Usd index :ตอนนี้มายืนเหนือ fibo 138.8 ได้แล้วนะครับ โดยไม่มีการย่อให้เห็น แนวโน้ม อาจจะ Breakout ขึ้นไปทดสอบแนวต้านตรง fibo 161.8 ที่ 97.88 ซึ่งหาก Usdindex แข็งค่าตามคาดการณ์แล้ว
จะมีผลทำให้ EURUSD ลดลงต่ำกว่า 1.1100-1.1130 ได้ และ แน่นอนครับตอนนี้ เทรนแข็งค่า มาแรงสำหรับดอลล่าห์ เนื่องจาก powell รับตำแหน่งอีกสมัย จากการ เสนอชื่อของ Joe Biden ยังไงลุ้นกันครับ
ขอให้มาตามแผน

เนื่องจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ช่วงเวลาการซื้อขายของกลุ่มคู่เงินต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง 2 ช่วงเวลาดังต่อไปนี้

ช่วงเวลาที่ 1

กลุ่มโลหะ
1. XAU (ทองคำ), XAG
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:45 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:05 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:05 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. XPT, XPD
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:45 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:10 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:10 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

กลุ่มพลังงาน
1. USOIL
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:45 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:10 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:10 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. UKOIL
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด: 01:10 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 08:10 น. ตามเวลาประเทศไทย

กลุ่มดัชนี
1. US30, USTEC, US500
- เวลาปิด : 18:00 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:00 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:30 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:30 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. JPY225
- เวลาปิด : 18:00 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:00 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 00:00 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 07:00 น. ตามเวลาประเทศไทย

กลุ่มหุ้นสหรัฐ
- ช่วงเวลาการซื้อขายจะไม่เปิดให้บริการในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2020 ตลอดทั้งวัน
- เวลาเปิด : 14:40 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 21.40 น. ตามเวลาประเทศไทย

ช่วงเวลาที่ 2

กลุ่มโลหะ
1. XAU, XAG
- เวลาปิด : 18:30 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:30 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:05 GMT+0 ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:05 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. XPT, XPD
- เวลาปิด : 18:30 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:30 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:10 GMT+0 ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:10 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

กลุ่มพลังงาน
1. USOIL
- เวลาปิด : 18:30 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:30 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:10 GMT+0 ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:10 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. UKOIL
- เวลาปิด : 18:30 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด: 01:10 GMT+0 ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 08:10 น. ตามเวลาประเทศไทย


กลุ่มดัชนี
1. US30, USTEC, US500
- เวลาปิด : 18:15 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:15 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:30 GMT+0 ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:30 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

2. JPY225
- เวลาปิด : 18:15 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 01:15 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 00:00 GMT+0 ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 07:00 น. ตามเวลาประเทศไทย

กลุ่มหุ้นสหรัฐ
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:15 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 14:40 GMT+0 ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 21.40 น. ตามเวลาประเทศไทย

ส่วนคู่เงิน Forex อื่นๆ ลูกค้าสามารถทำการเทรดได้ตามปกติ ทั้งนี้อาจจะทำให้สภาพคล่องทางการตลาดต่ำและค่าสเปรดมีความกว้างกว่าปกติ เนื่องจากผู้ให้บริการราคาในตลาดมีจำนวนน้อย

  🔔 ราคาทองคำ ล่าสุดเช้านี้ยังยืนต่ำกว่า 1800 ได้ต่อเนื่องโดย Low ล่าสุดของราคาทองคำนั้นอยู่ที่ 1778 ก่อนที่เช้านี้ กราฟราคาทองคำจะกลับตัวขึ้นมาที่ 1794 จากการเกิดสัญญาน Divergence RSI ที่ H1 และ M30 แต่ตอนนี้นี้ ราคาทองคำ นั้นเรียกได้ว่าเข้ามาสู่แนวโน้มขาลงเต็มตัวหลังจากยืนเหนือ 1800$ ไม่ได้และ ลงมาต่ำกว่าแนว Sideway 1795(ของ ไตรมา 3-4 ปีนี้) ได้ จากภาพใหญ่ค่อนข้างที่จะหมดหวังสำหรับขาขึ้นแล้วนะครับกราฟมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อเนื่อง จากเทรนไลน์ขาลงหลักใน TFDay ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้ จึงมองหาจังหวะในการ Sell มากกว่า โดย จากรูปประกอบทีแนบมาจะเห็นการ Breakout ขึ้นไป จากกรอบ 3 เหลียมและกลับลงมาเทส แนวรับ ตรงกรอบของเส้น Breakout และด้านบนจะเป็นแนวต้าน ช่วง 1805-1808 ช่วงนี้ จะเป็นแนวต้าน ที่เห็นได้ง่าย และมีนัยยะที่จะ Sell โดยจากรูป จะเห็นว่ากราฟลงมาทดสอบแนวรับ ตรงเส้นเทรนไลน์ของกรอบ 3 เหลี่ยม Triangle และกำลังจะดีดกลับขึ้นไป จาก Low 1781 โดยตรงนี้ การดีดกลับขึ้นไปจากแนวรับ และคาดว่าน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ที่ 1805-1808 ได้ก่อนที่จะลงตามแนวโน้มหลัก ดังนั้น วันนี้ แม้ว่า กองทุน SPDR จะเข้า ซื้อรัวๆก็ตามนะครับแต่ ยังมองหาจังหวะ Sell ในแนวโน้มขาลง จากกราฟ Day ทางเทคนิค โดย หากกราฟ ราคาทองคำ แผนนี้พลาด และราคายืน เหนือ 1820-1835 ได้กราฟจะกลับตัวเป็นขาขึ้นนะครับตรงนี้ค่อยเปลี่ยนแผนการเทรดแต่ วันนี้ ยังคงหาจังหวะ Sell ต่อเนื่อง ครับ

  🔔🔔เนื่องจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ช่วงเวลาการซื้อขายของกลุ่มคู่เงินต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง 2 ช่วงเวลาดังต่อไปนี้

ช่วงเวลาที่ 1

กลุ่มโลหะ
1. XAU (ทองคำ), XAG
- เวลาปิด : 17:45 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 00:45 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย
- เวลาเปิด : 23:05 GMT+0 ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 หรือเวลา 06:05 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2021 ตามเวลาประเทศไทย

✅✅#SPDRไม่เปลี่ยนแปลง ✅✅

รายงานการถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Share  25 พฤศจิกายน 2564

ทองคำแท่ง รวมในคลัง SPDRล่าสุด ✅✅ 991.11 ตัน

เดือนนี้  พฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้น ✳️✳️ +8.97 ตัน

ปีนี้ 2564 ลดลง  🔻🔻 179.63 ตัน
**********************************************

#ทองคำ,#ทองคำแท่ง,#กองทุนทองคำ,#ซื้อทอง,#spdrgoldtrust,#gold,#goldtrust,#goldshare,#ราคาทองคำ #traderider
🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔🔔
#ติดตามข่าวสาร Forex,ทองคำ กับ TRADERIDER
🌐🌐เวปไซต์ :www.traderider.com
**********************************************

(Nov 24) คอลัมน์ กระแสโลก: เหตุผลที่เลือก 'พาวเวลล์': ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจเสนอชื่อ เจอโรม พาวเวลล์เป็น ประธานธนาคารกลางสหรัฐอีกสมัยทั้งที่มีการคัดค้านจากวุฒิสมาชิกภายในพรรคเดโมแครตส่วนหนึ่ง ก็น่าจะมองได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและสามารถก้าวข้ามแรงกดดันทางการเมืองได้ เพราะถ้าเป็นผู้นำประเทศที่การเมืองยังล้าหลัง ถือประโยชน์แห่งพรรคมากกว่าประโยชน์ของชาติและประชาชน ไม่มีทางที่จะมีการแต่งตั้ง "เด็กนอกพรรค"ได้เลย
         
พาวเวลล์ได้เป็นประธานเฟดเพราะการแต่งตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน เมื่อปี 2561 แต่ก็ถูกทรัมป์โจมตีตลอดเวลาหลังจากที่เขาได้ขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้ง ขณะที่ลาเอล เบรนาร์ดได้ขึ้นมาเป็นคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางสหรัฐเพราะบารัก โอบามาจากพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2557
         
ไบเดนให้เหตุผลในการเสนอชื่อพาวเวลล์ แทน เบรนาร์ด ที่วุฒิสมาชิกคนสำคัญในพรรคเดโมแครตเชียร์ว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะทำให้สหรัฐฯ ผ่านการฟื้นตัวจากโควิดและต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ยังต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐมีความมั่นคงและเป็นอิสระซึ่งพาวเวลล์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขายืนหยัดต่อสู้กับการแทรกแซงทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ และการทำเช่นนั้น เป็นผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์แบบและความน่าเชื่อถือ
         
ในทางกลับกันมีการมองกันว่า เบรนาร์ดเกี่ยวข้องกับการเมืองมากกว่า โดยเคยบริจาคเงินให้กับการหาเสียงเลือกตั้งของฮิลลารี คลินตันเมื่อปี 2559
         
ก่อนที่ไบเดนจะตัดสินใจเสนอชื่อพาวเวลล์ไม่กี่วัน สองวุฒิสมาชิกหัวก้าวหน้าสองคนของพรรคเดโมแครต คือ เชลดอน ไวต์เฮาส์ จาก โรดไอส์แลนด์ และเจฟฟ์ เมิร์กลีย์ จากโอเรกอน ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน คัดค้านการแต่งตั้งพาวเวลล์ใหม่ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ดำเนินนโยบายเพียงพอที่จะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ ซึ่งเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐกำลังให้ความสำคัญมากขึ้น นอกเหนือจากเรื่องเสถียรภาพทางการเงินและจุดยืนเรื่องระเบียบ
         
ก่อนหน้านั้น วุฒิสมาชิก อลิซเบธ วอร์เรน ก็เป็นวุฒิสมาชิกคนแรกที่ออกมาต่อต้านการแต่งตั้งพาวเวลล์ โดยเมื่อเดือนกันยายนเธอกล่าวว่า พาวเวลล์ เป็น "คนอันตราย" ที่จะเป็นผู้นำเฟด
         
เพราะเสียงคัดค้านพาวเวลล์ ภายในพรรค ไบเดนจึงได้เสนอชื่อ เบรนาร์ดเป็นรองประธานธนาคารกลางสหรัฐควบคู่กันไปด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ชั้นเชิงทางการเมืองที่ถือว่า "เก๋า" ไม่เบา เพราะน่าจะช่วยลดความไม่พอใจในพรรคเดโมแครตลงได้
         
เมื่อมองในแง่นโยบาย มีความเห็นส่วนใหญ่ว่า พาวเวลล์และ เบรนาร์ด มีแนวนโยบายไม่ต่างกันมาก ทั้งสองคนมีความอดทนต่อภาวะเงินเฟ้อที่สูงได้ โดยมีเป้าหมายที่จะปล่อยให้ตลาดงานมีเวลามากขึ้นในการเยียวยาการแพร่ระบาดของโควิด แต่ที่ต่างกันคือ เบรนาร์ดมีท่าทีที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับระเบียบธนาคาร และต้องการให้เฟดมีบทบาทในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศและยังเปิดกว้างต่อเงินคริปโท มากกว่าพาวเวลล์
         
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ ต้องการให้พาวเวลล์ทำหน้าที่ต่อมากกว่า เนื่องจากมองว่า ความท้าทายต่าง ๆ ที่เฟดและ เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเผชิญในขณะนี้ ต้องการ "ความต่อเนื่องทางนโยบาย" มากกว่าเรื่องอื่น
         
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่พาวเวลล์ได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสายกลางเท่านั้น เขายังเป็นที่เคารพนับถือในวอลล์สตรีต และนักลงทุนก็พอใจกับกลยุทธ์การสื่อสารของเขามาก
         
การเปลี่ยนไปเสนอชื่อเบรนาร์ด จะเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับกระบวนการแต่งตั้งในวุฒิสภา ซึ่งอาจทำให้ตลาดสั่นคลอน และจะเพิ่มความซับซ้อนในการสร้างความมั่นใจที่ยากอยู่แล้วให้กับนักลงทุนที่มีความกังวลเกี่ยวกับการยกเลิกนโยบายฉุกเฉินที่ได้ทำในช่วงโควิดระบาด
         
นักวิเคราะห์สรุปว่า ในที่สุดทำเนียบขาวก็มีตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด การเลือกพาวเวลล์ทำให้เกิดความต่อเนื่องของผู้นำซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดชอบ และยังทำให้ทำเนียบขาวได้รับชัยชนะในการรับรองในสภาได้อย่างรวดเร็วและไม่ยากนัก นอกจากนี้ การเลือกพาวเวลล์ทำให้ไบเดนสามารถส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อไบเดนมากเนื่องจากขณะนี้คะแนนนิยมกำลังตก
         
ในสมัยแรกของพาวเวลล์ นอกจากจะคาดการณ์เงินเฟ้อผิดแล้ว ยังถูกโจมตีเมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวทางจริยธรรมที่เจ้าหน้าที่หลายคนมีส่วนร่วมในการซื้อขายหุ้นในช่วงเวลาที่เฟดดำเนินการตามนโยบายอุดหนุนตลาด นอกจากนี้ พาวเวลล์ยังยอมรับว่า เขาถือพันธบัตรเทศบาล ซึ่งเฟดก็กำลังซื้อเช่นกัน และยังซื้อและขายกองทุนที่เชื่อมโยงกับดัชนีตลาดหุ้นด้วย
         
แต่โดยรวมแล้ว ผลงานในสมัยแรกของพาวเวลล์ถือว่าดีกับคอหุ้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 11% ต่อปี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในประธานเฟดจำนวน 16 คน นับตั้งแต่ปี 2457 ที่ทำให้ดาวโจนส์พุ่งแรง เทียบกับที่ดีดตัวเฉลี่ยต่อปี 8.5% ภายใต้การบริหารของประธานเฟดทั้งหมด
         
นักเศรษฐศาสตร์ให้เครดิตว่า พาวเวลล์ ตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางในการรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินและได้ระงับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว และการลดดอกเบี้ยให้ต่ำลงช่วยให้บริษัทและบุคคลทั่วไปกู้ยืมเงินเพื่อไปสร้างโรงงานใหม่ หรือ ซื้อบ้านหรือรถยนต์ได้ง่ายขึ้น
         
ไมค์ เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่เจพีมอร์แกน กล่าวว่า ภายใต้การบริหารของพาวเวลล์ เฟดได้ให้ความสำคัญกับการทำให้เศรษฐกิจมีการจ้างงานสูงสุดซึ่งเป็นเป้าหมายที่นักเศรษฐศาสตร์หัวก้าวหน้าสนับสนุนมายาวนานและน่าจะสอดคล้องกับเป้าหมายของไบเดน
         
มีการคาดการณ์หลังการเสนอชื่อพาวเวลล์ใหม่ว่า การลดโครงการซื้อพันธบัตรน่าจะเสร็จสิ้นเร็วขึ้น และเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นเช่นกัน โดยในขณะนี้คาดว่าเฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีหน้า และนั่นเป็นเหตุผลให้หุ้นปรับตัวลงในเวลาต่อมาหลังจากที่ดีดตัวตอบรับในตอนแรก
         
แต่นักลงทุนไม่ต้องตกใจ ข้อมูลในอดีตชี้ว่า หกเดือนแรกหลังจากเฟดได้ประธานคนใหม่ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยเกือบ 4% และเพิ่มขึ้นสองในสามของเวลานั้น ถ้าอดีตเป็นตัวชี้นำใดๆได้ หลังรับตำแหน่งในสมัยที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ตลาดหุ้นก็น่าจะยังไม่เสียแรงส่งมาก ถ้าสถานการณ์โควิดไม่กลับมาเลวร้ายอีกครั้ง

Source: ข่าวหุ้น

  รอ divergen รอบ2 อยู่น่ะ เอ่อ  จะตบ sell อีก ซัก 1 รอบ ผมยังคงรอต่อไป 

อ้างจาก: zamurai ที่ 25, พฤศจิกายน  2021, 10:15:03 AM
รอ divergen รอบ2 อยู่น่ะ เอ่อ  จะตบ sell อีก ซัก 1 รอบ ผมยังคงรอต่อไป 

สายแข็งมากครับ จะกี่รอบ ก็ตบ นะ

 

อ้างจาก: Gamezxii ที่ 25, พฤศจิกายน  2021, 10:41:48 AM

สวัสดีตอนเช้าครับผม

ผอ.องค์การอนามัยโลก เตือนคนฉีดวัคซีนโควิดแล้วต้องระวังตัวต่อเนื่อง ชี้ 'เดลตา' ลดประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันการแพร่เชื้อเหลือ 40% แนะยุโรปใช้มาตรการทางสังคมควบคุมโควิดที่กำลังระบาดหนัก

วันที่ 25 พ.ย. 2564 เว็บไซต์ Al Jazeera รายงานว่า นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) โดยย้ำถึงสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศ ก่อนจะระบุว่า มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะไม่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อโควิดอีกแล้ว จึงทำให้ไม่มีการป้องกันตัวใดๆ

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ช่วยรักษาชีวิตได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมยกข้อมูลว่า ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งกำลังเป็นสายพันธุ์หลักระบาดไปทั่วโลก วัคซีนมีความสามารถป้องกันการแพร่เชื้ออยู่ที่ 60% แต่เมื่อสายพันธุ์เดลตาระบาด ประสิทธิภาพวัคซีนต่อการป้องกันการแพร่เชื้อโควิดลดลงเหลือ 40%

ดังนั้นนายแพทย์ทีโดรสจึงเสนอว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วควรป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา เช่นการสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เนื่องจากในท้ายที่สุด ผู้ที่ฉีดวัคซีนยังมีความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

ขณะที่สถานการณ์ในยุโรป ซึ่งกำลังมีการระบาดรุนแรง เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งโลก มาจากชาติยุโรปถึง 60% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกชี้ว่า แต่ละประเทศควรต้องมีมาตรการทางสังคมเพื่อป้องกันโรคระบาด ก่อนจะย้ำว่ามาตรการดังกล่าว อาจไม่ได้หมายถึงการล็อกดาวน์ หลังในช่วงหลายวันมานี้เกิดกระแสต่อต้านมาตรการที่เข้มงวดในหลายประเทศยุโรป

ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่า จากสถานการณ์ตอนนี้ อาจทำให้ยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 700,000 รายภายในเดือนมี.ค. 2565 อีกทั้งยังประเมินว่า อาจมีถึง 49 ประเทศจาก 53 ประเทศในภูมิภาค ต้องประสบปัญหาด้านสาธารณสุขอย่างรุนแรง เตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย รวมถึงจะขาดแคลนเตียงในห้องไอซียูอย่างหนัก ในระหว่างนี้ไปจนถึงต้นเดือนมี.ค. ปีหน้า


ที่มา https://www.aljazeera.com/news/2021/11/24/vaccines-reduce-covid-transmission-by-40-who

กราฟที่ H4 เป็นขาลงเต็มตัว ตอนนี้กราฟมาวิ่งอยู่ในกรอบดีมานด์โซนของ TF Week อยู่นะครับ คาดว่าราคาน่าจะลงมาได้ไม่น่าจะเกิน 1.1167 หรืออาจจะมีแทงราคาหลุดลงมานิดหน่อย ก็น่าจะมีแรงซื้อดันราคากลับขึ้นไปอีกรอบได้ ประกอบกับสัญญาณจาก MACD ตอนนี้ก็เกิด divergence แล้วด้วยนะครับ ซึ่งหากกราฟดีดตัวขึ้นจริงๆตามที่คาดอาจจะขึ้นไปได้ถึงราคา 1.1367 หรือ 1.1460 ได้เลยครับ ก็ถือว่ามี RR ที่คุ้มที่จะเสี่ยงเปิด buy สวนเทรนด์อยู่ครับ