การเรียนรู้การเทรดด้วยชาร์ต H4 ช่วยทั้งการเทรดสำหรับแบบการผันผวนราคาของการเทรดแบบรายวันเพราะเป็นการมองภาพใหญ่ของตลาดขึ้นมา ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะถ้ายิ่งรายรายละเอียดใน timeframe ย่อยยิ่งต้องการวิเคราะห์เยอะ และยังเป็น timeframe ที่เหมาะสำหรับเทรด timeframe ใหญ่ขึ้นด้วยอย่างการเทรดแบบ Swing เพราะหลักๆ เมื่อเราเทรดจาก timeframe ไหน เราก็จะหาพื้นที่เทรดเช่น แนวรับ แนวต้าน หรือรูปแบบ price action ต่างๆ  กำหนดความเสี่ยงตรงไหน และการทำกำไรตรงไหนจาก timeframe นั้นๆ

ทำไมชาร์ต H4 จึงน่าเทรด

ชาร์ต H4 ข้อดีแรกๆ ที่เห็นชัดที่สุดคือ ชัดเจน ท่านไม่ต้องมาวิเคราะห์คอยดูการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แบบ timeframe ย่อยลงมา ยิ่ง timeframe เล็กมากก็ต้องยิ่งวิเคราะห์มาก ยิ่งถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่ไม่มีเวลาเทรด มีภาระจำเป็นเยอะ ยิ่งเปิดโอกาสให้เทรดได้ง่ายๆ ด้วยเพราะเห็นภาพการเคลื่อนไหวของราคาชัดเจนกว่า ข้อดีมีหลายๆ อย่างเช่น ท่านไม่ต้องมาคอยเผ้าดูการเคลื่อนไหวของราคามากเกินไปแบบเทรดท่านเทรดใน timeframe ย่อย เพราะถ้า 1 วัน ท่านก็จะมีชาร์ต H4 แค่ 6 แท่งเทียนเอง,  ไม่ต้องมาค่อยดูการสวิงของราคาเด้งไปมาเพราะข่าวที่เกิดขึ้นบ่อยแต่ละช่วงตลาด, ต้องมาหาจังหวะการเข้าเทรดมากเกินไปแบบ timeframe ย่อยเพราะระยะ take profit/stop loss ท่านกว้างมากเลยไม่ต้องมากังวลเรื่องพวกนี้ เลยทำให้โอกาสระยะทำกำไรจากการเทรด H4 มากขึ้นไปด้วย และยังเทรดเข้ากับการเทรด timeframe ใหญ่กว่าดีด้วย เช่นการเทรด Swing ท่านจะเห็นว่าเทรดเดอร์ส่วนมากก็จะหาจุดเข้าเทรดด้วยการหา swing highs/lows จาก H4 เป็นหลักเพราะชัดเจน

ข้อเสียของชาร์ต H4


ข้อแรก เนื่องจากชาร์ต H4 มีหลายโบรกเกอร์เสนอราคาปิดต่างกัน เลยทำให้เมื่อท่านมอง อาจเห็นภาพที่ต่างจากโบรกเกอร์อื่นได้ นี่สำคัญมากเพราะหลายๆ เทรดเดอร์ลืมความสำคัญเรื่องนี้ ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านเทรดกับเทรดเดอร์อื่นๆ โดยเฉพาะขาใหญ่ที่เทรดมากกว่าท่านหลายๆ เท่า การเปิดเทรดของพวกเขามากพอที่จะปั่นราคา เช่นทำ False Breakout, Stop hunt พวกนี้ ท่านจำเป็นต้องเห็นภาพเดียวกันกับที่พวกเขาเห็น ดูจากภาพประกอบระหว่างชาร์ต H4 ด้านช้ายมือเป็นชาร์ตของโบรกที่เป็น New York close ชาร์ตที่ขาใหญ่เทรดกัน แต่ด้ายขวามือเป็นอีกโบรกที่ราคาปิด H4 ไม่ใช่ New York Close ท่านจะเห็นภาพที่เกิดขึ้นแท่งเทียนต่างกันออกไป นี่สำคัญมากเพราะถ้าท่านเทรดด้วย Price Action ท่านจะเห็นภาพที่ Price Action บอกมาต่างกันออกไปเลยทีเดียว ก็จะทำให้ท่านตีความไปคนละอย่างได้ [แม้ว่าอาจจะใช้ชาร์ต H1 ลงไปช่วยในการดูก็ตามจะไม่ต่างกัน]

ข้อสอง การเทรด H4 เพราะเมื่อเรากำหนดการเทรดจาก timeframe ไหนเราก็จะกำหนด stop loss และ take profit จาก timeframe นั้นเป็นหลักด้วย พื้นที่กำหนด stop loss จากชาร์ต H4 ก็จะมากไปโดยปริยาย แต่ขณะเดียวกันส่วนพื้นที่ทำกำไรท่านก็มากขึ้นไปด้วย เรื่องของ Risk:Reward ไม่ได้ต่างจากการเทรด timeframe ย่อย แต่สัดส่วนพื้นที่ราคาวิ่งมากขึ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าราคาวิ่งไปทางที่ท่านเปิดเทรด ระยะการทำกำไร ก็ทำให้ท่านได้กำไรเยอะด้วย

ข้อสาม เนื่องจากการเทรดด้วย H4 ถือว่าเป็น timeframe ใหญ่ เช่นอย่างการเทรดระยะสั้น ก็จะกำหนด trade setup จาก H1 แต่กรอบใหญ่สุดที่ H4 เปิดเทรดที่ timeframe ย่อยลงไป พอเปิดเลยเป็นราคาเปิดเผยวิ่งเร็ว แต่ถ้าท่านเปิดเทรดด้วย H4 เป็นหลัก timeframe ใหญ่ขึ้นท่านก็จะเป็น D1 หรือ W1 ความอดทน และการบริหารจัดการอารมณ์ท่านต้องมากยิ่งขึ้นไปด้วย ท่านต้องทนรับการสวิงของราคาเยอะๆ มากได้ ต้องใช้การจัดการอารมณ์ให้มาก

ใช้ Price Action เทรดทองใน H4 อย่างไร


เนื่องจาก H4 เป็นชาร์ตที่เปิดเผยข้อมูลการเคลื่อนไหวราคาชัดเจนเพราะ  1 แท่งเทียน H4 เท่ากับ 4 แท่งเทียน H1 เท่ากับ 8 แท่งเทียนของ M30 เท่ากับ 16 แท่งเทียนของ M15 ดังนั้นพอราคาปิด เลยบอกชัดเจนว่าแต่ละช่วงแท่งเทียน ข้างไหนเป็นฝ่ายชนะ หรือครองตลาด การใช้ Price Action ในการเข้าเทรดช่วยให้การเข้าเทรดมีความเป็นไปได้สูงได้เพราะเราเห็นจังหวะการเข้าเทรดที่เปิดเผยออกมาชัดเจนจากข้อมูลชาร์ตอยู่แล้ว รูปแบบ Price Action อาจเป็น Pin Bar, Engulfing Bar, Doji, Hanging Man, Shooting Star, Bullish/Bearish Harami, Inverted Hammer หรือ Dark Cloud เป็นต้นได้หมด หรือแม้แต่ chart patterns ต่างๆ

ดูที่เลข 1 ท่านจะเห็นว่าราคาได้ลงมาทดสอบ แนวรับ แต่เนื่องด้วยมี swap level ด้านบน ราคาอาจลงต่อก็ได้ แต่พอราคาของแท่งเทียน H4 สามารถปิดบนได้ นั่นคือโอกาสแรก เราเปิดเทรดตอนที่ราคาลงมาทดสอบ อันนี้เป็นการใช้ Price Action แบบ Engulfing bar ว่าเอาชนะ swap level เล็กๆ ได้ เป็นการยืนยันว่าขาใหญ่ต้องเปิดเทรดด้านล่างแน่นอน

เลข 2 เป็นโอกาสต่อเนื่อง จะเห็นว่าหลังจากที่เข้าเทรดเลข 1 3 แท่งเทียนต่อเนื่องกันเป็น Bullish หมด และขนาดยาว บอกถึงแรงด้าน Buyers เป็นหลัก มองมาทางช้ายมือราคาได้เบรค high ก่อนด้วย ได้เปลี่ยน market structure เราเห็นการยืนยันอีกทีเมื่อเกิด Doji ที่ลูกศรเลยเปิดโอกาสเทรดตามมา

เลข 3 ตัวที่บอกเป็น Engulfing Bar ดูว่าราคา Engulf อะไร มองมาทางช้ายมือ ราคาได้ทำ Highs พื้นที่เดียวกันทั้ง 3 รอบ ไม่สามารถทำ New High ใหม่ได้ หางแท่งเทียนพวกนี้เป็นเพราะการปิดทำกำไรของขาใหญ่ที่เปิดเทรดด้านล่าง โอกาสเปิดเทรดมาเกิดขึ้นเมื่อเราเห็น ราคาสามารถเอาชนะ4 บาร์ก่อนได้ด้วย Engulfing Bar ราคากลับมาทดสอบเลยเปิดโอกาสเปิดเทรด

เลข 4 ราคาลงมาถึง พื้นที่เลข 2 ที่ราคาดันขึ้นไป อาจจะเป็นแนวรับหรือเปล่า เราอาจไม่แน่ใจเพราะราคาอาจลงไปอีกก็ได้ แต่ที่เราเห็นคือ Price Action ด้วย Doji เกิดขึ้นเป็นตัวบอกราคาอาจเด้งตรงนี้หรือเปล่า พอแท่งเทียนตามมาเป็น Bullish ปิดเหนือกว่า Doji ได้เลยเป็นการบอก Buy ว่าน่าจะเปิดเทรดตรงนี้ได้

เลข 5 เป็น Engulfing Bar เลข 6 เป็น chart pattern แบบ Head and Shoulders  และเลข 7 เป็นแบบ Swap level