ความแตกต่างของ ทั้ง สอง ตัวนี้ ก็คือ Overbought กับ Oversold จะแตกต่างกันครับ
CCI ( Commdity Channel Index ) ตัวนี้ เราสามารถใช้บอกภาวะ Overbought /Oversold ได้ เช่นเดียวกับตัว Stochastic เพียงแต่อาจจะนัยยะแตกต่างกันบ้าง เพราะสูตรมันเขียนมาไม่เหมือนกัน ( ก็แหง๋ล่ะ )
หลักการใช้ก็เหมือนกันกับตัว Stochastic oscillator คือต้องเช็ค trend ก่อน หากไม่มีเทรน หรือเป็น sideway ก็ซื้อขายตามสัญญาณซื้อ/ขาย ตอนตัด OB / OS area แต่หากตลาดมี trend ให้ลงทุนตามแนวโน้มหลักของราคาเท่านั้น อย่าเล่นสวน trend เด็ดขาด หากไม่มีเทคนิคอื่นๆใช้ร่วมด้วย
CCI ----> OB > + 100 OS < -100
RSI ( Relative Strength Index ) ตัวนี้ ผมอธิบายง่ายๆ ว่า เปรียบเมือนค่าความมั่นใจ หากค่ากลางๆคือ 50 จะเป็นค่าปกติ ( normal ) เราไม่ได้เกิดความรู้สึก โลภ หรือ กลัว ขณะราคานั้น
แต่หากค่า RSI มีค่ามากกว่า 50 ขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น 60 -70 -80- 90 จะหมายถึง นักลงทุนเกิดความโลภเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาดหวังว่าราคามันขึ้นเร็วและแรงได้กำไรง่ายๆ จึงรีบไล่ซื้อเพราะความโลภ ราคาจึงเพิ่มขึ้นและค่า
RSI ก็จะเพิ่มไปเรื่อยๆ หากค่า RSI > 70 จะหมายถึงว่าราคาอยู่ในภาวะที่ซื้อมากเกินไป ( แพง ) และค่า RSI < 30 หมายถึง ขายมากเกินไป ( ถูก --เพราะความกลัว ปอดแหก panic แล้วแต่จะเรียก ) ยิ่งค่าต่ำ ความกลัวยิ่งครอบงำมาก
คราวนี้ ก็พอเข้าใจนะครับ ว่าเส้น RSI ที่มีค่าต่างๆ มันบอกอะไร ให้เรารู้ แล้วเราจะได้ตัดสินใจเอาว่าจะทำอย่างไรต่อไป
อันนี้ ผม หาคำอธิบายมาจาก Pantip ครับ น่าจะพอเข้าใจ ความแตกต่างนะครับ สำหรับ ผมแล้ว ชอบ ใช้ CCI มากกว่าครับ โดยบางครั้งผมจะใช้ในการ ดู Divergence ด้วย ครับ