กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

Harmonic patterns – หลักการเบื้องต้น

  • 0 replies
  • 1,437 views
Harmonic patterns – หลักการเบื้องต้น
« เมื่อ: 30, สิงหาคม 2021, 02:03:24 PM »
Harmonic patterns – หลักการเบื้องต้น

เมื่อท่านผ่านการเทรดมาสักระยะ น่าจะคุ้นเคยกับการเทรดแบบ Chart patterns ที่คุ้ยเคยกันดี เช่น Double Tops, Double Bottoms หรือ Head and Shoulders เป็นต้น มีอีกรูปแบบที่ถือว่ามีความแม่นสูงเมื่อท่านกำหนดได้ว่าเป็น  Harmonic patterns แต่รูปแบบชาร์ตแบบนี้จะซ้บช้อนหน่อยเพราะว่ามีส่วนประกอบจุดกลับตัวหลายอย่างมากกว่าในการกำหนด โดยจะอิงหลักการ Fibonacci Retracement และ Extension เป็นหลักในการกำหนดรูปแบบ เพื่อหาสัญญาณเข้าเทรดและออกเทรด

Harmonic patterns ถือว่าเป็นรูปแบบเฉพาะ chart patterns ที่ใช้งานด้าน Technical analysis เพื่อช่วยให้เข้าใจ price action และคาดการณ์ว่าราคาจะไปทางไหนต่อ โดยทั่วไปแล้วการเทรดด้วย Chart patterns เป็นรูปแบบการเทรดที่ถือว่าง่าย เมื่อสแกนหาหรืออ่านรูปแบบที่เกิดขึ้นที่เราต้องการเทรดออก เดี๋ยวนี้การสแกนหารูปแบบไม่ยากเหมือนแต่ก่อนเพราะว่าโปรแกรมเทรดต่างๆ มีให้ทูล หรือมีเทรดเดอร์พัฒนาทูลขึ้นมาเพื่อทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นปัจจุบัน ความยากของการเทรด harmonic patterns ไม่ใช่การหารูปแบบ แต่เป็นการทำความเข้าใจ และตีความจากทูลที่สแกนหารูปแบบต่างๆ ว่ามีความเป็นไปได้สูงตามเงื่อนไขของการเทรดแต่ละแบบหรือไม่  แล้วค่อยเปิดเทรด

ส่วนประกอบของ Harmonic patterns


โดยทั่วไป หลักการกำหนดรูปแบบ Harmonic patterns อิงจาก 5 จุดเปลี่ยนแปลงราคาที่เกิดขึ้น (5 turning points) รูปแบบการเคลื่อนไหวและใช้สัดส่วนของ Fibonacci ประกอบจุดต่างกันออกไป แล้วแต่ประเภทรูปแบบของ Harmonic patterns  จุด 5 จุดกลับตัวพวกนี้ จะกำหนดชื่อเป็น X A B C D สำหรับกำหนดรูปแบบของ Harmonic pattern และแต่ละรูปแบบก็จะมีเงื่อนไขกำหนดสำหรับแต่ละรูปแบบต่างกันออกไป  จุด 5 จุดจาก XABCD จะช่วยให้เรากำหนดส่วนขา (legs) เพื่อทำให้เกิดรูปแบบต่างๆ ของ Harmonic patterns ขาทั้ง 4 ขาคือ XA (กำหนดด้วยการลากจกจุด X ไปยัง A), AB (กำหนดด้วยการลากจกจุด A ไปยัง B), BC (กำหนดด้วยการลากจากจุด B ไปยัง C) และ CD (กำหนดด้วยการลากจากจุด C ไปยัง D) เนื่องจากจุดทั้ง 5 จุด XABCD จะเป็นจุดสำคัญ High หรือ Low ของราคา ดังนั้น ส่วนที่เป็นขาทั้ง 4 (XA, AB, BC, CD) บอกถึงเทรนหรือการเคลื่อนที่ตรงกันข้ามกัน

การเทรด Harmonic patterns เน้นไปที่พื้นที่ PRZ หรือ Potential Reverse Zone หรือสำหรับเทรดการกลับตัว ดังนั้นการเทรดของรูปแบบของ Harmonic จำเป็นต้องการให้รูปแบบเกิดขึ้นก่อนแล้วเห็น price action เกิดขึ้นที่จุด PRZ ค่อยเปิดเทรด และความผิดพลาดส่วนใหญ่ของการเทรดจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเปิดเทรดก่อนรูปแบบ Harmonic เกิดขึ้นจริงก่อน

จากภาพประกอบด้านบน ดูเปรียบเทียบกันระหว่างทางด้านซ้ายจะเป็นรูปแบบ chart pattern คือ Double Tops และ Head and Shoulders ที่จะดูจากรูปแบบของ Market structure เป็นหลัก ว่าได้รูปแบบตามที่เงื่อนไขกำหนดหรือเปล่า แต่พอมาทางด้านขวามือ นอกจากดู Market structure เพื่อกำหนดประเภทแล้ว ยังลงรายละเอียดลงไปต่ละจุดด้วยการใช้ Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension มาประกอบกัน และส่วนประกอบที่เป็นจุดเปลี่ยนของราคา ประกอบด้วย 5 จุด ดังนั้นด้วยการกรองถึง 5 จุด และใช้หลักการของ Fibonacci มาประกอบ เลยทำให้รูปแบบของ Harmonic pattern เป็น Objective มาก เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นค่อยยืนยันรูป


เช่น สำหรับชุด XABCD นี้คือ ขาทั้ง 4 จาก 5 จุดเปลี่ยนแปลงราคา High/Low ที่นำมาประกอบหา Harmonic pattern  ที่ใช้หลักการ Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension มาประกอบในการกำหนดรูปแบบ ค่า Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension ที่ต่างกัน ก็จะทำให้เกิดรูปแบบต่างกัน หลักการเบื้องต้นเป็นแบบต่อไปนี้

ส่วนขา AB จะเป็น Fibonacci Retracement ของ XA, BC จะเป็น Fibonacci Retracement ของ AB, CD จะเป็น Fibonacci Extension ของ BC และ จุด D ต้องสัมพันธ์กับ X ด้วย ค่าการกำหนด Retracement และ Extension ของแต่ละขา คือส่วนที่ทำให้เกิดรูปแบบ Harmonic patterns ต่างกัน เช่นเป็นสำหรับชุด XABCD คือ ABCD, Gartley, Crab, Bat, Butterfly เป็นต้น รูปแบบที่ถือว่าง่ายสุดของ Harmonic Patterns คือ AB=CD และ Three-Drive เพราะไม่ต้องใช่ถึง 5 จุดกลับตัวเพื่อกำหนดรูปแบบ

Fibonacci Retracement และ Extension กับ Harmonic patterns

Harmonic patterns จะใช้หลักการ Fibonacci เป็นตัวสำคัญในการกำหนดการเคลื่อนของแต่ละขา ค่าที่ต่างกันออกไป จะทำให้เกิดรูปแบบที่ต่างกันออกไป จะเกี่ยวกับหลักการ Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension เพราะช่วยกำหนดพื้นที่แบบอัตโนมัติจากจุด Highs/Lows สำคัญๆ ที่เป็นส่วนปนะกอบของ Harmonic เพื่อระบุรูปแบบที่จะเกิดขึ้น การที่จะเข้าใจและหารุปแบบ Harmonic จำเป็นต้องเข้าใจ Fibonacci ทั้ง 2 ตัวนี้ว่าทำงานและสำคัญอย่างไร



ดู 2 ภาพนี้ ภาพด้านบน ดูการใช้งาน Fibonacci Retracement และ Extension หลักการเทรด Retracement คือการเทรดตามเทรนที่เกิดขึ้น ดังนั้น ส่วนสำคัญก่อนที่จะเทรดได้ ต้องกำหนดเทรนที่แข็งพอ ในที่นี้ก็จะเป็น Impulsive move ตรงที่เลข 1 แล้วมาเลข 2 คือ High ที่เด่นชัด แล้วตามด้วย Low ที่มีการเบรคลงมาทำ New Low ดูการเคลื่อนที่เกิด มีแต่แท่งเทียน Bearish เป็นหลัก และยังเอาชนะ Support ได้ด้วยเลยกำหนดเป็น Impulsive move ได้ ดังนั้น Impulsive move จึงเป็นส่วนสำคัญของการใช้ Fibonacci Retracement แล้วท่านก็ลาก Fibo Retracement จากจุด High ที่เลข 1 ลงมาจุด Low ที่เลข 2 ก็จะได้ค่า Retracement ที่เป็นค่า defaults คือ 23.6, 38.2, 50.0, 61.8 จนถึง 100.0 เพื่อหาจุดเข้าเทรด

ส่วน Fibonacci Extension เป็นการหาพื้นที่ปิดกำไรจากจุดที่ท่านเปิดเทรด นั่นหมายความว่าท่านต้องได้เปิดเทรดก่อน เช่นอย่างภาพประกอบ ราคาไปจบการย่อตัว Retracement ที่ระดับ 61.8 แล้วเห็น Price Action เกิดการเด้งออกมาเป็นสัญญาณเปิดเทรด นี่คือจุดเปิดเทรดสำหรับกำหนด Extension ดังนั้นการกำหนด Fibonacci Extension จะประกอบด้วย 3 จุดคือ เลข 1 2 และ 3 คือมีการกำหนดเลข 3 คือจุดจบของ Retracement เข้าไปได้ แล้วค่อยหาระดับการทำกำไรด้วย Extension level ตามภาพประกอบ

ภาพด้านล่าง เป็นการมองด้วย Harmonic patterns ว่า Bearish Cypher แบบคร่าวๆ ได้ พอเห็นภาพและหลักการคือ XA เป็น Bearish move, AB การย่อตัวหรือ Retracement อาจเป็น 38.2 หรือ 61.8 ของ XA,  BC มีค่า Fibonacci Extension ที่ 113.0 หรือ 141.4 ของ AB และ จุด D เป็นจุด Fibonacci Retracement ของ XA ที่ราวๆ 78.6 หรือไม่เกิน X ภาพครวๆ ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้

หลักการเทรด Harmonic patterns

ขั้นตอนการเทรด มีขั้นตอนดังนี้ ข้อ 1 หาว่ารูปแบบ Harmonic patterns ไหนที่เกิดขึ้น,  ข้อ 2 วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของรูปแบบ และข้อ 3 เปิดเทรดเมื่อรูปแบบ Harmonic เกิดขึ้นก่อน ยิ่งถ้าใช้ทูลอื่นมาประกอบ เช่น หลักการแนวรับ-แนวต้าน, price action หรือรูปแบบแท่งเทียน เช่น Pin Bar และ Engulfing Bar ประกอบด้วยยิ่งดี