คาดการณ์ต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกับตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปแสดงภาวะขาขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มฟื้นตัวกลับมาหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะบังคับใช้ (แต่ก็มาพร้อมกับนโยบายเก็บภาษีกลุ่มรายได้สูงและภาษีนิติบุคคลด้วย)

นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษยังออกมาเกินตัวเลขคาดการณ์ แม้จะยังอยู่ในช่วง Lockdown ซึ่งส่งผลให้ GBP/USD ปรับตัวแข็งค่าขึ้นไปเคลื่อนไหวที่แนวต้าน 1.37 และยังมีโอกาสจะเป็นขาขึ้นต่อ

ส่วน USD/JPY มีทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่เปลี่ยนแนวทางการใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำและควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ในขณะที่ดอลล่าร์สหรัฐฯ มีปัจจัยลบจากเรื่องนโยบายขยายการใช้จ่ายทางการคลัง จึงทำให้ JPY มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD

สำหรับ USD/CAD ก็มีแนวโน้มอ่อนค่าเช่นเดียวกัน โดยมีการปรับตัวลงจากระดับ 1.2990 ไปอยู่ที่ 1.2920 ซึ่ง CAD ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันโดยรวมที่อยู่ในภาวะขาขึ้น (แต่สหรัฐฯ ก็ยังมี Shale oil และมีปริมาณน้ำมันสำรองเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ จนเริ่มสร้างความกังวลต่อกลุ่ม OPEC แม้ว่านโยบายของ ปธน.โจ ไบเดน จะส่งผลเป็นลบในระยะยาวกับตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ก็ตาม)