(Aug 7) สหรัฐแบน "วีแชท" สะเทือนเงินหยวน-หุ้นเทนเซนต์ : มูลค่าหุ้นในตลาดของบริษัท เทนเซนต์ ยักษ์ใหญ่ไฮเทคของจีน หายวูบทันที 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 9.3 แสนล้านบาท ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนยวบในอัตราสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ พลันที่ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามการทำธุรกรรมใดๆ กับแอปพลิเคชั่นวีแชท (WeChat) ในสหรัฐอเมริกา
ราคาหุ้นของ บริษัท เทนเซนต์ โฮลดิงส์ (Tencent Holdings) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ร่วงลงกว่า 4% โดยบางช่วงลดลงถึง 10% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้าวันนี้ (7 ส.ค.) ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทตามราคาตลาดหายไปทันที 30,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา สั่งแบนการใช้ "วีแชท" (WeChat) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันยอดฮิตของเทนเซนต์ในตลาดสหรัฐอเมริกา ในข้อหาเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงของสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับวีแชท โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า กำลังยกระดับมาตรการเพื่อกำจัดแอป "ที่ไม่น่าไว้ใจ" ของจีนออกจากเครือข่ายดิจิทัลของสหรัฐ
นอกจากวีแชทแล้ว บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเป็นเจ้าของ " ติ๊กต็อก" (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีน ก็โดนคำสั่งห้ามนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นอกจากราคาหุ้นของเทนเซนต์ที่ร่วงลงมากแล้ว คำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้ยังส่งผลทุบค่าเงินหยวนของจีนให้อ่อนลงมากที่สุดในรอบสองสัปดาห์ ความเคลื่อนไหวของสหรัฐยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐที่ย่ำแย่อยู่แล้วในระยะหลังนี้ ยิ่งเลวร้ายลงไปและทำให้เกิดความวิตกว่าการเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการทำธุรกิจของภาคเอกชน เศรษฐกิจ และเข้าสู่ตลาดระหว่างกัน ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับขอบเขตของคำสั่งห้ามนี้สร้างความสับสนให้กับนักลงทุนซึ่งสะท้อนให้เห็นจากราคาหุ้นของเทนเซนต์ในตลาดฮ่องกงที่หล่นลงมากกว่า 10% ในระหว่างที่มีการซื้อขายก่อนที่จะปรับขึ้นมาและปิดที่ราคาลดลง 4.3%
การใช้ถ้อยคำในการแถลงที่ครอบคลุมกว้างๆ เกี่ยวกับคำสั่งของประธานาธิบดีทำให้เกิดความวิตกว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบไม่เพียงเฉพาะกับแอปพลิเคชัน"วีแชท"และ "วีแชทเพย์" เท่านั้น แต่ยังจะกระทบการทำธุรกิจระหว่างบริษัทเอกชนของทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากเทนเซนต์ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกมรายใหญ่ที่สุดในโลก(สถิติ ณ ปี 2562) มีการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทผู้ผลิตเกมรายใหญ่ของสหรัฐอย่างเช่นบริษัท แอคทิวิชัน บลิซซาร์ด และบริษัท อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ทส์ ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น เทนเซนต์ยังมีหุ้นใหญ่ในบริษัท เอพิค เกมส์ และบริษัท ไรออต เกมส์ ของสหรัฐซึ่งป็นผู้พัฒนาเกมยอดฮิตอย่าง "ฟอร์ทไนท์" และ "ลีก ออฟ เลดเจนด์" ตามลำดับ
ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงลงเมื่อวันศุกร์ มูลค่าหุ้นของเทนเซนต์ในตลาดอยู่ที่ระดับ 686,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก
Source: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
สถิติกองทุน SPDR
