รูปแบบ Harmonic Butterfly เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของรูปแบบ Harmonic XABCD ที่ได้รับความนิยม และรูปแบบวัดจากจุดเปลี่ยนราคาถึง 5 จุด หรือจะเรียกรูปแบบนี้เป็น XABCD  หลักการกำหนดรูปแบบของ XABCD ไม่ต่างกัน ต่างกันที่ Fibonacci Ratios (อาจเป็นส่วน Fibonacci Retracement หรือ Fibonacci Extension)  รูปแบบของ Butterfly นอกจากสัดส่วนการใช้ Fibonacci Ratios ในการวัดการเคลื่อนไหวแล้ว อีกสิ่งที่ต่างจากรูปแบบ Gartley คือจุด D จะเกินจุด X แต่ส่วน Gartley จุดจบของรูปแบบจะไม่เกินจุด X ดูภาพประกอบ


ดูภาพประกอบเทียบกันระหว่าง Butterfly และ Gartley กรอบเล็กๆ ทางซ้ายมือ ไม่นับ XABCD ที่ใช้ 5 จุดแล้วกำหนด 4 ขาสำหรับกำหนดรูปแบบ pattern แล้ว ดูรูปแบบคร่าวๆ จะไม่ต่างกันมากเท่าไร อย่างที่อธิบายก่อนนี้แล้วว่า Harmonic XABCD patterns รูปแบบต่างกัน ต่างชื่อเพราะสัดส่วน Fibonacci Ratios ที่ต่างกันออกไป แต่ที่เห็นชัดระหว่าง Butterfly และ Gartley คือ จุด X กับจุด D สำหรับ Butterfly จะสามารถเบรคพื้นที่จุด X ขึ้นมาได้ และ Retracement ของพื้นที่ XA สำหรับ Gartley เป็น 61.8% ส่วนของ Butterfly เป็น 78.6%  เงื่อนไขของการกำหนด Butterfly ดังต่อไปนี้ หรือบอกอีกนัยได้ว่า Butterfly คือ Gartley ที่โดนเบรค (Failed Gartley)

• XA หรือจากจุด X ไปยัง A กำหนดจากการขึ้นหรือลงแรงๆ ไปยังจุด A ส่วนนี้ถือว่าเป็นขาที่ยาวที่สุดของทุกขา หรือ impulsive move นั่นเอง
• AB หรือจากจุด A ไปยัง B – เป็นการเคลื่อนที่มีการกำหนด Fibonacci Retracement  ที่กำหนดจากจุด X ไปยัง A ของขาแรก การเคลื่อนของ AB ควรเป็น 76.8% ของ Retracement ของ XA [ตรงส่วนนี้ก็เป็นการใช้ Fibonacci Retracement เพื่อกำหนด Impulsive move หาจุดเข้า ก็จะกำหนดจากจุด X ไปยัง A] การย่อต้องไม่เกิน X ส่วน AB คือ Retracement ของ XA ตามสัดส่วน Fibonacci Retracement สำหรับรูปแบบนี้
• BC การเคลื่อนไหวต้องเป็น 38.2% สำหรับชุด A หรือ 88.6% สำหรับชุด B  สำหรับ Retracement ของ AB [ตรงส่วนนี้ใช้ Fibonacci Retracement]
• CD – การเคลื่อนไหวนี้ สามารถเป็น 161.8% Fibonacci Extension ของ BC สำหรับชุด A และสามารถเป็น 261.8% Fibonacci Extension ของ BC สำหรับชุด B

ดูภาพรวมของ A มาถึง D – หลังจากที่ราคาได้ทำรูปแบบ CD จบ จะเห็นว่ารูปแบบของ Butterfly จุด D สามารถเบรคพื้นที่ X หรือมี Fibonacci Extension สำหรับ XA อยู่ที่ราวๆ 127% ของการเคลื่อนไหว XA สำหรับชุด A และอยู่ที่ราวๆ 161.8% ของการเคลื่อนไหว XA สำหรับชุด B


อธิบายขั้นตอนการกำหนดรูปแบบ Bullish Butterfly ด้วยภาพประกอบด้านบนดังนี้ 

เลข 1 ที่เป็น XA leg เป็นการเริ่มต้นของรูปแบบ ต้องนำหน้าด้วย Impulsive เงื่อนไขแรกคือ ต้องกำหนด X ไปยัง A ที่เป็น Impulsive move ได้ก่อน

เลข 2 สำหรับกำหนดเงื่อนไข 1 - ถือว่าได้เงื่อนไขแรกเริ่มที่กรอบสี่เหลี่ยมแดง เมื่อ Retracement ของการเคลื่อนแรก XA ราวๆ 78.6% และไม่เกิน 88.6% แล้วสร้างจุด B ขึ้นมาได้ ให้ความสำคัญราคาปิดเป็นหลัก ค่อยถือว่าได้เงื่อนข้อที่ 1 แล้วไปที่เงื่อนไขข้อต่อไป

เลข 3 สำหรับกำหนดเงื่อนไข 2 - หลังจากที่ได้เงื่อนไขข้อที่ 1 ที่จบลงด้วยการสร้างจุด B ได้ด้วย หรือการเคลื่อนระหว่าง BC เงื่อนไข เมื่อราคาทำจุด C คืออย่างน้อย 38.2% ของการ Retracement ของขา AB และต้องไม่เกิน 50.0% ของการ Retracement ค่อยถือว่าเป็นเงื่อนไขจุด C ตรงนี้ได้ ให้ความสำคัญของราคาปิด เมื่อ C ได้เงื่อน ไข ค่อยถือว่าได้เงื่อนไขข้อที่ 2 แล้วค่อยไปเงื่อนไขข้อที่ 3

เลข 4 เป็นเงื่อนไขข้อสุดท้าย – เงื่อนไข 3 –  เมื่อได้เงื่อนไข 1 และ 2  ที่มีการใช้ Fibonacci Extension เข้ามาประกอบ จุด D เป็น 161.8% Fibonacci Extension ของ BC สำหรับชุด A และสามารถเป็น 261.8% Fibonacci Extension ของ BC สำหรับชุด B ที่สำคัญคือว่าจุด D ต้องเกินจุด X

เมื่อได้เงื่อนไข 1 2 และ 3 ถือว่าเป็น Harmonic Butterfly และก็รอสัญญาณการเปิดเทรดที่จุด D เมื่อเห็นรูปแบบ Price Action เข้ามาประกอบ ที่เริ่มบอกว่าราคาเริ่มโต้ตอบตามรูปแบบ ที่เป็นรูปที่ 5 การกำหนด stop loss ให้อิงสัญญาณจาก price action จะได้พื้นที่แคบ หรือเมื่อเกิดรูปแบบ Price Action reversal แล้วเปิดเทรด กำหนด Stop loss อิงพื้นที่ D ส่วนการกำหนด Take profit เบื้องต้นกำหนดจาก A-D ด้วยการใช้หลักการ Fibonacci Retracement ประกอบคือ TP 1 กำหนดราวๆ 38.2% ของ AD และ TP 2 กำหนด 61.8% ของ AD

ดูภาพชาร์ตจริงต่อไปนี้ แต่เป็น Bearish Butterfly รูปแบบและตรรกะประยุกต์ตรงข้ามจากขั้นตอนการกำหนดและเทรดที่แสดงไว้


หลักสำคัญของการเทรด Harmonic patterns คือเทรดพื้นที่ Potential Reverse Zone (PRZ) หรือเทรดการกลับตัวของราคาจากจุดที่เกิดรูปแบบ Harmonic Butterfly ก็เช่นกัน เมื่อกำหนดรูปแบบ Bearish Butterfly ได้อย่างภาพประกอบ USDCAD D1  รูปแบบเงื่อนไขการเทรดจะมีความเป็นไปได้ดีกว่านี้ ถ้าเราเห็นว่ามี Resistance ตรงที่จบพื้นที่ D ด้วยตามภาพประกอบ แต่รูปแบบของ Harmonic patterns เมื่อวิเคราะห์จะเห็นว่าประกอบด้วยข้อมูลที่บอกแนวรับ-แนวต้านอยู่แล้ว การเปิดเทรดที่จุด D หรือ PRZ เน้นเห็นรูปแบบ Reversal ของ Price Action เช่น Pin bar, Engulfing Bar เป็นต้น แล้วค่อยเปิดเทรด เพราะว่ารูปแบบ PA ที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่าราคาจะสวนเทรนตามเงื่อนไขของ Butterfly ตรงไหน ของพื้นที่ D และยังให้เรากำหนดพื้นที่สำหรับ Stop loss ได้แคบและชัดเจนด้วย การเปิดเทรดคือเมื่อราคาได้เกิดเงื่อนไข D ก่อน เพราะว่าข้อผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งของการเทรด Pattern คือรูปแบบยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่เปิดเทรดก่อน

การเปิด Sell 1 เป็นการเปิดตามเงื่อนไข เมื่อจบ D และเห็น Price Action ยืนยันเปิดเทรด ดูว่าพอเรากำหนดพื้นที่ Price Action ได้ เรากำหนด stop loss ได้ชัดเจนด้วย ส่วนการกำหนด Take profit เบื้องต้นกำหนดจาก A-D ด้วยการใช้หลักการ Fibonacci Retracement ประกอบคือ TP 1 กำหนดราวๆ 38.2% ของ AD และ TP 2 กำหนด 61.8% ของ AD