ความเคลื่อนไหวค่าเงิน USD ย้อนหลัง – จากเหตุการณ์การเลือกตั้งและสงครามตั้งแต่ ค.ศ. 1999 ซึ่งเป็นปีริเริ่มการค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลปัจจัยพื้นฐานและข้อมูลเชิงเทคนิคได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ตนั่นเอง พูดถึงปัจจัยพื้นฐานแล้ว ลองมาย้อนดูกันดีกว่าว่าเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทางการเมืองส่งผลอย่างไรต่อค่าเงินดอลลาร์ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
กราฟตัวอย่างที่ 1 – EURUSD ในกราฟรายเดือน
เหตุการณ์การเลือกตั้งการเลือกตั้งสหรัฐเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากที่สุด เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศมหาอำนาจในการเปลี่ยนทิศทางสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้สกุลเงิน USD กลายเป็น Safe haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า: นักลงทุนจะวิเคราะห์ค่าเงินดอลลาร์จากปัจจัยพื้นฐานนี้อย่างไร?
เส้นแนวตั้งสีแดงในกราฟตัวอย่างที่ 1 บ่งบอกจังหวะที่มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของผู้นำสหรัฐในแต่ละพรรคการเมืองซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน สังเกตจากตารางที่ 1 ด้านล่าง จะเห็นได้ว่าเมื่อผู้นำจากพรรคเดโมแครตยุติการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ก็จะทำให้คู่เงิน EURUSD อยู่ในสภาวะขาลง และส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจากกราฟตัวอย่างที่ 2 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดมูลค่าของเงิน USD เทียบกับกลุ่มสกุลเงินในตะกร้าเงิน (Basket of Currencies) อีก 6 รายการ ซึ่งได้แก่ เงินยูโร (EUR), เงินฟรังก์สวิส (CHF), เงินเยนญี่ปุ่น (JPY), เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินโครนาสวีเดน (SEK) ซึ่งกลุ่มสกุลเงินในตะกร้าเงินนี้ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจมุมมองของค่าเงิน US ดอลลาร์ที่ส่งผลต่อสกุลเงินอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาคู่เงิน EURUSD จะมีความสัมพันธ์แบบสวนทางกัน เนื่องจากเงินยูโรนั้นเป็นสกุลเงินของกลุ่มประเทศยุโรปนั่นเองครับ ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของค่าเงินได้
ที่นี่ตารางที่ 1 – การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ในสหรัฐตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา
กราฟตัวอย่างที่ 2 – US Dollar Index & EURUSD ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ และคู่เงิน EURUSD
เหตุการณ์สงครามสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีจุดยืนแข็งแกร่งในการรับมือและรักษาความปลอดภัยระดับโลกจากการก่อการร้าย ซึ่งนั่นหมายความว่าสหรัฐพร้อมที่จะปะทะในสงครามต่างๆ ได้ทุกเมื่อ เห็นได้จากการเข้าร่วมสงครามต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" ของสหรัฐนั่นเอง:
- 2001 - อัฟกานิสถาน
- 2003 - อิรัก
- 2011 - ลิเบีย
- 2015 - ซีเรีย
จากกราฟตัวอย่างที่ 1 จะสังเกตได้ว่าสงครามอัฟกานิสถานและอิรักทำให้ดัชนีค่าเงิน USD อยู่ในสภาวะขาลง และคู่เงิน EURUSD อยู่ในขาขึ้น เนื่องจากสงครามอัฟกานิสถานทำให้คู่เงินดังกล่าวปรับตัวขึ้นจากราคา Low ก่อนหน้า (เส้นแนวตั้งสีเหลืองเส้นแรก) ตามมาด้วยสงครามอิรักที่ทำให้ค่าเงิน EUR พุ่งขึ้นไปทำราคาสูงสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ดำรงตำแหน่งในฐานะหัวหน้าพรรครีพับลิกัน
ในขณะเดียวกัน ถึงแม้สงครามซีเรียและลิเบียจะส่งผลให้ EURUSD ปรับตัวขึ้นในช่วงแรก แต่จู่ๆ ราคาก็มีการกลับตัวลงในระยะยาวเลยทีเดียว เป็นผลมาจากการที่พรรคเดโมแครต (โดยมีบารัค โอบามาเป็นหัวหน้าพรรค ณ ขณะนั้น) กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง ในขณะที่ช่วงที่ดอนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐนั้นไม่มีสงครามเกิดขึ้นเลยในช่วง 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง
สรุปคือ สงครามมักจะส่งผลลบต่อค่าเงิน USD แต่ทั้งนี้ผลกระทบก็อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าพรรคใดกำลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงเวลาดังกล่าว
สิ่งที่คาดการณ์ได้แน่นอนว่าเมื่อผลการเลือกตั้งสหรัฐออกมาว่าพรรคใหม่จะมาดำรงตำแหน่งแทนพรรคเดิม ก็จะส่งผลต่อราคาดังในตัวอย่างด้านบน รวมถึงสงครามต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน โดยในปีที่ผ่าน จากการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีคนล่าสุดอย่างโจ ไบเดน เราอาจได้เห็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่งไปเรื่อยๆ ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า และอาจจะยังแข็งแกร่งต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งครั้งถัดไปในปี 2024
นักลงทุนที่เตรียมตัวพร้อมอยู่เสมอมักไม่พลาดคว้าโอกาสทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางราคาก่อนล่วงหน้า คราวนี้โอกาสเป็นของท่านแล้ว! เริ่มเปิดบัญชีกับ MTrading เพื่อติดตามเนื้อหาการเรียนรู้การเทรด ข้อมูลตลาดแบบ Insight และบทวิเคราะห์รายวัน
เพลิดเพลินกับสเปรดที่แคบลง และเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดในตลาดจากบัญชี
M.Pro ตัวใหม่ของเรา! ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้
ที่นี่บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนขอให้ท่านโชคดีกับการเทรดนะคะ!