่างได
และต้องไม่ลืมอย่างคือ ต๊๋คิมนั้นเป็น ปธน.เกาหลีเหนือรุ่นแรกที่จบการศึกษาจากยุโรป จากสถาบันการศึกษาในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ไม่ใช่กระจอกเลยครับ ตี๋คิมก็เรียนผ่านมาได้แบบไม่ต้องใช้เส้นสายอะไร เรียนแบบเด็กธรรมดาด้วยชื่อปลอมภายใต้หน้าฉากที่เป็นลูกของนักการทูต ดังนั้นความคิดความอ่านนั้นต่างกับคนรุ่นพ่อรุ่นปู่มากพอสมควร และผมไม่แปลกใจเลยที่ตี๋คิมนั่งเก้าอี้ได้ไม่นานก็สามารถทำสิ่งที่คนรุ่นพ่อฝันเอาไว้คือการเริ่มต้นรวมประเทศและหยุดสงครามเกาหลีที่มีมาตั้งแต่ครั้งสิ้นสุดสงครามโลกไม่นานในยุค 50's
แต่นั่นหมายความว่าตี๋คิมก็ต้องมีไพ่ตัวดีในมืออยู่ด้วย โครงการขีปนาวุธ ICBM และหัวรบเทอร์โมนิวเคลียร์ ที่ต่อยอดมาจากรุ่นพ่อที่ทิ้งเอาไว้ให้โดนพัฒนาอย่างรวดเร็วภายในเวลา 7 ปี ทุกอย่างก็อยู่ในมือทั้งหมดจนแม้กระทั่งอเมริกาก็ไม่กล้าใช้กำลังทางการทหารโดยตรงกับเกาหลีเหนือ ได้แต่เห่าริมรั้วไม่กล้าใช้กองทัพเข้าถล่มเหมือนชาติตะวันออกกลางสามสี่ประเทศที่โดนสหรัฐเข้าถล่มจนประเทศเละเป็นวุ้น และสงครามแบบ Proxy war ที่หวังจะดันหลังให้เกาหลีใต้เปิดสงครามตัวแทนนั้นแห้วไปแบบกู่ไม่กลับหลังจากที่ ปธน.มูนขึ้นนั่งเก้าอี้
มีการต่อต้านการนำเอาระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐเข้ามาประจำการในเกาหลีใต้ หลังจากที่ ปธน.มูน โดนตบทรัพย์ไปสองพันล้านเหรียญกับจรวดสองระบบ ที่เกาหลีใต้ต้องโดนบังคับบีบคอให้ซื้อไปใช้พร้อมกับญี่ปุ่น แต่หลังจากโดนประชาชนต่อต้านหนักๆ ระบบที่ 3 และ4 ที่สหรัฐเอามาหวังจะตบทรัพย์อีกรอบก็ต้องขนออกไปจากเกาหลีใต้ท่ามกลางความโล่งอกของทั้งจีนและรัสเซีย ส่วนการซ้อมรบสามฝ่าย สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เพื่อกดดันเกาหลีเหนือก็สิ้นสุดลง เพราะเกาหลีใต้ไม่เล่นด้วยอีกต่อไปแล้ว เล่นเกมส์รวมประเทศสนุกกว่าเยอะ
เกาหลีเหนือมีทหารเป็นแสนคน กองพลปืนใหญ่และกองพลจรวดระยะใกล้ที่มากที่สุดในย่านนั้น และมีอาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีประดับถล่มที่ไหนก็ได้ในอเมริกา เกาหลีใต้มีเงินและช่องทางการค้าไปทั่วโลก ถ้ารวมกันได้เมื่อไรคนที่หนาวคือนายอาเบะของญี่ปุ่น เกาหลีจะไม่ใช่ลูกไล่ที่ญี่ปุ่นจะไล่ตบเมื่อไรก็ได้อีกต่อไป
รอให้ถึงปลายเดือนนี้ครับ เมื่อคู่บ่าวสาวจูบปากเข้าหอนอนไปโล้สำเภาแล้ว จะต้องมีคนขี้อิจฉาหัวสีทองมาร้องเพลง หัวใจ มันสั่น เหมือนใครมาหั่นเอาหัวใจ ใจจะขาด แล้วเอ๊ย ใจจะขาด แล้วเอย อยู่ใต้ถุนบ้านแน่นอน
เครดิตภาพ อเมริกันออนไลน์