กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

จะพัฒนามุมมองตลาดให้ดีขึ้นอย่างไร

  • 0 replies
  • 489 views
จะพัฒนามุมมองตลาดให้ดีขึ้นอย่างไร
« เมื่อ: 28, ธันวาคม 2021, 05:07:44 PM »
จะพัฒนามุมมองตลาดให้ดีขึ้นอย่างไร

การมีมุมมองตลาดที่ชัดเจนช่วยให้เทรดเดอร์ร์ตัดสินใจเทรดเทรดได้ดีว่าจะเทรดทางไหน ความเป็นไปได้ตอนนั้นของการเคลื่อนตลาดเป็นไปทางไหน มุมมองตลาดที่ชัดเจนให้เห็นว่าราคากำลังทำเทรนก็จะเทรดตามเทรนเป็นหหลัก หรือเป็นช่วงที่ตลาด Corrective ก็จะหาโอกาสเทรดสวนตามเทรนได้ แล้วแต่ละช่วงตลาดและมุมมองที่วิเคราะห์ออกมา มุมมองตลาดคือ ภาพรวมที่ท่านมองเห็นว่าการเคลื่อนของค่าเงินที่จะเทรดมีความเป็นไปได้ที่ไปในทางที่ท่านมองมากกว่าอีกทาง เป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือข้อมูลด้านพื้นฐานเกี่ยวกับสินค้าที่ท่านจะเทรดก็ได้ แล้วแต่วิธีการที่ท่านใช้กำหนด สำหรับการเทรดก็จะเป็นภาพรวมที่มองการเคลื่อนว่าจะขึ้น (Bullish) หรือจะลง (Bearish) มุมมองตลาดจะช่วยกำหนดทิศทางการเทรดว่าท่านจะเทรดทางไหนและอย่างไร

ทำไมมุมมมองตลาดจึงจำเป็น

มุมมองตลาดจำเป็นเพราะว่าจะช่วยในการตัดสินใจว่าจะเปิดเทรด ให้สัมพันธ์กับกลยุทธ์การเทรดของท่านอย่างไร เช่นอย่าง การเทรดเทรน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย เมื่อท่านมีมุมมองตลาดเป็นขาขึ้นหรือ Bullish Trend ท่านก็จะหาทางเทรดตามเทรนหรือเปิด Buy เป็นหลัก ดังนั้น Trade setup ที่ท่านวิเคราะห์ก็จะมุ่งเน้นไปทางเปิด Buy เป็นหลัก เพื่อเทรดตามเทรน  เช่นเมื่อท่านจะเปิดเทรด มีการตัดสินใจหลายๆ อย่างคือ จะเปิดเทรดคู่เงินไหน จะเปิดเทรดเมื่อไหร เมื่อเปิดเทรดแล้วจะถือรอนานเปล่า จะออกเมื่อไร และจะใช้ล็อตเทรดเท่าไร จะ Stop loss หรือถ้ากำไรจะปิดบางส่วนหรือไม่เป็นต้น  ด้วยมุมมองตลาดที่ถูกต้องและมีความเป็นไปได้มากกว่าอีกข้าง ท่านจะมีกรอบว่าจะเทรดไปทางไหน และจัดการการเทรดให้สัมพันธ์กับการวิเคราะห์อย่างไร โอกาสที่จะประสบความสำเร็จทำกำไรต่อเนื่องก็มากกว่า

พัฒนามุมมองด้วยอินดิเคเตอร์


อินดิเคเตอร์ Moving Averaging คือทูลที่ง่ายและนิยมในการกำหนดมุมมองตลาดว่าทำเทรนหรือวิ่งอยู่ในกรอบ การกำหนดค่า MA เช่นอย่างในภาพประกอบเป็น MA 50 และ MA 20 สำหรับกำหนดเทรน บางท่านใช้ MA 200 เข้าไปด้วย แต่ที่ต้องการคือหลักการว่าใช้ MA ในการพัฒนามุมมองตลาดเพื่อเสริมการเทรดอย่างไร หลักการก็จะอิงราคากับเส้น MA คือถ้าราคาต่ำกว่าเส้น MA มุมมองตลาดก็จะเป็น Bearish หาโอกาสเปิด Sell เป็นหลัก หรือถ้าราคาอยู่เหนือกว่าเส้น MA ก็จะมองเป็น Bullish หาโอกาสเทรด Buy เป็นหลัก

เช่นอย่างภาพด้านบนเป็นชาร์ต EURUSD H4 ใช้ MA 50 และ MA 20 ดูในกรอบที่ราคาใช้และห่างจากเส้น MA อย่างชัดเจน มุมมองการคลื่อนราคาต่ำกว่าเส้น ก็จะเป็น Bearish ดังนั้นเมื่อมองหา Trade setup ก็จะหาโอกาสเทรด Sell เป็นหลัก เช่นการเปิด Sell ที่เลข 1 2 และ 3 และด้วยการได้มุมมองแบบนี้ เรายังสามารถถือรอได้ด้วยจนกว่า ราคาเริ่มวิ่งกลับเข้าหาเส้น MA และตัด [หลักการมองเทรนและการเทรดจากเส้น MA คือ เทรดตอนที่ราคาออกจากเส้น MA และราคาเด้งกลับมาหาเส้น] ดูที่เลข 1 และ 2 จะเห็นชัดว่าราคาเด้งออกจากเส้น MA ส่วนเลข 3 การเปิดเทรด จะเห็นว่าราคาได้เบรคเส้น MA 20 ขึ้นมาแล้วมาเด้งออกใต้เส้น MA 50 การเด้งออกเพื่อเทรดตามเทรนหรือ มุมมองเทรดที่เป็น Bearish ในที่นี้ การเปิดเทรด อาจเป็นการเปิด Lower timeframe ลงไป หรือดูรูปแบบแท่งเทียนที่บอกว่าเด้งออก หรือ Rejection ด้วยการดู High เด้งออก มีหางแท่งเทียน หรืออาจเป็น Bearish Engulfing

พัฒนามุมมองด้วย Price Action


อีกวีธีการในการกำหนดมุมมองของการเคลื่อนคือการใช้ Price Action ว่าเปิดเผยอย่างไร จะเป็นการดูการพัฒนาการ Swing highs/lows ที่เกิดเป็น Market structure สำหรับเทรนขึ้น ก็จะเห็นการพัฒนาของ Market structure คือ Higher Highs ตามด้วย Higher lows ต่อเนื่องกัน  และถ้าเห็นการพัฒนาการ Lower Lows ตามด้วย Lower Highs ต่อเนื่องกันก็เห็นเทรนลงหรือ Bearish market การกำหนด Trade setup ก็จะสัมพันธ์กับมุมมองตลาดว่าไปทางไหน การเทรดก็จะเป็นการเทรดตามเทรนหรือ Pullback เมื่อราคาจบการทดสอบหรือจบช่วง Corrective


มุมมองตลาดหรือสินค้าที่จะเทรดมีความสำคัญเพราะว่าจะเป็นการบอกว่าจะตัดสินใจในการเทรดและเกี่ยวกับการเทรดอย่างไรตั้งแต่ทิศทาง เช่นอย่างการเปิดเทรดด้านบน เมื่อกำหนดมุมมองตลาดได้ว่าจะเทรดทางไหน ก็กำหนดว่าจะเทรดทางไหนเป็นหลัก ในที่นี้ก็คือ Sell เป็นหลัก การตัดสินใจเทรน ตัดสินใจเทรดเมื่อราคากลับมาทดสอบเกิด Sell Trade Setup หลังจากที่ราคาได้จบ Lower High เปิดตอนที่แท่งเทียน Bearish เกิดขึ้นก็จะชัดเจนเพราะว่าบอกถึง การยืนยันการจบของ Corrective move ตรงที่ Lower High ด้วย จะออกเทรด อย่างน้อยก็เห็นจุดที่ราคาได้ทำ Lower Low ก่อนเป็นจุดเบื้องต้น ส่วน Stop loss ก็จะเหนือกว่าแท่งเทียน Bearish ตรงที่ราคาทำ Lower High นั้น การที่มีมุมมองสินค้าที่จะเทรดชัดเจน ก็จะช่วยบอกว่าจะเทรดทางไหนเป็นหลัก ช่วยให้เห็นว่าจะออกตรงไหน นอกจากนั้นยังสามารถใช้ล็อตกับการเทรดได้เหมาะสมด้วยเพราะว่าการที่มีมุมมองชัดเจน ทำให้เราสามารถเทรดเพราะมีความเป็นไปได้มากกว่าอีกข้าง ก็จะช่วยให้กำหนดล็อตเหมาะสมกับการถือ Position โดยรวมของพอร์ตได้ดีและถือรอได้นานด้วย

มุมมองในการเทรด ช่วยให้ท่านตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับการเทรดด้วยการมีข้อมูลเกี่ยวกับการเทรดที่ผ่านการวิเคราะห์ตลาด ว่าความเป็นไปได้น่าจะอยู่ทางไหนมากกว่า การกำหนด trade setup เพื่อเข้าเทรด การจัดการการเข้าเทรด ออกเทรด หรือปิดกำไร ก็จะสัมพันธ์กับมุมมองการเทรดของท่าน เมื่อฝึกจนชำนาญ มุมมองตลาดก็จะเป็นตัวกรองการเทรดของท่าน ก็จะช่วยให้การเทรดของท่านประสบความสำเร็จต่อเนื่องได้