กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

การลงทุนกับการพนัน

  • 0 replies
  • 1,638 views
การลงทุนกับการพนัน
« เมื่อ: 24, ธันวาคม 2016, 08:35:43 PM »
การลงทุนกับการพนัน   
ลิขสิทธิ์ Traderider.com
ผู้เขียนNumay


การลงทุนกับการพนัน

    เมื่อประมาณหลายวันก่อนในพันทิป ได้อ่านกระทู้คำถามว่า หากนัก Gamer จะสามารถเตือนรุ่นน้องที่ติดเกมส์ได้อยากจะเตือนอะไรบ้าง? เพราะเขาคิดว่าประสบการณ์ในวันที่เขาติดเกมส์กับวันนี้ย้อนคิดไปแล้วเขาน่าจะได้บทเรียนมาเตือนรุ่นน้องไม่ให้เสียเวลากับการเรียน หรือเสียทรัพย์ เสียอะไรหลายอย่าง  ผู้เขียนได้อ่านแล้วรู้สึกชอบกระทู้นี้มาก เพราะมีการแลกเปลี่ยนกันหลายประเด็น มีผู้ตอบกระทู้รายหนึ่งตอบว่า  "อย่าเอาคำว่า Gamer ไปรวมระหว่างเด็กติดเกมส์ กับคนที่เล่นเกมส์มีระเบียบวินัยเข้าด้วยกัน"  โอ้โหวววว!!  จริง ๆ แล้วเป็นคำพูดที่ดีทีเดียว แต่คงต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถควบคุมตัวเองได้ เรื่องนี้ก็ไม่พ้นเรื่องของการเทรด หรือเรื่องของการพนัน รวมเข้าด้วยกัน

    จริง ๆ แล้วผู้เขียนไม่ได้ส่งเสริมให้เล่นการพนัน แต่ว่าครั้นจะไม่พูดเลยก็คงจะไม่ได้ เพราะในการเทรดสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ หลักสถิติเกี่ยวกับความน่าจะเป็น  หลักของความน่าจะเป็นใช้ในหลักของการพนัน สิ่งเหล่านี้อาศัยหลักของการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สังคมไทยค่อนข้างต่อต้านและขาดความเข้าใจอย่างถูกวิธีเกี่ยวกับหลักความน่าจะเป็นนี้  ผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้มีประสบการณ์โดยตรง แต่ในเพื่อนผู้ชายที่รู้จักก็มีกลุ่มคนที่นิยมไปเล่นคาสิโนที่ฝั่งพม่าอยู่เช่นกัน  เพื่อนของผู้เขียนคนนี้เป็นคนเรียนปานกลางแต่สติปัญญาจัดว่าดี เขาเคยเล่าให้ผู้เขียนฟังอย่างภาคภูมิใจว่า  ทุกเช้าวันใหม่เขาจะแบ่งเงินเป็นสัดส่วนชัดเจนวันละเท่า ๆ กัน เขาไปที่นู่นครั้งละ 10 วัน เพื่อนบอกว่าที่นู่นมีที่พักและอาหารฟรีด้วย แต่ต้องแลกชิพเล่น ซึ่งก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร สมมติว่าเขาเตรียมเงินไปจำนวนหนึ่ง เขาจะแบ่งมันออกเป็น 10 กอง และ 1 กองสำหรับ 1 วัน หากหมดก็จะเลิก ณ วันนั้น เขาจะแบ่งกำไรกับทุนที่เขาใช้เล่นคนละกระเป๋าชัดเจน  ขณะที่วิธีการเล่น เขาจะเล่นรูเล็ตเสียส่วนใหญ่ หากโต๊ะไหนคนแห่ตามกันเยอะ ๆ เขาก็จะแห่เข้าไปตาม ถ้าคนโห่กันเสียงดังประนึงว่า คนหมุนกำลังดวงตก ก็ต้องแห่ซ้ำ  ซึ่งผู้เขียนคิดว่านี่ไม่แตกต่างกับการเทรดแบบ Trend Following คือแห่ตามกัน  เขาจะแทงจนหมดทุนสำหรับวันนั้น ส่วนกำไรที่ได้จะจัดไว้อีกกระเป๋าหนึ่ง  เขาจะจดกำไรขาดทุนที่เขาได้แต่ละวันแน่นอน พักหลัง ๆ มาเขาหันไปเล่นพนันไก่ชนมากขึ้น ผู้เขียนเคยถามว่าทำไม เขาบอกว่า มันยาก เอาชนะบ่อนยาก  ซึ่งก็คงจะจริง เพราะมันไม่ปรากฏอัตราต่อรองชัดเจน  ผู้เขียนมองเช่นนี้เหมือนกับว่า เพื่อนของผู้เขียนแตกต่างจากผีพนันอยู่มากทีเดียวเพราะมีการจัดการเป็นระบบ มีวินัยที่แน่นอน ควบคุมปัจจัยที่ไม่แน่นอน และมีการตัดสินใจไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่ต่างกับการเทรดเลย

    ลองมาดูอีกซักตัวอย่าง ผู้เขียนรู้จักป้าคนหนึ่งเล่นพนันบิงโก (เหตุการณ์นานแล้ว) ตอนแรกป้าท่านนี้ไม่ชอบเล่นเพราะมันเป็นการพนัน แต่เนื่องจากอยู่บ้านเหงา ๆ ก็เลยไปเล่น ตาละ 1-2 บาท  ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ แถมมีเพื่อนด้วย บางครั้งได้มาเป็นหลักร้อย บางครั้งก็เสีย แต่ด้วยความที่ได้มาแล้วได้เยอะทำให้เขาติดใจ เขาเพิ่มจำนวนเงินที่เล่น จากที่เล่นแผ่นเดียว กลายเป็น 4-5 แผ่นเลยก็มี ทีนี้ไม่ใช่จะเล่นเอาสนุกแล้วมันเริ่มเป็นการพนัน แต่ก็เลิกไม่ได้ ผู้เขียนเคยมีโอกาสเตือนบ้างว่า "อย่าไปเล่นเลย เดี๋ยวจะติด เมื่อก่อนเห็นเล่นได้เสียทีละ 20 -30 บาท เดี๋ยวนี้เล่นทีหลักร้อย เสียทุกวันได้ทุกวันผลัดกันไป" คุณป้าท่านนั้นก็ทราบดีว่ามันไม่ดี  แต่ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คุณป้าไม่มีวิธีการหรือว่ากระบวนการจัดการอะไรมากมายก็แค่เล่นไป ถึงแม้จะได้ก็ไม่เลิก ก็จะเล่นไปเรื่อย ๆ จนมันมาถึงตาเราที่จะเงินหมด ถึงได้เลิกจริง ๆ จากสองกรณีนี้มันมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่าง ผีพนัน  กับ นักพนัน  อะไรที่ทำให้กลุ่มคนสองประเภทนี้แตกต่างกันก็คงอย่างที่ยกตัวอย่างไว้ในตอนแรกคือ  กระบวนการ  วิธิการบริหารจัดการ และที่สำคัญคือ ความมีระเบียบวินัย ความรู้จักยับยั้งชั่งใจ ทำตามแผนที่วางไว้

    นั่นคือความแตกต่างระหว่างนักพนันกับผีพนันกระมั้ง อย่างไรเสียไม่ว่าเราจะเรียกว่ามันเป็น การพนันหรือการลงทุนจริง ๆ แล้วมันก็เป็นแค่เกมส์ที่อาศัยการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานความน่าจะเป็น ในประเทศไทยมีเกมส์ที่เข้าข่ายเป็นพนันที่ถูกกฏหมายอยู่หลายประเภท เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล ประกันสุขภาพ  ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น ผู้อ่านหลายคนอาจจะยังงงว่า ประกันอุบัติเหตุเป็นการพนันได้ยังไง?  ก็เพราะประกันอุบัติเหตุนั้นเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งที่ไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น   ขณะที่การพนันทั่วไปจะจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งที่ประสงค์ให้เกิดขึ้น ตัวอย่าง เช่น เราซื้อ Lottery 1 ใบ แต่ว่าโอกาสเกิดเหตุการที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์ก็มีโอกาสน้อยมาก  ขณะที่การซื้อประกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น คนจึงซื้อเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นเพราะคงไม่มีใครอยากจะเจอกับอุบัติเหตุ โอกาสเกิดจึงมีน้อยเพราะคนย่อมเลี่ยงอุบัติเหตุ แต่เนื่องจากมันไม่แน่นอนก็เลยซื้อป้องกันไว้ เหตุเกิดน้อย จึงมีความน่าจะเป็นเหมือนกัน แต่น้อย ถ้ามันไม่เกิดเลยเราก็เสียเงินจำนวนนั้นให้เป็นค่าเบี้ยประกันไป  โดยไม่แตกต่างกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่โอกาสการเกิดก็น้อยเหมือนกัน

    เมื่อมองเช่นนี้แล้ว หลักการพนันจะต้องประกอบด้วย  1. อัตราการเกิดของเหตุการณ์  2. เงินรางวัลที่จะได้ กับจำนวนเงินที่จะต้องเสี่ยงเพื่อแลกให้ได้มาซึ่งรางวัล หากเรายกตัวอย่างว่าวิธีการเล่นหวยใต้ดินวิธีหนึ่ง ผู้เขียนไม่รู้เรียกว่าอะไร  กล่าวคือ สามารถซื้อหวยใต้ดินได้เพียงเลขเดียว  นั่นก็คือ 0 ถึง 9   เลขรางวัลที่ออกก็จะออกเพียงเลขเดียวใน 0 ถึง 9 นี้  อัตรารางวัลที่ได้เท่ากับ 1:3 คือ ซื้อ 1 บาท ได้รางวัล 3 บาท ในตัวอย่างนี้องค์ประกอบของเราก็จะครบแล้วคือ อัตราการเกิดของเหตุการณ์  และเงินรางวัลที่จะได้กับเงินที่ต้องเสี่ยงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินรางวัล สิ่งเหล่านี้ปรากฏในหลักการทางสถิติเรียกว่า "มูลค่าความคาดหวัง" (Expected Value) เราสามารถทำความเข้าใจง่าย ๆ จากตัวอย่างดังต่อไปนี้

    สมมุติว่า นาย ก. ซื้อเลข 8 ในมูลค่า 1 บาท  ถ้าหากหวยใต้ดินนี้ออกเลข 8 เขาจะได้รับรางวัลเป็นเงิน 3 บาท แต่ถ้าเขาไม่ถูกก็จะเสียเงิน 1 บาทนั้นไป หมายความว่า ความน่าจะเป็นที่ นาย ก. มีโอกาสจะถูกรางวัลเท่ากับ 1 ใน 10 หรือ 10 % ขณะที่โอกาสที่จะไม่ถูกก็คือตรงข้ามกันคือ 90  %  และเงินรางวัลที่ได้คือ 3 เท่า มูลค่าความคาดหวังจึงหาได้จาก

    มูลค่าความคาดหวัง = (อัตราการเกิดเหตุการณ์ x มูลค่ารางวัล) – (อัตราการไม่เกิดx มูลค่าความเสี่ยง)

หรือ

    มูลค่าความคาดหวัง = ( 0.10 x 3) – (0.90x 1) ทำให้มูลค่าความคาดหวังเท่ากับ -0.6 หรือมูลค่าความคาดหวังติดลบ  การตีความตรงนี้หมายความว่า หากในระยะยาวแล้วเราเล่นไปเรื่อย ๆ แบบที่ผีพนันเข้าสิงอย่างที่ผู้เขียนกล่าวยกตัวอย่างของป้าไว้ ในระยะยาวแล้วป้าจะขาดทุนจากการเล่นหวยใต้ดินแบบนี้อย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้อ่านจะเห็นว่า หากเกมส์หรือว่าหวยใต้ดินนี้มีมูลค่าเงินรางวัลเพิ่มขึ้นขณะที่ความเสี่ยงเท่าเดิม  ก็จะสามารถทำให้ได้กำไรในระยะยาวนั่นเอง นั่นคือ อัตราการจ่ายต้องมากกว่า 1:10 หรือก็คือ ซื้อหวยใต้ดินประเภทนี้ 1 บาท จ่าย 10 บาท ในระยะยาวก็จะได้กำไรนั่นเอง

    ในความเป็นจริง เราคงไม่สามารถจะไปหาเจ้ามือที่ใจดีแจกเงินขนาดนั้นได้หรอก แต่ก็อาจจะมีบางเกมส์ที่ให้อัตราส่วนเงินรางวัลสูง หรือ บางเกมส์ก็อาจจะให้อำนาจแก่ผู้เล่นเกมส์ในการตัดสินใจในการวางเงินเดิมพัน เช่น ไพ่โป๊กเกอร์  เป็นต้น  ถ้าหากมองเช่นนี้แล้วเราคงหมดโอกาสที่จะทำกำไรจากเกมส์การพนันที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำเมื่อเทียบกับอัตราการถูกรางวัล หรือ มูลค่าความคาดหวังเป็นลบอย่างแน่นอน

    มันก็คงไม่ใช่อย่างนั้นไปเสียทั้งหมด ผู้อ่านยังจำตัวอย่างของเพื่อนของผู้เขียนได้หรือไม่ เขามีการกำหนดวิธีการเล่น การกำหนดการจัดการการเงินแน่นอน แม้ในเกมส์ที่อัตราเงินรางวัลไม่สูง เขาก็อาจจะยังได้กำไรกลับมา  ทำไมหน่ะหรือ?  ก็เพราะว่าโลกเรามันไม่ได้มีรูปแบบอะไรที่ตายตัว ในการเล่นเกมส์โยนหัวก้อย  มันจะไม่ออก ก้อยกับหัวสลับกันแน่นอน  มันอาจจะออก หัว ก้อย ก้อย หัว  หรือ หัว หัว  หัว หัว ก่อนก็เป็นได้ นั่นก็คือจังหวะที่จะทำให้เราสามารถทำอะไรได้จากเหตุการณ์  ก็เป็นเช่นเดียวกันในตัวอย่างของหวยใต้ดินที่ผู้เขียน ยกตัวอย่าง หากนาย ก. ซื้อหวยเลข 8 มูลค่า 1 บาทแต่ไม่ถูก แต่ปรากฏงวดหน้านาย ก. ซื้อ 8 อีกและถูกรางวัล นาย ก. ก็จะได้กำไรมา 1 บาท  ถ้านาย ก. เลิกเล่น นาย ก. ก็จะจบด้วยกำไร โดยไม่ต้องรอว่าครั้งต่อไปจะเป็นยังไง  ปัญหาของผีพนันจึงเป็นปัญหาเรื่องของ ระบบการจัดการกับระเบียบวินัยในการที่จะทำตามระบบนั้นให้ได้

    มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านบางท่านอาจจะเริ่มมองเห็นทางในการทำกำไรในตลาดการเงินได้บ้างแล้ว  เราสามารถกำหนดปัจจัยเหล่านี้ได้จากหลายอย่างจากความไม่แน่นอน ผู้เขียนคงจะยังไม่ยกตัวอย่างที่มีความซับซ้อนสูง แต่จะยกตัวอย่างที่เป็นที่นิยมในตลาดแทน เช่น การเปรียบเทียบ อัตราส่วนของเงินรางวัลกับความเสี่ยง เทียบเท่ากับ การตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน หรือก็คือ อัตราส่วนกำไรต่ออัตราขาดทุน (Reward: Risk) เช่น ถ้าเราเข้าซื้อ หุ้นตัวหนึ่งราคา 10 บาท เราจะตั้งจุดทำกำไรไว้ที่ 20 บาทและตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ 5 บาท นั่นคือ เราจะมีอัตราส่วน Reward: Risk เท่ากับ 2:1 นั่นเอง  ในส่วนของการเข้าซื้อขายผู้อ่านก็สามารถกำหนดได้ว่า เราจะซื้อขายจุดที่มีความน่าจะเป็นในการกลับตัวสูงได้เช่นกัน

    การกำหนดจุดที่มีความน่าจะเป็นว่าราคาจะเคลื่อนไหวจะเป็นไปในทิศทางที่เราปรารถนาไว้ สามารถใช้หลักการมาประยุกต์ใช้ได้หลายหลักการ  แต่ผู้เขียนก็จะประยุกต์หลักการง่าย ๆ ให้ได้คิดตาม ดังตัวอย่างต่อไปนี้


ตารางแสดงราคาซื้อขายมะนาวตลาดโชคอนันต์

    ตารางข้างต้นแสดงราคามะนาวของตลาดโชคอนันต์ ในรอบ 9 วันที่ผ่านมา นายนก ซึ่งซื้อมะนาวที่ตลาดนี้เป็นประจำเพื่อจะเอาไปขายตลาดอื่น เขาจะซื้อมะนาวเมื่อราคาถูกจำนวนมากเพื่อเก็บไว้ขายในวันอื่น ๆ นายนกซื้อมะนาวตั้งแต่วันที่ 1 เพื่อนำไปขายตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 และมะนาวเขาหมด นายนก รอราคามะนาววันที่ 5 ปรากฏว่าราคามะนาวเท่ากับ 17 บาท เขาคิดว่านี่ยังไม่ใช่ราคาที่ต่ำที่สุด เขาจึงรอดูราคามะนาววันที่ 6 ปรากฏว่าราคามะนาววันที่ 6 เท่ากับ 15 บาทเขาจึงซื้อมะนาวไปขาย และขายได้ 4 วัน จนถึงวันที่ 9 มะนาวเขายังไม่หมดแต่เขาก็คิดว่าเขาจะซื้อเพิ่มเพราะคิดว่า ราคามะนาวถึงจุดต่ำสุดของมันที่ 15 บาทซึ่งถ้ารอไปจนถึงวันที่ 10 ราคาอาจจะแพงกว่า 15 บาทก็เป็นได้ 

    จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า นายนก ตัดสินใจการซื้อขายมะนาวจากราคาในอดีตและคิดว่า ราคา 15 บาทเป็นราคาที่มีความน่าจะเป็นสูงที่จะเป็นจุดกลับตัวทำให้ราคาขยับเพิ่มขึ้น เนื่องจากก่อนหน้าราคายังไม่เคยต่ำกว่า 15 บาทเลย นี่ก็เป็นวิธีเบื้องต้นง่าย ๆ ที่เราจะใช้วัดความน่าจะเป็นของจุดกลับตัวของราคาได้ไม่ซับซ้อนนัก วิธีการนี้ก็ไม่แตกต่างจากการใช้แนวรับแนวต้านในการวิเคราะห์ (Support & Resistance Level) ซึ่งสามารถจะแตกสาขาย่อยออกเป็นจำพวก Indicator ต่าง ๆ ไอ้อีกมากมาย ซึ่งผู้เขียนคงต้องขออนุญาตเอาไว้กล่าวถึง ในเนื้อหาข้างหน้าถัดไป

    ถึงตรงนี้ผู้อ่านจะคิดว่า มันจะดูง่ายเกินไปหรือเปล่า?  ก็ถูกต้องตามที่ผู้อ่านคิด เพราะว่า ในโลกของความเป็นจริงมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง  เช่น ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ก็อาจจะมาจาก ปัจจัยการขับรถเร็ว  การดื่มสุราแล้วขับ อุปกรณ์ของพาหนะไม่พร้อม  ผู้ขับขาดความชำนาญในเส้นทาง สัญญาณจราจรชำรุด สภาพถนนชำรุด มีโรงเรียนหรือที่ชุมชนตั้งอยู่ตรงนั้น ไร้แสงสว่าง เป็นต้น ซึ่ง   แต่ละปัจจัยก็จะมีความน่าจะเป็นของการเกิดซ้อนอยู่ในนั้นอีก ทีนี้ผู้อ่านจะเห็นว่ามันซับซ้อนอยู่ในเหตุการณ์การเกิดมากมาย จากตัวอย่างของราคามะนาว อาจจะมีเรื่องของปัจจัยพื้นฐานเช่น ต้นทุนของมะนาวต่อลูกเท่ากับ 10 บาท เมื่อรวมกำไรส่วนต่างค่าขนส่ง ต่าง ๆ แล้วทำให้ต้นทุนมะนาวเท่ากับ 15 บาท ที่นายนกซื้อ แต่ จู่ ๆ มะนาวออกมาสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ขายไม่หมด เมื่อขายไม่หมดก็ต้องมีการเทขายกันลดราคาเพื่อขายให้ได้ดีกว่าปล่อยให้เน่า ราคาของมะนาวอาจจะไม่สะท้อนต้นทุนของมันก็เป็นได้ หรือในหน้าแล้งที่ไม่มีน้ำ ทำให้มะนาวไม่ค่อยออกลูกส่งผลให้มะนาวขาดตลาด การซื้อขายมะนาวมีการแข่งขันกันสูงทำให้ราคาสูงขึ้น เหตุการณ์สมมุติที่ผู้เขียนกล่าว พยายามชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์มีปัจจัยหลายอย่าง ลำพังการวิเคราะห์เชิงสถิติ ความน่าจะเป็นยังไม่เพียงพอ ต้องมีศาสตร์อื่นเข้ามาประกอบด้วย และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ทำให้การลงทุนแตกต่างจากการพนันคือ การบริหารจัดการที่เป็นระบบและการมีระเบียบวินัยทำตามแผนที่ได้วางไว้แต่ต้น





ลิขสิทธิ์ Traderider.com
ผู้เขียน Numay