กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

ผลิตภัณฑ์สำหรับการเทรดตามเทรนด์ที่ควรจับตามอง

  • 0 replies
  • 573 views

การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคยในช่วงที่ไม่มีความแน่นอนเช่นนี้ แม้โลกจะยังต้องต่อสู้กับโรคระบาด แต่ตลาดการเงินก็ต้องหวังพึ่งนโยบายการเงินและการคลังของรัฐบาลที่มุ่งลดผลกระทบจากวิกฤตนี้ การกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อาจช่วยให้เทรดเดอร์จัดการกับความเสี่ยง และลดผลกระทบจากความผันผวนในการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่มีต่อผลลัพธ์การเทรดโดยรวม

อย่างไรก็ตาม การกระจายการลงทุนที่มากเกินไปก็เป็นสูตรสำเร็จของความหายนะเช่นกัน คุณต้องเลือกสินทรัพย์ตามโปรไฟล์ความเสี่ยง, ทุนในการเทรด, กลยุทธ์, ความรู้ และสภาวะตลาดในปัจจุบัน

BDSwiss มีคู่ฟอเร็กซ์และ CFD มากกว่า 250 รายการทั้งในหุ้น, โลหะมีค่า, ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ให้เลือกเทรด ลองมาพิจารณาสินทรัพย์ติดเทรนด์บางส่วนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกัน

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD)

ตลาดฟอเร็กซ์ให้โอกาสในการเทรดมากมายอันเป็นผลมาจากพัฒนาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายของธนาคารกลาง และการรับมือกับโรคระบาดของรัฐบาลต่างๆ ปัจจุบันสินทรัพย์หนึ่งที่น่าจับตามองคือเงินยูโร ซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

เนื่องจากเฟดของสหรัฐได้ใช้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2020 เงินดอลลาร์ขาลงจึงทำให้มูลค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้น ในเดือนธันวาคม 2020 ค่าเงินยูโรปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยมีการเทรดกันอยู่ที่ $1.2177 สิ่งนี้กระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการปรับขึ้นครั้งนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อต่ำในทวีปยุโรป

นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอีกเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ไบเดนนำมาใช้ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดสหรัฐ การฟื้นตัวทั่วโลกยังอาจช่วยผลักดันให้เทรดเดอร์ทิ้งเงินดอลลาร์ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยไปหาสกุลเงินอื่นๆ เช่นยูโร ณ วันที่ 28 เมษายน 2021 คู่ EUR/USD ลอยอยู่แถวระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเนื่องมาจากสัญญาณของการเร่งฉีดวัคซีนในยุโรป

ผู้เทรดยูโรต้องระวังปัจจัยในอนาคตบางอย่างด้วย เช่น:

●   การเปิดตัววัคซีนของยุโรปและความสำเร็จ
●   การเติบโตของ GDP ของยูโรโซนในไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2021
●   นโยบายการเงินของเฟดสหรัฐและความสอดคล้องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา

คู่เงินยูโรอื่นๆ ที่อาจให้โอกาสในการเทรดอีกมากมาย ได้แก่:

●   EUR/GBP: ความตึงเครียดที่จางหายไปในด้านของ Brexit และข้อตกลงการค้าระหว่างยุโรปและสหราชอาณาจักรส่งผลดีต่อเงินปอนด์สเตอร์ลิง และจากการที่ GBP มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นจากกระแสพอร์ตโฟลิโอหมุนเวียยนที่แข็งแกร่ง คู่ EUR/GBP จึงเป็นคู่ที่น่าจับตามอง

●   EUR/AUD: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลียนั้นดีกว่าของทางฝั่งสหภาพยุโรป และธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังมีพื้นที่ในการปรับนโยบายมากกว่า ECB นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลกอาจนำไปสู่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสกุลเงินที่มีรายได้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการส่งออกสินค้าอย่างเช่น AUD

หุ้นเทคโนโลยีตัวเด่นๆ ที่ควรพิจารณา

หุ้นเทคโนโลยีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2020 เนื่องจากการล็อคดาวน์ที่เกิดจากโรคระบาดครั้งใหญ่นำไปสู่การรุกในตลาดบริการด้านเทคโนโลยีที่มากขึ้น ในระยะยาว นักวิเคราะห์แนะนำให้มองหาบริษัทที่จะยังคงมีความเกี่ยวข้องต่อไปในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจในวงกว้างเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชื่อเทคโนโลยีบางส่วนที่เราคิดว่าน่าจะทำได้ดีในแง่ของผลประกอบการคือ:

●   Facebook Inc.: แพลตฟอร์มนี้ยังคงเชื่อมโยงเพื่อนและครอบครัวทั่วโลกเข้าหากัน ยิ่งกว่านั้น โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ได้รับประโยชน์มากอย่างมหาศาลจากการจ่ายค่าโฆษณา ซึ่งมีส่วนทำให้เติบโตในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และบริษัทก็เพิ่งเปิดตัวอีคอมเมิร์ซใหม่ที่ดูเป็นแนวโน้มที่ดี
●   Apple Inc.: ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยียังคงเป็นชื่อที่คุ้นหูที่ได้รับความนิยมและยังคงดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้ประกาศแผนการที่จะลงทุน 4.30 แสนล้านดอลลาร์ในการลงทุนของสหรัฐในช่วงระยะเวลาห้าปี
●    Amazon.com Inc: ในมุมมองของเรา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้เติบโตท่ามกลางการระบาดครั้งใหญ่และจะยังคงเป็นแบรนด์ทรงคุณค่าต่อไปในอนาคต

บริษัทอื่นๆ ที่ควรค่าแก่การพิจารณา ได้แก่ Microsoft Corp. และ Alphabet Inc. เมื่อรวมกันแล้ว หุ้นทั้ง 5 ตัวนี้คิดเป็น 22% ของมูลค่าตลาด S&P 500 หุ้นเทคมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่านักลงทุนควรระมัดระวังเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง เช่น:

●   การประเมินมูลค่าที่สูงขึ้น
●   เคสผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายส่วนของโลก เช่น อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดหลักของบางบริษัทเหล่านี้
●   ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

หุ้นอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน

ด้วยมนต์คาถา "Build Back Better" ใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอเมื่อเร็วๆ นี้ หุ้นโครงสร้างพื้นฐานจึงมีเหตุผลที่ดีที่จะเติบโต หุ้นบางตัวที่น่าจับตามองได้แก่:

●   3M Co.
●   Caterpillar Inc.

หุ้นการเงิน

ด้วยระดับการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่สูงเป็นประวัติการณ์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น ความกลัวเรื่องเงินเฟ้อจึงเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเฟดของสหรัฐตั้งใจจะเพิกเฉยต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่ธนาคารกลางอื่นๆ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลดีต่อหุ้นการเงิน ซึ่งจะสร้างโอกาสในการขยายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ที่นี่คุณสามารถย้ายไปยังตลาดอื่นๆ ได้เช่น สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป

●   HSBC Holdings PLC
●   Barclays PLC
●   Deutsche Bank AG

สินค้าโภคภัณฑ์อาจเป็นตัวเลือกในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

ด้วยการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะมีเพิ่มขึ้น เทรดเดอร์อาจพบว่าสกุลเงินไม่น่าสนใจเนื่องจากกำลังซื้อลดลง ซึ่งอาจทำให้พวกเขาหันไปหาสินทรัพย์ที่มีตัวตนเช่นสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากน้ำมันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ เป็นเชื้อเพลิงให้กับกิจกรรมการผลิตและการขนส่ง ในทางกลับกัน ทองคำถือเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกำลังการซื้อเงินดอลลาร์ที่ลดลง ตามข้อมูลของ Goldman Sachs ทองคำอาจแตะระดับราคา $2,300 ต่อออนซ์ในปี 2021 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น เทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

คริปโตเคอเรนซี่เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

ขณะที่ทองคำได้รับการยกย่องว่าเป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อ Bitcoin ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นทองคำดิจิตอล ในปี 2020 นั้นทำได้ดีกว่าทองคำถึง 10 เท่าเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุนสถาบันที่สร้างพอร์ตคริปโตเคอเรนซี่ขึ้นมาเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ เช่น Ether เติบโตขึ้น 200% YTD ในปี 2021 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในเครือข่ายไปสู่โปรโตคอล 2.0 ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้รับกำไรเช่นกัน

โดยทั่วไปแล้วคริปโตเคอเรนซี่จะมีความผันผวนมากกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม และเทรดเดอร์จำเป็นต้องพิจารณาถึงความผันผวนของตลาดที่สูงขึ้นนี้ก่อนที่จะเข้าทำการเทรด BDSwiss มีหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดที่มีประสิทธิภาพที่สุดและแอปมือถือสำหรับการเทรดที่เป็นเอกลักษณ์และใช้งานง่ายเพื่อช่วยเทรดเดอร์ในการติดตามตลาดและพัฒนากลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพได้ในทุกที่ คุณสามารถเทรด CFD คู่คริปโตและสินทรัพย์อื่นๆ ได้มากกว่า 20 รายการเพื่อให้กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของคุณสมบูรณ์แบบ

ข้อปฏิเสธการรับผิด: เนื้อหาในบทความฉบับนี้ไม่ควรถูกตีความใดๆ ทั้งอย่างชัดแจ้งหรือโดยปริยาย โดยตรงหรือโดยอ้อม ว่ามีคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะหรือการแนะนำในกลยุทธ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตราสารทางการเงิน ไม่ว่าในลักษณะใดก็ตาม มุมมองหรือความคิดเห็นที่มีอยู่ในอีเมลฉบับนี้เป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียวและไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนของบริษัท เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ข้อบ่งชี้ใดๆ ของผลงานที่ผ่านมาหรือผลงานที่จำลองขึ้นในอดีตที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ถึงผลลัพธ์ในอนาคต

ที่มา:

●   Reuters - ECB to monitor euro appreciation 'very carefully': Lagarde
●   Trading Economics - Euro Dollar Exchange Rate - EUR/USD
●   Pound Sterling Live - The Day's of Easy Gains for the Pound Have Passed says Bank of America
●   Markets Insider - Gold will soar 22% next year as investors protect against rising inflation, Goldman Sachs says
●   The Independent - Cryptocurrency could be in the midst of the third great price rally in its history, market analysts predict
●   Coinmarketcap - Ethereum