เรื่องจุดอ่อนในการเทรดเป็นเรื่องที่เทรดเดอร์ส่วนมากมักจะมองข้าม แต่ว่าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการเทรดถ้าสามารถแก้ไขได้  และยังเป็นเหตุที่ยังทำให้เทรดเดอร์ยังทำพลาดแบบเดิมๆ อยู่เรื่อย นอกจากนี้ยังกระทบต่ออย่างอื่นด้วย แต่ถ้าเทรดเดอร์สามารถเปลี่ยนจุดอ่อนพวกนี้เป็นจุดแข็งได้ ก็จะช่วยให้เทรดดีขึ้นได้ จุดอ่อนของแต่ละเทรดเดอร์อาจต่างกันออกไป แล้วแต่รูปแบบการเทรดของแต่ละเทรดเดอร์ พร้อมทั้งการจัดการการเทรด และการบริหารความเสี่ยง แต่หลักการแปลงจุดอ่อนการเทรดไปเป็นจุดแข็งเป็นขบวนการที่ไม่ต่างกัน แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน

บันทึกการเทรดและวิเคราะห์ คือจุดเริ่มต้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง


ถ้าไม่มีการบันทึกการเทรด เป็นการยากที่จะวิเคราะห์จุดอ่อนและแก้ไขได้อย่างถูกจุด การได้ดูย้อนหลังการเทรดที่เราได้เทรด ช่วยให้เราเห็นรายละเอียดต่างๆ เช่นเงื่อนไขการเปิดเทรด ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องแก้ไขและปรับปรุงตรงไหน เช่นการเปิดเทรดของท่านอาจทำกำไรจริง แต่เมื่อท่านศึกษาบันทึกย้อนหลัง กลายเป็นว่าท่านเทรดแบบหวังกำไรไม่กี่ Pips เรื่องของ Risk:Reward ไม่ดี เพราะเน้นเข้า-ออกเร็ว เป็นการเทรดแบบ Scalping  ถ้าราคาวิ่งสวนท่านก็ Stop loss ไม่กี่ pips แต่เมื่อราคาวิ่งเข้าทาง ท่านก็ออกเร็วเช่นกัน ไม่ปล่อยให้กำไรวิ่งมากขึ้น ท่านอาจมาปรับเรื่องของ Risk:Reward ใหม่ และทนผ่านเวลาให้เป็น แล้วเพิ่มการ Risk Management ไม่จำเป็นต้องเปิดออเดอร์หลายๆครั้ง ยังช่วยให้ท่านเทรดได้ดีด้วยเพราะไม่ต้องมากังวลหา trade setup บ่อยๆ  หรืออาจเป็นการเปิดเทรดจาก Trade setup ที่อิงจาก Timeframe น้อยเกินไป เช่น M5 ทำให้เรื่องของ Risk:Reward ท่านไม่ดี และไม่สามารถทนกำไรวิ่งยาวๆ ได้

นอกจากนั้นแล้ว การศึกษาการเทรดย้อนหลังของท่านยังช่วยให้ท่านเห็นรูปแบบพฤติกรรมการเทรดของท่าน ซึ่งพฤติกรรมบางอย่างจำเป็นต้องแก้ไข  เพราะพฤติกรรมพวกนี้ เป็นพฤติกรรมที่เราโต้ตอบกับการเคลื่อนของราคา ส่วนมากก็จะส่งผลต่อการเทรด หรือมักจะได้ยินคำว่า Herd Mentality ที่ขาใหญ่มักจะใช้ประโยชน์จากการโต้ตอบของรายย่อย เช่นอย่างช่วงที่มีข่าวแรงๆ หรือ Momentum แรงๆ มักจะกระตุ้นให้เปิดเทรดตาม การเปิดเทรดเช่นนั้น ราคาได้วิ่งไปเยอะแล้ว และการเคลื่อนชัดเจนแล้ว การเปิดเทรดเท่ากับว่าเปิดเทรดด้วย Risk หรือส่วนความเสี่ยงที่สูงนั่นเอง ถ้าเราไม่ได้ศึกษาการเทรดย้อนหลัง เราก็จะมองข้าม ทำให้เกิดรูปแบบพฤติกรรมแบบเดิมๆ ที่ทำให้เป็นจุดอ่อนตลาดได้

ค่อยๆ เปลี่ยนจุดอ่อนแต่ละจุด

การเปลี่ยนจุดอ่อนแต่ละอย่างจะต่างกันออกไป แล้วแต่ประสบการณ์ของเทรดเดอร์ เพราะอาจมีหลายจุดที่ต้องแก้ไขเมื่อได้ศึกษาการเทรดย้อนหลัง ให้เริ่มกับจุดอ่อนที่สำคัญก่อนเช่น จุดอ่อนเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยง ถ้าเปิดเทรดโดยไม่ให้ความสำคัญมากพอ และเมื่อท่านแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้ ก็จะพลอยแก้ไขจุดอ่อนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยเช่น เมื่อท่านจะเปิดเทรด ท่านต้องมั่นใจว่าแต่ละ Trade setup นั้นท่านได้เห็นว่าจะกำหนด Stop loss ตรงไหน เทรดด้วย Lot size เท่าไร เมื่อเทียบกับทุนท่าน และถ้ามีออเดอร์ที่ถืออยู่ รวมกับที่จะเปิดแล้ว ความเสี่ยงทั้งพอร์ตเทรดของท่านเป็นอย่างไร ถ้าราคาวิ่งสวนท่าน สามารถรับความเสี่ยงแต่ละออเดอร์ และทั้งพอร์ตได้เท่าไร เมื่อจะเปิดเทรดแต่ละครั้งท่านก็จะคำนวณล็อตที่ท่านจะเทรด พร้อมกำหนด stop loss และ take profit ได้ง่ายขึ้น ถ้าท่านได้แก้ไขจุดอ่อนนี้  หรืออีกตัวอย่าง  ท่านเปิดเทรดช่วงตลาดไม่ค่อยวิ่ง เมื่อเปิดแล้ว การถือออเดอร์ที่เปิดเทรดก็นาน ทำให้ถือความเสี่ยงอยู่ในตลาดนาน พอตลาดช่วงหลักๆ เช่นตั้งแต่ช่วงตลาดยุโรปเปิดมา ราคาอาจวิ่งสวนท่านแรงได้ เมื่อท่านได้วิเคราะห์ย้อนหลัง ท่านก็จะหันมาหาโอกาสเทรดช่วงตลาดยุโรป ไปจนถึงช่วงตลาดอเมริกามากขึ้น

ความอดทนจำเป็นมากสำหรับการเปลี่ยนจุดอ่อนให้มาเป็นจุดแข็ง

การที่จะเปลี่ยนจากจุดอ่อนมาเป็นจุดแข็งได้ มันต้องใช้เวลาและขบวนการค่อยๆ เปลี่ยนเพื่อสร้างนิสัยหรือพฤติกรรมการเทรด การโต้ตอบตลาดใหม่ให้เกิดขึ้น ขบวนการพัฒนาการเทรดแบบนี้ เป็นเรื่องน่าเบื่อเพราะต้องทนเพื่อจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ได้  เป็นเรื่องที่ต้อนทนและค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลง นอกจากเข้าใจและหาข้อผิดพลาดจากการวิเคราะห์ย้อนหลังแล้ว จากนั้นต้องค่อยๆ ฝึก เพื่อเปลี่ยนแปลง จนทำให้กลายมาเป็นพฤติกรรมการเทรดแบบใหม่ หรือเป็นการโต้ตอบแบบใหม่ให้เกิดขึ้นได้

การเปลี่ยนแปลงจุดอ่อนให้กลายมาเป็นจุดแข็งได้ เป็นเรื่องต้องใช้เวลาตั้งแต่การบันทึกการเทรดเพื่อศึกษาข้อเสียและจุดอ่อนของตัวเองเพื่อจะได้แก้ไข้ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องของขบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน วิธีลดจุดอ่อนตั้งแต่แรก คือการเทรดด้วยการมีแผนการเทรดเข้ามาประกอบทุกครั้งที่จะเปิดเทรดเช่น การจะเปิดเทรด พยายามเทรดตามแผนการเทรดให้ได้ก่อนทุกครั้งที่เปิด ก็จะเป็นการกรองไม่ให้จุดอ่อนเกิดขึ้นและเป็นการสร้างพฤติกรรมการเทรดที่ดีต่อเนื่องกันได้ ถ้าการเปิดเทรดมาจากการวางแผนตั้งแต่การวิเคราะห์แต่ละวัน กำหนดเทรนว่าเป็นเทรนขึ้นหรือเทรนลง แล้วหา trade setup ที่สัมพันธ์กับเทรนหลัก เมื่อได้แล้วค่อยมาหาจุดเข้า-หาจุดออก พร้อมทั้งเห็นสัดส่วน Risk:Reward ที่ได้ตามที่กำหนด ถ้าได้เงื่อนไขตามต้องการและชัดเจนค่อยจะเปิดเทรด  การเปิดเทรดด้วยการใช้แผนการเทรดเข้ามาประกอบ ก็จะช่วยลดหรือกันจุดอ่อนการเทรดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดีกว่าที่ต้องคอยมาเปลี่ยนแปลงที่หลัง