ในปัจจุบันราคาทองคำกำลังพุ่งสูงเกือบทะลุ 45,000 บาทในอีกไม่ช้า จนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะทำราคานิวไฮ (All Time High) ไปถึงจุดใด ทำให้ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากเพื่อเก็งกำไรในเวลานี้ แต่เมื่อเวลาขายออกทำกำไรนั้นมักจะพบปัญหาการรับซื้อคืนในราคาที่ไม่เป็นธรรม โดยบทความนี้เราอยากชวนดูวิธีการคำนวณราคาทองคำ ว่าควรขายได้เท่าไร รวมถึงข้อควรรู้ก่อนเข้าร้านทอง ซึ่งต้องศึกษาข้อมูลดีสำหรับหาข้อโต้แย้งเพื่อไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากร้านทอง ตามมาดูกัน
ทำความรู้จักกับกฎหมายขายทองคำ
ก่อนทำการขายทองคำ เราต้องรู้จักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขายทองคำ จากประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องแนวทางปฏิบัติการค้าของผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทองที่เป็นธรรม ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 เมษายน 2565 ข้อ 3 ระบุไว้ว่าการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทอง โดย ”ราคาที่เป็นธรรม” คือ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาจำหน่ายหรือราคารับซื้อคืนทองคำในบริเวณที่เห็นได้ชัดเจน ในอัตราที่กำหนดตามประกาศฯ ไม่ต่ำกว่าราคาที่แสดงไว้บนหน้าร้าน จากสูตรดังนี้
- การขายทองคำแท่ง น้ำหนัก 1 บาท ราคารับซื้อคืนคือ ราคาขายทองคำแท่งหนัก 1 บาท หักด้วยจำนวนเงิน 100 บาท
- การขายทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท ราคาซื้อคืนจะเท่ากับราคาทองคำแท่ง 1 บาท หักด้วยค่าเสียหายจากการหลอมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่เกิน 5% ของมูลค่าทองคำแท่ง 1 บาท นับตั้งแต่วันซื้อขาย ตามราคาที่สมาคมค้าทองคำประกาศ (ตรวจสอบราคาได้ที่เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ) ทั้งนี้เฉพาะทองรูปพรรณที่ซื้อไปจากร้านค้าทองที่รับซื้อคืน
ตัวอย่างการคำนวณขายทองคำแท่ง 1 บาทที่ควรขาย
หากราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง 1 บาท ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ = 41,300 บาท ( ณ วันที่ 18/04/2024)
ราคาทองแท่งที่ควรขาย = 41,300 -100 = 41,200 บาท
ตัวอย่างการคำนวณขายทองคำรูปพรรณ 1 บาทที่ควรขาย
อ้างอิงจากราคาทองคำแท่ง 1 บาท ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ = 41,300 บาท ( ณ วันที่ 18/04/2024) ดังนั้น 5% ของ 41,300 = 2,065 บาท ถ้าเรานำทองรูปพรรณ 1 บาท ไปขาย ต้องได้เงินไม่ต่ำกว่า 41,300 – 2,065 (5% ของ 41,300) = 39,235 บาท
นั่นหมายความว่า หากผู้ประกอบการร้านทองรับซื้อทองคำในราคาต่ำกว่าที่ประกาศฯ กำหนด หรือตามตัวอย่างคือ 39,235 บาท ผู้บริโภคไม่ควรขาย เท่ากับว่าเป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งผู้ประกอบการร้านทองอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำหนดโทษทางอาญาไว้ตามมาตรา 37 หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการตามมาตรา 25 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อเจอปัญหาขายทองคำได้ราคาต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ควรทำอย่างไร
- หากผู้ขายต้องการขายทองคำคืน ให้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด ควรขายร้านเดียวกับร้านที่ซื้อมา
- ก่อนขายคืนทุกครั้ง ผู้ขายควรตรวจสอบราคาตลาด สอบถามราคาจากทางร้าน รวมถึงรายละเอียดการหักค่าแรงหรือค่ากำเหน็จให้แน่ชัดก่อน (ค่ากำเหน็จ คือ ค่ากรรมวิธีการผลิตทองคำรูปพรรณให้เป็นแบบลวดลายต่าง ๆ เรียกว่าค่าแรงช่าง รวมทั้งค่าการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจร้านทอง โดยราคานั้นจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการผลิตชิ้นงานรูปพรรณนั้น ๆ)
- รวบรวมหลักฐานใช้ในการขายคืน ได้แก่ ใบรับประกันทอง ใบรับรองต่างๆ หรือสัญญาซื้อขายทองที่ทางร้านทองออกให้แก่ผู้ซื้อในวันซื้อขายแสดงถึงมาตรฐานของทองคำเกี่ยวกับความบริสุทธิ์นั้นๆ
- หากผู้ขายยังถูกปฎิเสธถึงสิทธิที่จะได้รับการขายคืนในอัตราที่กำหนดข้างต้น ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยมิชอบในการทำสัญญาซื้อขายตามที่กฎหมายกำหนด สามารแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนมายังสอบ.เพื่อให้ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยได้
ข้อควรรู้ก่อนเข้าร้านทองสำหรับขายทองคำเก็งกำไร
- ราคาซื้อขายทองคำแท่งกับทองคำรูปพรรณแตกต่างกัน โดยทั้งสองแบบมีทั้ง 96.5% และ 99.99% สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย
- ควรเลือกร้านทางที่ใช้วิธีการตรวจสอบทองโดยทำให้ทองของเราเสียหาย เพราะอาจทำให้ทองคำเจือปนสารได้ง่าย ส่งผลกับความบริสุทธิ์ทองคำและราคาทองคำได้
- การขายทองควรเลือกร้านทองที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงมานาน เพราะร้านเหล่านี้จะต้องมีช่องทางการติดต่อหลากหลายทั้งเบอร์โทรศัพท์, FACEBOOK, LINE และ INSTAGRAM เพื่อความสะดวกในการสอบถามหรือติดต่อซื้อขาย มีผู้เชี่ยวชาญประเมินราคาด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อและรอนัดหมายเพื่อตกลงทางหน้าร้านได้
สรุป
การซื้อขายทองคำในขณะนี้เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจสำหรับนักลงทุนจำนวนไม่น้อยด้วยแนวโน้มราคาทองคำสูงขึ้น โดยนักลงทุนส่วนใหญ่หวังเก็งกำไรจากการขายทองอย่างเป็นขั้นตอนจากกลยุทธ์เทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์รายวัน แต่นักลงทุนรุ่นใหม่และคนทั่วไปก็สามารถสร้างกำไรจากการขายทองได้เช่นกัน ทั้งนี้การขายทองกับร้านทองต้องรู้เท่าทันกันเพื่อให้เกิดการเก็งกำไรสูงสุด ณ เวลานั้น ไม่เสียรู้กับร้านทองได้ง่ายๆ การเตรียมข้อมูลที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแต่การซื้อขายทองเท่านั้น แต่รวมถึงการซื่อขายแบบอื่นด้วย
