กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

เริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex รีวิวการสอบกองทุน Forex "FTMO"

  • 0 replies
  • 2,267 views
*

admin

  • 80,624
เริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex
รีวิวการสอบกองทุน Forex
"FTMO"



FTMO คือหนึ่งในกิจการ Proprietary trading หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า "prop trading" ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วสุด โดยจะคอยให้บริการจัดสรรเงินลงทุนแก่เทรดเดอร์ที่มีความสามารถ เข้ามาช่วยเทรดและรับส่วนแบ่งจากผลกำไรในการเทรดสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น Forex, คริปโทเคอร์เรนซี และหุ้นได้สูงสุดถึง 90%

สำหรับบทความรีวิว FTMO ฉบับนี้จะนำคุณไปรู้จักกับรายละเอียดที่มาที่ไปของบริษัท, ขั้นตอนการสอบกองทุน, แพลตฟอร์มของการเทรด, ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของบัญชีเทรด และยังพาเจาะลึกไปถึงขั้นตอนการประเมินผลสอบ, เป้ากำไร และค่าสมัครสอบ


ประวัติของ FTMO

FTMO เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นในปี 2020 และมีการเติบโตขึ้นอย่างกว้างขวางมาโดยตลอด ปัจจุบันพวกเขาผ่านการต้อนรับเทรดเดอร์จากกว่า 180 ประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมงาน โดยมีปริมาณการเทรดเกิดขึ้นกว่า 6 ล้านครั้งในแต่ละเดือน และมีการจ่ายเงินส่วนแบ่งให้กับเทรดเดอร์ไปแล้วกว่า $27 ล้านภายในปีก่อนด้วยระยะเวลาเบิกจ่ายเฉลี่ยที่ 8 ชม.

FTMO ได้รับกล่าวถึงในนิตยสาร Forbes และติดอันดับหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดจากรางวัล Deloitte Technology Fast 50 ถึง 3 ปีติดต่อกัน ด้วยแรงดึงดูดหลังการผ่านการสอบกองทุนของพวกเขา ก็จะสามารถเข้าเทรดในบัญชีที่มียอดเงินทุนสะสมรวมได้สูงสุดถึง $400,000




การสอบกองทุน FTMO

ภายในกระบวนการสอบกองทุนของ FTMO จะมีอยู่ 2 ขั้นตอนสำคัญที่เรียกกันว่า "FTMO Challenge" และ "Verification"  ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาในการพิสูจน์ว่าผู้เข้าสมัครสอบมีวินัย, ทักษะ และความสามารถในการทำกำไรจากการเทรดตรงตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนดไว้หรือไม

ขั้นตอนที่ 1 : FTMO Challenge

ระยะเวลาของการสอบ FTMO Challenge จะอยู่ที่ 30 วันตามปฏิทิน ในกรณีที่ผู้เข้าสอบสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ก่อนครบกำหนด 30 วันก็จะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 (Verification) ได้ในทันที

อย่างไรก็ตามได้มีการกำหนดไว้ว่า ต้องมีช่วงเวลาของการเทรดอย่างน้อย 10 วัน ตัวอย่างเช่น หากคุณเทรดได้กำไรตามเป้าหมายภายในเวลา 5 วันที่ตลาดเปิด ก็ยังจะต้องมีการเทรดเพิ่มเติมอีก 5 วันให้ครบตามกำหนด

แต่จากตัวอย่างด้านบน หากคุณสามารถทำตามเป้าหมายได้ตั้งแต่ภายใน 5 วันแรก คุณก็สามารถเทรดด้วยLot Size ขนาด เล็กที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อรักษาผลกำไรให้ได้ตามเป้าหมาย และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบเรื่องระยะเวลาอีก 5 วันที่เหลือ

ผู้เข้าสอบจะเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการสอบเพียงครั้งเดียวในตอนเริ่มต้น ด้วยราคาที่แตกต่างกันตามประเภทของวงเงินกองทุนที่เลือก และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหลังจากผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการสอบในลำดับถัด ๆ ไป โดยที่ FTMO จะคืนค่าธรรมเนียมกลับในกรณีที่สอบผ่านพร้อมกับการถอนเงินส่วนแบ่งของผลกำไรครั้งแรก




ขั้นตอนที่ 2 : Verification

การสอบการทุนในส่วน "Verifiacation" คือขั้นตอนที่ 2 ของการได้เป็นเทรดเดอร์ที่จะทำงานร่วมกับ FTMO โดยผู้เข้าสอบจะได้รับระยะเวลาเพิ่ม 2 เท่าเป็น 60 วัน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของผลกำไรที่วางเอาไว้

ในขั้นตอนนี้มีเงื่อนไขการเข้าเทรดอย่างน้อย 10 วันเหมือนกับขั้นตอนแรก ซึ่งเท่ากับว่าผู้เข้าสอบจะคลายความกดดันลงจากระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นภายในรอบปฏิทิน 60 วันเพื่อเทรดให้ได้กำไรตามเป้าหมาย ก่อนจะได้รับข้อเสนอให้เข้ามาเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถใช้เงินในกองทุนของ FTMO


ขั้นตอนที่ 3 : FTMO Trader

ระหว่างกระบวนการ "FTMO Challenge" และ "Verification" ผู้เข้าสอบจะต้องผ่านการพิสูจน์ว่าคู่ควรต่อการได้รับเงินทุนจาก FTMO หรือไม่ และเมื่อผ่านมาถึงขั้นตอนที่ 3 ได้ก็แสดงว่าผู้เข้าสอบสามารถทำได้ตามเป้าหมายและพร้อมที่จะเข้ามาร่วมงานกับบริษัท

นับจากจุดนี้บัญชี FTMO ของคุณจะเชื่อมต่อกับบัญชีจริงของบริษัท โดยส่วนแบ่งจากผลกำไรเริ่มต้นที่เทรดเดอร์ได้รับจะอยู่ที่ 80:20 ซึ่งหมายถึงคุณสามารถเก็บสัดส่วน 80% จากผลกำไรที่เทรดได้และถอนเงินส่วนนั้นเข้ามาในบัญชีธนาคารของตนเอง

นอกจากนี้ FTMO ยังมีแผนสเกลอัพส่วนแบ่ง โดยเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถขยับขึ้นไปถึงอัตราสูงสุดในส่วนแบ่งของผลกำไรที่ 90:10 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่โดดเด่นมากภายในอุตสาหกรรม prop trading




ในกรณีที่ผู้เข้าสอบจบช่วงระยะเวลา "FTMO Challenge" และ "Verification" โดยไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยังสามารถรักษายอดขาดทุนรายวันสูงสุด (Max Daily Loss) และยอดขาดทุนรวม (Max Loss) เอาไว้ได้

เมื่อรวมกับเงื่อนไขที่ยังมีผลกำไรเป็นบวกอย่างน้อยแค่ $0.01 หลังปิดสถานะทั้งหมด ผู้เข้าสอบก็ยังจะได้รับโอกาสเข้าสอบใหม่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลประโยชน์อันล้ำค่าสำหรับผู้ที่หวังจะก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนี้


เป้าหมายของผลกำไร

เป้าของกำไรในการสอบกองทุน FTMO จะขึ้นอยู่กับสกุลเงิน, ระดับความเสี่ยง และขนาดของบัญชีที่เลือก เช่น หากคุณเลือกระดับความเสี่ยงธรรมดา Max Daily Loss จะอยู่ที่ 5% ของเงินทุนเริ่มต้น ในขณะที่ Max Loss และเป้าของกำไรจะอยู่ที่ 10% ของเงินทุนเริ่มต้น

หากคุณเลือกระดับความเสี่ยงแบบ Aggressive ตัวเลขทุกอย่างจะเพิ่มเป็น 2 เท่า นั่นคือ Max Daily Loss ที่ 10% ส่วน Max Loss และเป้าของกำไรจะขยับขึ้นเป็น 20% ของทุนตั้งต้นในการสอบ ดังนั้นด้วยระดับ Aggressive คุณจะมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับ Drawdown (DD) แต่ก็ต้องแลกกับเป้าของผลกำไรที่สูงขึ้นเช่นกัน




สินทรัพย์ที่ใช้ในการเทรด

สกุลเงินที่สามารถใช้ในการเทรด ได้แก่ USD, GBP, EUR, CZK, CAD, AUD, CHF ส่วนขนาดของบัญชีก็มีให้เลือกตั้งแต่ $10,000, $25,000, $50,000, และ $100,000 สำหรับทั้ง 2 ระดับความเสี่ยง ในขณะที่ระดับความเสี่ยงธรรมดายังมาพร้อมขนาดบัญชีที่ $200,000

FTMO โฟกัสการเทรด Forex ที่ระดับ leverage ไม่เกิน 1:100 ดังนั้นที่ขนาดบัญชี $10,000 จะสามารถใช้เทรดได้ที่ $1,000,000 โดยที่มีคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD และ USD/JPY ให้ใช้ในการเทรด พร้อมกับคู่เงินรองที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น USD/HKD หรือ EUR/NOK รวมทั้งหมด 44 สกุลเงินในการเทรดกับ FTMO

อย่างไรก็ตามเทรดเดอร์ยังสามารถเข้าเทรดในสินทรัพย์อื่น ๆ ได้แก่ โลหะ 8 ชนิด, 14 ดัชนีเงินสด, 4 สัญญาฟิวเจอร์ส, 10 คริปโทเคอร์เรนซี และ 23 ดัชนีหุ้นผ่านการซื้อขายแบบ CFD


ค่าใช้จ่าย

ผู้เข้าสอบจำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมเพื่อสมัครสอบกองทุนกับ FTMO แต่เมื่อสอบผ่านเข้ามาทำงานเป็นเทรดเดอร์ร่วมกับบริษัทแล้ว จะได้รับค่าธรรมเนียมในการสอบกลับคืนตอนถอนเงินส่วนแบ่งจากการเทรดทำกำไรครั้งแรกได้

ในกรณีที่ผู้เข้าสอบไม่สามารถผ่านไปจนถึงขั้นตอนที่ 3 ของการสอบ ก็สามารถเข้าสอบใหม่ได้โดยเสียค่าธรรมเนียมอีกครั้ง แต่หากรักษาระดับ Max Daily Loss และ Max Loss เอาไว้ได้ก็สามารถขอสอบใหม่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำ




สำหรับโครงสร้างของค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่ ระดับของความเสี่ยงและขนาดยอดเงินในบัญชี

ระดับความสี่ยงธรรมดา (Normal)

•   บัญชี $10,000 คิดค่าธรรมเนียม : €155
•   บัญชี $25,000 คิดค่าธรรมเนียม : €250
•   บัญชี $50,000 คิดค่าธรรมเนียม : €345
•   บัญชี $100,000 คิดค่าธรรมเนียม : €540
•   บัญชี $200,000 คิดค่าธรรมเนียม : €1,080


ระดับความเสี่ยงสูง (Aggressive)

•   บัญชี $10,000 คิดค่าธรรมเนียม : €250
•   บัญชี $25,000 คิดค่าธรรมเนียม : €345
•   บัญชี $50,000 คิดค่าธรรมเนียม : €540
•   บัญชี $100,000 คิดค่าธรรมเนียม : €1,080


จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ระดับ Aggressive จะไม่มีบัญชี $200,000 จากที่ค่าธรรมเนียมจะเท่ากับขนาดบัญชีขั้นถัดไปของระดับธรรมดา เช่น ค่าธรรมเนียม €250 ของบัญชี $25,000 ในระดับธรรมดาก็จะเท่ากับค่าธรรมเนียมของบัญชี $10,000 ในระดับ Aggressive



ข้อมูลเชิงลึกของแพลตฟอร์ม FTMO

หลังจากคุณเปิดบัญชีสมาชิกกับ FTMO เพื่อขอสอบกองทุนหรือทดลองใช้งานแบบ Free Trial แล้ว ก็จะสามารถล็อกอินเข้ามาในหน้า dashboard ที่คุณจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง เครื่องมือจัดการความเสี่ยงและศูนย์การเรียนรู้เรื่องเทรด

ในการเปิดเข้าแพลตฟอร์มบัญชีการเทรดของตนเองให้กดเข้าไปที่ Client Area and Credentials ในส่วนของ FTMO Challenge ซึ่งจะเห็นรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงลิงค์ที่จะส่งไปยังแพลตฟอร์มในการเทรด

ทุก ๆ การเทรดจะถูกตรวจสอบย้อนหลังได้ในส่วนของ FTMO MetriX โดยเข้าไปที่หน้า dashboard ของตนเองแล้วเลือกการสอบ FTMO Challenge ที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการและเลือกไปที่ MetriX เพื่อติดตามรายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่ สถานะของออเดอร์, วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของการสอบ, ขนาดของบัญชี และผลลัพธ์ในปัจจุบัน

ในส่วนนี้คุณยังจะได้เห็นสถานะเป้าหมายสำหรับการสอบ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 4 หัวข้อหลัก
•   ระยะเวลาเทรดอย่างน้อย 10 วัน
•   ยอดขาดทุนรายวันสูงสุด (Maximum Daily Loss)
•   ยอดขาดทุนโดยรวมสูงสุด (Maximum Overall Loss)
•   เป้าของผลกำไร




เมื่อสามารถทำตามเป้าหมายได้ทุกหัวข้อคุณก็จะสามารถผ่านไปยังขั้นตอนถัดไป ซึ่งภายใน FTMO MetriX คุณยังสามารถเปิดดูประวัติการเทรดที่ผ่านมา หรือในกรณีที่คุณได้ร่วมงานเป็นเทรดเดอร์กับบริษัทแล้วก็สามารถกดปุ่มรีเฟรชตรงด้านบนเพื่อดูสถิติล่าสุดได้

ฟีเจอร์อื่น ๆ


FTMO Mentor เป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานร่วมกับ MT4 เพื่อใช้ในการติดตามพฤติกรรมการเทรดของคุณ โดยจะช่วยให้คุณสร้างวินัยในการเทรดและช่วยเตือนหากคุณเทรดไปในแนวทางที่ได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงหลุดไปจากที่ควร

ในส่วนของ Downloads คุณสามารถมองหาตัวช่วยในการเทรด, Expert Advisors (EA) และอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้งานร่วมกับ MT4 อย่าง Autofibo, the Breakout Zones และ SL & TP Values ในขณะที่คุณยังสามารถหาลิงค์ดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ cTrader ได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถศึกษาวิชาความรู้และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเทรดได้ในส่วนของ FTMO Academy ที่มีทั้งวิดีโอสอนสำหรับมือใหม่, ข้อมูลเชิงลึกสำหรับแพลตฟอร์มการเทรดทั้งหลาย และเคล็ดลับสำหรับการเทรด



สรุปภาพรวม

ข้อดี

•   เป็นการเทรดด้วยกองทุนของบริษัท prop trading ที่จะทำให้คุณไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงด้านเงินทุน
•   ส่วนแบ่งของผลกำไรที่ได้จากการเทรดสูงถึง 80%-90%
•   จะได้รับค่าธรรมเนียมในการสอบคืนหากผ่านขั้นตอนการสอบทั้งหมด พร้อมกับเงินส่วนแบ่งจากผลกำไรก้อนแรก
•   มีจำนวนของคู่เงินกระดาษและคริปโทเคอร์เรนซีมากมายให้เลือกใช้ในการเทรด
•   มีความโปร่งใสสูงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียม, กฎระเบียบ และประเภทของบัญชี


ข้อเสีย

•   อาจไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์สายฟิวเจอร์สหรือหุ้น
•   ขนาดของบัญชีเริ่มต้นเล็กกว่าคู่แข่งในวงการเดียวกัน เช่น Funded Trader


"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"