อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:56:10 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:55:24 PM

อ้างจาก: admin ที่ 15, กันยายน  2020, 09:47:52 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:46:57 PM

อ้างจาก: admin ที่ 15, กันยายน  2020, 09:36:03 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:29:48 PM
เข้าทั้งทองทั้ง eu เลยใช่มั้ยครับ

ใช่ ครับผม

ขอบคุณครับ

รอบนี้ขอให้ได้กำไร คืนมาไว ๆ ครับท่าน

กำลังใจจากแอดมาเต็ม ลุ้นครับ!

ว่าแต่ tp กับ sl เท่าเดิมมั้ยครับ

เท่าเดิม ครับ

แต่ทอง ขยับลงมาหน่อย ตรง 1910

อ้างจาก: admin ที่ 15, กันยายน  2020, 09:58:27 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:56:10 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:55:24 PM

อ้างจาก: admin ที่ 15, กันยายน  2020, 09:47:52 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:46:57 PM

อ้างจาก: admin ที่ 15, กันยายน  2020, 09:36:03 PM

อ้างจาก: Helloducky ที่ 15, กันยายน  2020, 09:29:48 PM
เข้าทั้งทองทั้ง eu เลยใช่มั้ยครับ

ใช่ ครับผม

ขอบคุณครับ

รอบนี้ขอให้ได้กำไร คืนมาไว ๆ ครับท่าน

กำลังใจจากแอดมาเต็ม ลุ้นครับ!

ว่าแต่ tp กับ sl เท่าเดิมมั้ยครับ

เท่าเดิม ครับ

แต่ทอง ขยับลงมาหน่อย ตรง 1910

ขอบคุณครับ

(Sep 15) วอลล์สตรีทพุ่งขึ้นวันนี้ จากอานิสงส์หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี : ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ณ เวลา 21.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,162.63 จุด บวก 169.30 จุด หรือ 0.6% ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 0.91% ส่วนดัชนี Nasdaq บวก 1.19%

ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์พุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ ก่อนที่บริษัทจะจัดแอปเปิลอีเวนต์ในวันนี้

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch และ iPad รุ่นใหม่ในวันนี้ ส่วน iPhone 12 จะมีการเปิดตัวในเดือนต.ค.

ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ รวมทั้งการที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ จะกลับมาทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟส 3 อีกครั้ง หลังจากที่ได้ระงับโครงการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอาสาสมัครรายหนึ่งมีอาการอักเสบที่ระบบประสาทในไขสันหลังอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดการณ์ผลประกอบการสดใส และได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ

ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าว ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น

ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC พบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2566

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้น 13.3 จุด สู่ระดับ 17.0 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0 หลังจากดิ่งลง 14 จุดในเดือนส.ค.

ดัชนีอยู่เหนือระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก โดยดัชนีมีค่าเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.4% ในเดือนส.ค. หลังจากดิ่งลง 2.8% ในเดือนก.ค.

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นวานนี้

ณ เวลา 21.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% สู่ระดับ 1,959.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองปิดพุ่งขึ้นเกือบ 1% เมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ



ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าว ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น



ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC พบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2566



--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

WHO เตือน ต.ค. - พ.ย. นี้ ยุโรปจะเผชิญกับการระบาดของ โควิด-19 อย่างหนัก เนื่องจากเป็นฤดูหนาวที่ทำให้ไวรัสระบาดมากขึ้น

วันนี้( 14ก.ย.63) ดร.ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการ WHO แห่งยุโรปเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าตอนนี้อีกและอาจมีผู้เสียชีวิตสูงขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นฤดูหนาวที่ทำให้ไวรัสระบาดมากขึ้น   ในเวลานี้หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับตัวเลขผู้ติดชั้อที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างคงที่ แต่ช่วงฤดูหนาวนี้อาจมีผู้ติดเชื้ออาการวิกฤตเพิ่มขึ้นซึ่งอาจสูญเสียมากขึ้นเช่นกัน

ดร.ฮานส์ คลูก กล่าวในระหว่างการประชุมออนไลน์กับ 55 ชาติยุโรปในวันนี้ด้วยว่า ที่หลายประเทศต่างตั้งความหวังถึงวัคซีนโควิด-19 ที่จะทำให้การระบาดสิ้นสุดลง ย้ำว่า ตนได้ยินเรื่องนี้มาตลอดแต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัคซีนจะช่วยคนทุกกลุ่มได้หรือไม่เพราะเริ่มมีสัญญาณแล้วว่า วัคซีนช่วยบางกลุ่มได้ แต่ขณะเดียวกันกลับไม่ช่วยคนอีกกลุ่มและหากเราต้องสั่งวัคซีนหลากหลายตัว จากหลายบริษัทเมื่อนั้นจะกลายเป็นฝันร้ายทางการขนส่งอย่างแน่นอน
ดังนั้น การยุติการระบาดในเวลานี้คือ เราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับการระบาดและมันขึ้นอยู่กับว่าพวกเราปฏิบัติตัวอย่างไร และหากเรามีระบบการติดตามที่ดีก็จะทำให้เราสามารถควบคุมการระบาดในชุมชนได้ และนั่นก็จะทำให้สามารถผ่อนปรนมาตรการได้ตามมา

#ขายน้อยแต่ก็ขายนะ

รายงานการถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Share  16 กันยายน 2563

🏆🏆 #SPDR อัพเดททองคำแท่งลดลง🔻🔻-0.43ตัน

ทองคำแท่ง รวมในคลัง SPDR 🔻+1247.57ตัน

เดือนนี้ กันยายน  2563 ลดลง 🔻 -3.93ตัน
ปีนี้ 2563 เพิ่มขึ้น 💹+354.32 ตัน

#เครื่องมือช่วยเทรดทองคำ
#ราคาทอง วันนี้ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทองคำ คลิกที่ นี่ : : https://bit.ly/2KCAAWV
#อัพเดทการซื้อขายทองคำ ของ SPDR Gold  ที่ลิ้งนี้ : : https://bit.ly/2KE162k


#ทองคำ,#ทองคำแท่ง,#กองทุนทองคำ,#ซื้อทอง,#spdrgoldtrust,#gold,#goldtrust,#goldshare,#ราคาทองคำ #traderider

TRADERIDER.COM

(Sep 16) องค์การการค้าโลกตัดสินว่าภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนในปี 2018 เป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ : องค์การการค้าโลก (The World Trade Organization: WTO) ได้เปิดเผยรายงานผลคำตัดสินกรณีจีนยื่นฟ้องสหรัฐฯ ต่อองค์การการค้าโลกว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมจากสหรัฐฯ ขัดกับหลักปฏิบัติของ WTO

ทาง WTO วินิจฉัยว่าภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนในปี 2018 เป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกดำเนินมาตรการการค้าระหว่างประเทศโดยไม่เลือกปฏิบัติ (Non-Discrimination) และให้การปฏิบัติต่อสินค้าจากประเทศสมาชิกอย่างเท่าเทียมกัน (Most-favoured Nation Treatment : MFN) โดยทางคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทด้านการค้าของ WTO ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงเหตุผลในการเรียกเก็บภาษีเป็นการเฉพาะดังกล่าวที่ชัดเจนและเพียงพอ

ทางสหรัฐฯ ได้อ้างว่าภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บมีความชอบธรรมตามกฏหมายสหรัฐฯ เนื่องจากจีนได้กระทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมโดยการบังคับให้บริษัทสหรัฐฯ ต้องส่งข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนให้ทางการ รวมทั้งจีนอาจมีการจารกรรมข้อมูลและละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าคำตัดสินครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลต่อสหรัฐฯ มากนักและเห็นว่าการตัดสินในครั้งนี้น่าจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับ WTO ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ WTO ว่ามักทำหน้าที่เกินขอบเขตอำนาจ ประกอบกับกระบวนการทำงานยังล้าหลังไม่สามารถรับมือกับการขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางการค้าของจีนได้ รวมทั้งสหรัฐฯ ได้มีการแสดงความเป็นไปได้ในการถอนตัวออกจาก WTO เป็นระยะหาก WTO ไม่มีการปฏิรูปองค์การ

ด้านนาย Robert Lighthizer ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ได้ตอบโต้ว่าการตัดสินครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทาง WTO มีความสามารถที่ไม่เพียงพอในการรับมือกับนโยการการคุกคามทางเทคโนโลยีที่เป็นอันตรายของจีน รวมทั้ง WTO ยังไม่มีทางออกในเรื่องการประพฤติผิดของจีนในเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากนี้ยังกล่าวว่าสหรัฐฯ จะยังยืนยันต่อสู้เรื่องการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยจะไม่ยอมให้จีนใช้ WTO เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน ภาคธุรกิจ และเกษตรกรชาวอเมริกัน

อนึ่ง ทาง WTO's appellate body (AB) ซึ่งเป็นองค์กรอุทธรณ์ ของ WTO ยังเผชิญทางตันที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้มาตั้งแต่ปี 2019 หลังคณะผู้ตัดสินบางท่านหมดวาระ แต่สหรัฐฯ ยัง Veto ไม่อนุมัติรายชื่อคณะผู้ตัดสินคนใหม่ ทำให้ขณะนี้ข้อพิพาทที่ตัดสินจากคณะกรรมการชั้นต้นมายังไม่สามารถอุทธรณ์ได้และในทางปฏิบัติประเทศคู่กรณีก็จะยังดำเนินการตามแนวปฏิบัติของตนต่อไป

Sentiment ในตลาดการเงินสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ยังคงปรับดีขึ้นโดยดัชนี S&P500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด อย่างไรก็ตามดัชนีปรับลดลงในช่วงบ่ายหลังมีข่าวว่า องค์การการค้าโลก (WTO) ตัดสินว่าการจัดเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อจีนเป็นการละเมิดกฎของ WTO แต่ดัชนียังคงปิดเป็นบวกได้ ทั้งนี้ ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมออกมาค่อนข้างผสมแต่ไม่ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

ปิดสิ้นวันดัชนี S&P500 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.52 ปิดที่ 3,401.20 นำโดย Communication services และ Real Estate ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.72 และ 1.39 ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้น 0 – 2 bps แบบ Bear Steepen นำโดยระยะ 30 ปี

Source: BOTSS