กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

พื้นฐาน Price Action เพื่อเทรดทอง - การวิเคราะห์ Candlesticks ตอน 2

  • 0 replies
  • 564 views
พื้นฐาน Price Action เพื่อเทรดทอง  - การวิเคราะห์ Candlesticks ตอน 2

ตอนนี้จะต่อเนื่องจากบทความที่แล้วหลังจากเข้าใจส่วประกอบของแท่งเทียน การวิเคราะห์แต่ละแท่งเทียนบอกที่เกิดการเทรดช่วงไหน ฝ่าย Buyers หรือ Sellers ชนะหรือคุมตลาดช่วงนั้นๆ การอ่านความหมายของ Body ที่บอกถึงเรื่องของ strength เป็นอย่างไร ยังต่อเนื่องมากขึ้นหรืออ่อนลง เมื่อเราอ่านหลายแท่งเทียนต่อเนื่องกัน หรือแม้แต่เรื่องของ Wick หรือหางแท่งเทียนที่บอกว่า ความกดดันเข้ามาหรือเปลี่ยนข้างหรือเปล่า เพราะมีการเข้าเทรดของขาใหญ่

ใช้ Candlesticks ในการอ่านชาร์ตเปล่า


ขั้นตอนแรก การอ่าน (Direction) จากแท่งเทียนต่อเนื่องกัน ว่าราคาจะไปทางไหน  ด้วยการอ่านแท่งเทียน เราก็จะอ่านแท่งเทียนด้วยการเปรียบเทียบกันแท่งเทียนก่อนนี้ หรืออ่านแท่งเทียนแบบปริบท อ่านแท่งเทียนต่อเนื่องกัน เริ่มที่มองมาทางซ้ายเหนือแท่งเทียนก่อน

ที่เลข 1 ดูจุดที่ตี swing highs/lows ประกอบพร้อมภาพบรรยายด้านข้าง ถ้าเรามองเรื่องของ swing ที่ระดับแท่งเทียน ที่แท่ง Bearish 2 จะเห็นว่าราคาทำ Low แรกได้ แล้วตามด้วย Lower High ด้านบน ตามมาด้วยแท่งที่ 3 ทำเช่นกันคือราคาทำ Lower Low ได้ และขึ้นไปทดสอบแล้วทำ Low High ขึ้นใหม่ ลงมาด้วยแท่งเทียนยาวๆ แถมแท่งที่ 3 ยังสามารถเบรคและปิดต่ำกว่าพื้นที่แนวรับก่อนได้ด้วย สิ่งที่ 3 แท่งเทียนต่อเนื่องกันด้วยการทำ Low->Lower High->Lower Low->Lower High ถือว่าราคาทำเทรนลงหรือ Direction ช่วงแท่งเทียนที่เราดูประกอบกันบอกว่าลง หรือ Sentiment เป็น Bearish หรือเทรนลง

ดูที่เลข 2 ที่เป็นเทรนขึ้น พิจารณาการพัฒนาการ swing highs/lows จากแท่งเทียน ราคาทำ High ได้แล้วตามด้วย Higher Low ตามด้วย Higher High ที่สำคัญ Higher High จุดนี้สามารถเบรคแนวต้านก่อนและสามารถปิดบนได้ด้วย นี่คือสิ่งที่แท่งเทียนบอกทิศทางที่กำลังเกิดขึ้นเมื่อท่านอ่านแท่งเทียนต่อเนื่องกัน ที่สำคัญกว่านั้น สิ่งที่แท่งเทียนบอกเกิดที่พื้นที่แนวรับหรือ Support ด้วย ใช่แท่งเทียนกำลังบอกว่าเกิด Rejection ที่ Support หรือเปล่า การพัฒนาการเปลี่ยนเทรนกำลังเกิดขึ้นหรือเปล่า


ขั้นตอนสอง อ่านปริบทเทียบแท่งเทียนก่อนเพื่อดู  Sentiment ต่อเนื่องจากข้อแรก ท่านจะเห็นว่า เมื่อท่านเปรียบเทียบแท่งเทียนกับแท่งเทียนก่อนหน้า ท่านสามารถบอกถึงเรื่องของ Sentiment แต่ละแท่งเทียน หรือแท่งเทียนต่อเนื่องกันได้ง่ายว่าเป็นอย่างไร เช่นอย่างเรื่องของขนาด Body  และราคาปิด ส่วนของหางแท่งเทียนบอกได้ถึงเรื่องของ Strength และ Momentum ว่าเป็นอย่างไร เกิดขึ้นต่อเนื่องหรือลดลงเมื่อวิเคราะห์จากแท่งเทียนเปรียบเทียบกันกับแท่งเทียนก่อนๆ ต่อเนื่องกัน ดูที่เลข 1 หลังจากที่ราคาปิดบนได้ ตามหลัง Doji ที่บอกถึงการ rejection ที่พื้นที่นั้น จะเห็นว่า Momentum ที่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแท่งเทียนต่อมาที่เห็น Bearish แท่งเทียนไม่มีแรงดันลงมาเลย แล้วก่อนที่จะถึงแท่งเทียนเลข 2 จะเห็นว่าแท่งเทียนต่อเนื่องจาก Momentum ที่เลข 1 บอกทำงานต่อ ราคาปิดบนได้ พอมาเลข 2 แท่งเทียนนี้เลยบอก Momentum ที่เพิ่มขึ้น และความ Strength ทางอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นการบอกถึง Sentiment อย่างชัดเจนด้วยแท่งเทียน


ขั้นตอน การทดสอบหรือ Testing เป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์แท่งเทียนเพื่อเทรด Price Action ว่าราคามี แนวรับ-แนวต้านตรงไหน แม้ว่าหลักการข้อมูลเรื่องของ Wick ถ้าเป็น Upper wick บอกถึงแนวต้าน ถ้าเป็น Lower wick บอกถึงแนวรับ แต่ถ้า Wick ของหลายแท่งเทียนเกิดขึ้นพื้นที่ราคาเดียวกัน บอกถึงความแข็งของพื้นที่แนวรับ-แนวต้านนั้นๆ ดูจากถ้าเห็นการทดสอบพื้นที่ Low/High ของแท่งเทียนก่อนหรือ swing high/low หรือ high/low ของวันก่อน หรือพวก price level ไม่ว่าจะเป็นแนวรับ-แนวต้านหรือ demand/supply รูปแบบการทดสอบส่วนมากก็จะเป็น rejection เป็นหลัก ราคาเมื่อถึงแล้วมีการเด้งออกอย่างรวดเร็ว เพราะกลุ่มเทรดเดอร์ตรงข้ามเข้ามาตรงนั้นเพื่อดันราคา ถ้าเป็นการเทรดหลักการทั่วไป จะเป็นการเทรดช่วงราคาย่อตัวมาทดสอบ ให้ดู price action ประกอบ ว่าราคาจะเด้งตามเทรนเดิมตอนไหน หรือราคาจะเบรค (Break)  ดู sentiment ต่อเนื่องกันจากแท่งเทียนตอนราคาวิ่งเข้าหา ดูสิ่งที่แท่งเทียนบอกเมื่อถึง ขนาดของ Body ราคาปิด และ Wick ประกอบ

ขั้นตอน 4 การคาดการณ์ เมื่อเราสามารถกำหนดทิศทางการเคลื่อนด้วยแท่งเทียนได้ อ่านปริบทเพื่อดู Sentiment เป็น และตามด้วยการดูเรื่องของการทดสอบ หลักการสำหรับการคาดการณ์ทั่วๆ ไป เราก็จะคาดการณ์ว่าเมื่อ Sentiment เป็นไปทางไหน แท่งเทียนต่อมาควรเป็นไปในทางนั้น [ต้องการเห็น Sentiment ชัดเจนด้วย ระยะห่างราคาเปิดและราคาปิดมากหรือ Wide range body]  เช่นถ้าเราเห็น Sentiment เป็น Bullish แท่งเทียนต่อมาควรเป็น Bullish candle หรือถ้า Sentiment เป็น Bearish แท่งเทียนต่อมาควรเป็น Bearish candle ถ้าต่างออกไปเราต้องระวังว่าอาจเปลี่ยนข้างหรือมีขาใหญ่เข้ามาเทรดสวนหรือเปล่า


ดูจากภาพประกอบ ดูที่แท่งเทียนเลข 2 สมมุติว่าเป็นแท่งเทียนล่าสุด เราก็เปรียบเทียบกันแท่งเทียนก่อน เพื่อกำหนดทิศทางและ Sentiment  จากที่เราเห็น ตัวอย่างเห็นชัดว่า Sentiment เป็น Bullish เพราะราคาสามารถปิดเหนือกว่า High แท่งเทียนก่อนได้ และขึ้นไปมากด้วยทำให้เกิดระยะห่างราคาเปิด-ปิดมากพอที่เราจะกำหนดได้ว่าเป็น Wide range body ที่บ่งบอกถึง Sentiment อย่างชัดเจนได้ การคาดการณ์แท่งเทียนต่อมาหรือเลข 3 ก็จะเป็นไปทางขึ้นต่อเป็นหลัก แต่ถ้าดันขึ้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกัน ข้อมูลทิศทางแต่ละ Sentiment ที่บอกแล้ว ให้ระวังว่าราคาอาจวิ่งสวนได้

อีกตัวอย่างที่ชาร์ตด้านช้าย จะเห็นว่าเข้ากันกับการคาดการณ์ด้วยแท่งเทียนอย่างเห็นได้ชัด เพราะเราเห็นการทดสอบหรือ Testing เข้ามาประกอบด้วย ว่าราคามีแนวรับ-แนวต้านตรงไหน แล้วแต่ละแท่งเทียนเปิดเผยออกมาอย่างไรเมื่อราคาไปถึง เห็นการ rejection หรือ break อย่างไร เช่นถ้าเป็นการ Rejection เราจะเห็นแท่งเทียนแบบ Pin หรือ Engulfing หรือถ้ามีการทดสอบหลายแท่งเทียน ขนาด Body น้อยลงต่อเนื่องกัน ราคาสร้าง consolidation แคบๆ ได้ตามมาด้วยแท่งเทียนยาวๆ และ Break ไปได้ เราก็จะดู Body มี momentum หรือแบบ Wide range body หรือเปล่าเพื่อประกอบกัน