กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

วิเคราะห์กราฟด้วย Price Action เพื่อเทรดทอง

  • 0 replies
  • 988 views
วิเคราะห์กราฟด้วย Price Action เพื่อเทรดทอง
« เมื่อ: 11, กุมภาพันธ์ 2021, 08:04:25 AM »
วิเคราะห์กราฟด้วย Price Action เพื่อเทรดทอง

การวิเคราะห์ด้วย Price Action เป็นการวิเคราะห์การเคลื่อนของราคาบนชาร์ตเปล่าด้วยแท่งเทียน เพื่อหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจากข้อมูลที่เกิดขึ้นมาแล้ว  การวิเคราะห์ด้วย Price Action ช่วยให้เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องตามที่ราคาบอกว่า อะไรเกิดขึ้นอย่างที่ราคาบอก (objective analysis)  บทความนี้ ต่อเนื่องจากบทความเรื่องการศึกษาแท่งเทียนเพื่ออ่าน Price Action

การวิเคราะห์ Price Action คืออะไร

Price Action คือการเคลื่อนที่เกิดขึ้นบนชาร์ต การเคลื่อนพวกนี้ตีความด้วยแท่งเทียนเป็นหลัก ดังนั้นการวิเคราะห์  Price Action คือการวิเคราะห์การเคลื่อนของราคาที่เกิดขึ้นที่ชาร์ต ว่าอะไรเกิดขึ้น หรือว่าตลาดกำลังบอกอะไรผ่านการเคลื่อนที่เกิดขึ้น แท่งเทียนหรือ Candlestick และลักษณะแต่ละแท่งเทียนช่วยให้อ่านการเคลื่อนแต่ละช่วงเวลาได้ละเอียดว่า Sellers/Buyers กำลังทำอะไร และผลออกมาเป็นอย่างไร อ่านต่อเนื่องกันก็บอกเรื่องราวของตลาด ซึ่งกลายมาเป็น Market Structure ที่เกิดขึ้น

Price Action ด้วยแท่งเทียนต่อเนื่องกัน


การอ่านแท่งเทียนต่อเนื่องกันบอกถึงเรื่องราวว่าตลาดกำลังบอกอะไร เช่นอย่างรูปแบบ Price Action ที่นิยมกัน เช่น Pin Bar หรือ Engulfing Bar เป็นตัวอย่างแรกที่อ่าน Price Action ที่บอกถึงการ Rejection ด้วยการเปรียบเทียบแท่งเทียนก่อนนี้  ถ้าเปรีบเทียบมากขึ้นเรื่อยๆ ก็บอกถึง Market Structure ว่าเป็นอย่างไร หรือถ้าใช้หลักการเดียวกันที่อ่านเป็น Market Structure ยังช่วยให้เราอ่าน Chart pattern ต่างๆ ได้ด้วย

มาดูว่าเราใช้แท่งเทียนอ่าน Price Action อย่างไร ดูที่เลข 1 ลูกศรชี้แท่งเทียนยาวๆ ที่สามารถปิดบนหลายแท่งเทียนก่อนนี้ได้ หรือถือว่าเป็น Resistance ดูว่าทำไมราคาถึงเบรคแท่งเทียนนี้ได้ ดูราคาทำเทรนลงมา ถึงพื้นที่เลข 1 ราคาทำ Lower Low ได้แล้วเด้งขึ้นไปทำ Lower High ตามภาพประกอบ ส่วน Lower High เป็น High หรือ Resistance ที่ใกล้สุด  ราคาลงไปอีกรอบ ดูแท่งเทียนราคาลงไปอีกรอบได้ แต่แค่แท่งเทียนเดียวแถมมีหางด้วยบอกว่ามี Demand เข้ามา ดูอีก 3 แท่งเทียนต่อมาเห็นชัดว่ามี Demand เพราะราคาไม่สามารถลงไปได้ ขณะเดียวกันก็แทงหางมาถึงพื้นที่ที่เป็น Resistance ที่ใกล้สุดด้วย ยังบอกว่า Supply ที่มาจากฝ่ายทาง Sellers ตรงนี้ไม่มากพอเหมือน swing high/low ก่อนนี้ ที่ดันลงมาด้วยแท่งเทียนแรงๆ หรือ Momentum ได้ แต่ตรงนี้ ไม่เห็นแท่งเทียน Momentum แท่งเทียนบอกถึง Price Action ที่เกิดขึ้นตรงนี้ว่า เทรนลง อ่อนอย่างเห็นไปชัด พอแท่งเทียนที่เบรค Resistance ขึ้นมา แท่งเทียนแรก Momentum มากพอ และที่สำคัญปิดเหนือกว่า Resistance ได้เป็นครั้งแรกด้วย บอกว่าฝ่าย Buyers มาคุม หรือเอาชนะ Sellers พื้นที่นี้ได้ จึงไม่แปลกที่จะเห็นแท่งเทียนยาวตามมา ตามที่บอกถึง Momentum ต่อเนื่องที่เกิดขึ้น

พื้นที่ตรงนี้ Candlestick บอกถึง Price Action เรื่อง Rejection บอกถึงการใช้ไปของออเดอร์ตรงข้ามหรือ Absorption ตอนที่ราคากลับมาทดสอบตรง Resistance หลายแท่งเทียน เลยเป็นการลดแรงทางฝ่าย Sellers ไปด้วย เลยทำให้เกิดแท่งเทียน Momentum  ที่เปิดเหนือกว่าได้ พร้อมด้วยแท่งเทียน Momentum ที่ตามมาได้


มาดูที่เลข 2 แท่งเทียนบอก Price Action ถึงอะไร ดูความต่อเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนมาถึงจุดนี้ ด้วยการอ่านแท่งเทียนต่อเนื่องกันมา จะเห็นแท่งเทียนที่มี Wide range body 3 แท่งต่อเนื่องกัน Bullish หมด และราคาปิดไม่มี Upper wick ด้วย บอกถึง Momentum ต่อเนื่องกัน จนมาถึง Resistance ตัวบน และราคายังสามารถปิดบนได้ด้วย แท่งที่ปิดบนได้ ยังไม่เห็น Upper wick อีก บอกว่าไม่มี Supply เข้ามา และอีกอย่างที่ต้องการให้ดูว่าแท่งเทียนบอกผ่าน Price Action ว่าอย่างไร ดูกรอบที่บอกว่าแท่งเทียนมี Narrow body หลายแท่งพื้นที่เดียวกันแคบๆ ไม่สามารถปิดต่ำกว่า Resistance ที่ราคาเพิ่งเบรคและปิดบนได้ด้วย แท่งเทียนพวก Narrow body บอกถึง weakness หรือไม่มีแรงหรือ momentum เราก็มองที่มาก่อนว่า ราคาดันมาได้อย่างไรและมาหยุดที่ไหน ค่อยจะบอกได้ว่าข้างไหน Weakness

โดยทั่วไปเมื่อราคามาถึง Resistance เราก็จะเห็นว่ามี Supply เข้ามาหรือเห็นการเคลื่อนของ Sellers แต่ตัวอย่างประกอบเกิด Narrow body ต่อเนื่องกันบอกว่า Weakness ทาง Sellers เกิดขึ้น รูปแบบนี้จะเห็นบ่อยในพวก chart pattern ที่มีการพักแล้วไปต่อ เช่น Flag pattern หรือรูปแบบสามเหลี่ยม เพราะ Body แคบๆ หลายแท่งพื้นที่เดียวกัน บอกถึง Weakness อีกข้าง และยังยืนยัน Momentum ที่เกิดก่อนนี้ด้วย เลยทำให้ราคาไปต่อได้ง่าย


ดูพื้นที่เลข 3 ต่อ หลักการเคลื่อนราคาไม่ต่างจากเลข 2 แค่เป็นอีก swing ต่อมา แต่ที่เราเห็นคือแท่งเทียน Momentum สีเขียวยาวๆ หลังจากเบรค High พื้นที่เลข 2 ขึ้นมา ไม่สามารถเปิดบน Resistance อีกที่ได้ และแท่งเทียนต่อมาเป็น Bearish candle ราคาลงมาเกือบ 90% ของแท่งก่อนด้วยบอกว่ามี Supply หรือ Sellers เข้ามาตรงพื้นที่นี้ แต่แท่งต่อมาราคาสามารถดันกลับไปที่เดิมได้และปิดแถมเดิมได้ด้วย ไม่มีการกดดันจาก Sellers ชัดเจนเหมือนแท่งเทียนก่อนนี้ ตอนแท่งเทียน Bearish แท่งเทียนยังไม่สามารถเปิดต่ำกว่าพื้นที่ High เลข 3 ตรงที่ราคาเบรคขึ้นไปได้ด้วยที่จากแนวต้านกลายมาเป็นแนวรับ นอกจากนั้นมองลงไปที่เลข 1 ดูหลายแท่งเทียนประกอบกัน ก็จะเห็นการพัฒนา swing highs/lows ต่อเนื่องกันมา เป็นการพัฒนาการของเรื่องเทรนด้วย