บทนำ

ตราสารทางการเงิน โดยเฉพาะ CFD นั้น มีความเสี่ยง การเข้าสู่โลกการเทรดโดยปราศจากความรู้และความเข้าใจที่เหมาะสมเกี่ยวกับกลไกของตลาดการเงินก็เหมือนกับการไปทำสงครามโดยปราศจากปืนใหญ่

เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในทุกระดับใช้เวลาเป็นจำนวนมากกับการวิเคราะห์ตลาดการเงิน การศึกษาด้วยตนเอง และวางแผนสำหรับขั้นต่อไป ความจริงที่โหดร้ายคือคุณไม่สามารถสร้างผลกำไรจากการเทรดได้ด้วยความเถรตรง ไม่มีวิธีที่ถูกต้องในการเทรด  สิ่งที่ดีที่สุดที่เทรดเดอร์มือใหม่ทำได้คือการวิจัย วิเคราะห์ และใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง


ทำความเข้าใจพื้นฐาน

มันอาจดูล่อตาล่อใจที่จะดิ่งลึกสู่โลกแห่งการเทรด แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีรากฐานที่มั่นคงก่อน การเข้าใจคำศัพท์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องและศัพท์แสงเป็นขั้นตอนที่หนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่เคยเทรดมาก่อน คำว่า 'pip', 'ล็อต' และ 'สเปรด' อาจฟังดูแปลกพิกล

บางทีวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์การเทรดต่างๆ ก็คือการอ่านอภิธานศัพท์ฟอเร็กซ์ เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ โลกแห่งการเทรดก็มีศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการอธิบายคู่เงิน สภาวะตลาด และตัวชี้วัด

เมื่อคุณคุ้นเคยกับภาษาการเงินและการเทรดมากขึ้นแล้ว คุณจะต้องครอบคลุมหัวข้อสำคัญอื่นๆ ก่อนที่จะเริ่มต้น เช่น: การเปิดบัญชี การวางคำสั่งเทรด การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ช่วงเวลาทำการซื้อขายของฟอเร็กซ์ เป็นต้น


ค้นหาแหล่งข้อมูล

แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเต็มไปด้วยหลักสูตรสอนฟอเร็กซ์ฟรี แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการด้านการศึกษาที่มีชื่อเสียงซึ่งนำเสนอเนื้อหาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน โดยปกติแล้ว หลักสูตรการเทรดจะดำเนินตามเวลาที่คุณต้องการและมีหลายรูปแบบ เช่น:

●   การสัมมนาสดผ่านเว็บ
●   e-Books
●   วิดีโอเพื่อการศึกษา
●    งานสัมมนา
●   การให้คำปรึกษา

การสัมมนาผ่านเว็บออนไลน์และวิดีโอเพื่อการศึกษานั้นจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษเนื่องจากมีการกระตุ้นทางสายตามากกว่าและมีแนวโน้มที่จะสร้างการจดจำได้ดีกว่า นอกจากนี้ การเรียนรู้โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ในสภาพแวดล้อมจริงยังช่วยให้คุณถามคำถามได้อย่างอิสระ ผู้สอนการเทรดส่วนใหญ่จะยินดีตอบคำถามหรือแม้กระทั่งเสนอที่จะให้คำปรึกษาแก่เทรดเดอร์มือใหม่ด้วย


เรียนรู้วิธีจัดการกับอารมณ์

แนวทางการเทรดอย่างมีวินัยสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการตัดสินใจและอคติตามอารมณ์ได้ องค์ประกอบที่สำคัญในการศึกษาฟอเร็กซ์คือการเข้าใจว่าอารมณ์ต่างๆ เช่น ความกลัว ความโลภ การเอาคืน และความมั่นใจที่มากเกินไปนั้นสามารถส่งผลต่อการดำเนินการของคุณได้อย่างไร

ข่าวสารขับเคลื่อนตลาดสามารถเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในพฤติกรรมการเทรดที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ได้ การจัดการกับอารมณ์เมื่อทำการเทรดเป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน ความอุตสาหะ และความพยายามอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีเวลาแค่เพียงเล็กน้อยในการตอบสนองอย่างถูกต้องต่อแรงกดดันและความผันผวน  แนวทางปฏิบัติทั่วไปในหมู่เทรดเดอร์คือการเขียนไดอารี่การเทรดที่พวกเขาสามารถจดบันทึกอารมณ์และวิเคราะห์ว่าความรู้สึกเหล่านี้ส่งผลต่อการเทรดของพวกเขาอย่างไร


สร้างกลยุทธ์

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น การสร้างแผนการเทรดที่มั่นคงจะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์ด้านลบและจะทำให้เกิดความสม่ำเสมอในการกระทำของคุณ องค์ประกอบที่สำคัญบางประการของกลยุทธ์การเทรดที่ครอบคลุม ได้แก่:

1.    กำหนดความเอนเอียงของทิศทาง: นี่หมายถึงการตัดสินใจในทิศทางของเทรนด์และกำหนดขั้นตอนต่อไปของคุณ เทรดเดอร์สามารถทำได้โดยคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นหรือลงและระบุทิศทางที่การตลาดกำลังมุ่งหน้าไป ความเอนเอียงของทิศทางทำได้ผ่านการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา การคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา และการระบุเงื่อนไขการกระตุ้นให้เกิดขึ้นที่ยืนยันความเอนเอียงในตลาดของคุณ อีกวิธีหนึ่งในการกำหนดความเอนเอียงของทิศทางคือการใช้ข้อมูลชี้วัดทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

2.    กำหนดจุดเข้า: การซื้อหรือขายคู่เงินจะเป็นตัวกำหนดจุดเริ่มต้นการเทรดของคุณเนื่องจากเป็นราคาที่คุณเข้าสู่การเทรด ในสถานการณ์ตามอุดมคติ ตลาดควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางของคุณเมื่อคุณเข้าเทรด แต่น่าเสียดายที่ตลาดนั้นไม่สามารถคาดเดาได้ หมายความว่าทิศทางของตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ เทรดเดอร์จะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นแนวโน้ม และข้อมูลชี้วัดอื่นๆ เพื่อช่วยในการกำหนดทั้งจุดเข้าและจุดออก

3.    กำหนดคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit: การกำหนดจำนวนเงินที่คุณยินดีจะสูญเสียและเมื่อใดควรหยุดเทรดเมื่อคุณทำกำไรได้เพียงพอแล้วนั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ ทั้งคำสั่ง SL และ TP จะยังคงทำงานอยู่แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ และจะปกป้องเงินทุนของคุณจากการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วในตลาด

4.       เลือกกรอบเวลาที่คุณต้องการ: เทรดเดอร์เลือกกรอบเวลาการเทรดที่ต้องการตามความชอบและสถานการณ์ส่วนบุคคล เทรดเดอร์ระยะสั้นมักจะใช้กรอบเวลาแบบรายชั่วโมงและจะถือครองการเทรดเป็นชั่วโมงหรือสองสามวัน ขณะที่เทรดเดอร์ระยะยาวจะอ้างอิงจากกราฟรายวันและรายสัปดาห์และถือครองการเทรดนานกว่านั้น เทรดเดอร์รายวันมีกำหนดการที่รวดเร็วกว่ามากและใช้กราฟแบบนาที โดยการเทรดจะมีการถือครองเป็นเวลาหนึ่งวันและออกจากตลาดก่อนที่ตลาดจะปิด

5.      สร้างกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง: การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในทุกกลยุทธ์การลงทุนที่มักถูกมองข้าม นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องรักษาอัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่ดีไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินทุนจำนวนมาก คุณสามารถลดความเสี่ยงได้โดยใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่ง Stop Loss ที่กล่าวไว้ข้างต้น

ก่อนที่จะดำเนินการเทรดจริง คุณควรทดสอบทักษะของคุณในบัญชีทดลองซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงที่เลียนแบบมาจากสภาวะตลาดจริง ที่ BDSwiss คุณสามารถเทรดได้ด้วยเงินเครดิตจำลอง $10,000 เมื่อคุณดำเนินขั้นตอนการสมัครเสร็จสมบูรณ์ บัญชีทดลองจะถูกสร้างขึ้นให้แก่ลูกค้าทุกรายโดยอัตโนมัติและสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ จากทางแดชบอร์ดของลูกค้า (Client Dashboard)


เลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและเริ่มต้นเทรด

ในการที่จะเริ่มต้นเทรด คุณต้องหาโบรกเกอร์สำหรับลูกค้ารายย่อยที่น่าเชื่อถือซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายและความต้องการในการเทรดของคุณ แม้จะไม่มีวิธีใดที่จะรับประกันได้ว่าการเทรดจะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่การเลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะช่วยให้ประสบการณ์ของคุณราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ที่ BDSwiss เรามี CFD มากกว่า 1,000 รายการทั้งในฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี พลังงาน โลหะมีค่า และ ETF รวมถึงแพลตฟอร์มเทรดที่หลากหลายซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ในระดับต่างๆ เราให้ความสำคัญกับการทำให้เทรดเดอร์ของเราได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตลาดการเงิน โดยที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของเราจะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก ข่าวสารอัปเดต การตั้งค่าทางเทคนิค วิดีโอบรีฟ และรายงานพิเศษอยู่เป็นประจำ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการที่เรานำเสนอ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา