กองทุน SPDR GOLD SHARES
ถือทองก่อนหน้า
ถือทองล่าสุด
0.00
*หน่วยตัน / ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
สถิติกองทุน SPDR
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ราคาอ้างอิงล่าสุดจากสมาคมค้าทองคำ
ครั้งที่
ราคาก่อนหน้า
ราคาล่าสุด
0
(หน่วย บาท*) / อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 เวลา 13:04 น.
สถิติราคาทองคำ ไทย

✅✅EUR/USD FOREX ศุกร์ 26 มิถุนายน 2020 ลงต่อเถอะนะจะได้ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน ⏰⏰⏰

  • 75 replies
  • 12,467 views
*

admin

  • 80,416
อ้างจาก: pooppup07 ที่ 26, มิถุนายน  2020, 11:59:55 PM
แอดครับ EUทำไมดีดแบบนั้นหละคับ

แอดมินไม่ทราบ ว่าขึ้น เพราะอะไร แต่ก็ถือรอ ครับ
spy/*/ **Hea**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 80,416
อ้างจาก: Plaman7 ที่ 26, มิถุนายน  2020, 11:54:05 PM
สบายใจถอนตังอีก50บาท
ทองเด้งน่ากัวตอนนี้นั่งดู
กำไรน้อยๆดีกว่าล้างเคยเจอ50ลงทีเดียวเนี่ยเละ

ตอนนี้ แตะ 1770 แล้ว ครับ วีคหน้า น่าจะ 1800 สบายๆ
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 80,416
อ้างจาก: Lil Mayfly ที่ 27, มิถุนายน  2020, 12:00:38 AM
อ้างจาก: admin ที่ 26, มิถุนายน  2020, 11:26:08 PM
ฝีมือพัฒนาขึ้นไง ครับพี่
กราฟก็วิ้งเหมือนเดิม นะครับ คือขึ้นกับ ลง เหมือนเดิม แต่ เพิ่มเติม คือ ประสบการณ์ที่มากขึ้นกำไรก็มากขึ้น
**Hea** **Hea**

แต่ยังไงก็ที่สำคัญที่สุด..เพราะได้ อาจารย์แอดและทีมงาน คอยดูแลช่วยเหลือมาตลอด..
รวมถึงน้องๆในบอร์ด ที่มาแบ่งปันความรู้ ความคิดเห็น ให้คนไม่รู้ รู้น้อย ได้มีโอกาสดีๆ พัฒนาฝีมือบ้าง..
และที่สำคัญ..ถ้านั่งเทรดอยู่บ้านคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องใคร ไม่เข้ามาเจอเพื่อน พ้อง น้อง(ไม่น่าจะมีพี่)..ในบอร์ดนี้ ..คงเครียด..
พอเข้ามาที่นี่...จะได้กำไร หรือขาดทุน ก็ยังมีความอบอุ่นทางใจ ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย  ที่ขาดทุน เครียดบ้างก็ค่อยคลายในเวลาไม่นาน
ที่ได้กำไร ก็สนุกสนาน ฮาเฮ ครึกครื้นกันไปทั้งบอร์ด..บรรยากาศที่นี่ ช่วยพี่ได้ไม่น้อยเลย..

ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องค่าาาา... (TH)** (TH)** (TH)**

ขอบคุณครับ อ่าน คอมเม้น พี่ทุกคอมเม้น ทีกำลังใจดีๆเสมอ ครับ
(TH)**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 80,416
ด่วน! กระทรวงการคลัง สหรัฐ เตรียมเงินกว่า 1.6 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5000$ ต่อคน ของพลเมืองอเมริกัน ทั้งหมด สำหรับการ เยียวยาครั้งต่อไป

#เงินล้นโลกก็คราวนี้ #ทอง2000$จะไปไหน

#usd #ราคาทอง,#ทองคำ
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 80,416

🏆🏆 #SPDR อัพเดททองคำแท่ง  💹+3.51
ทองคำแท่ง รวมในคลัง SPDR 💹+ 1178.90ตัน

เดือนนี้ มิถุนายน  2563 เพิ่มขึ้น 💹+ 55.76ตัน
ปีนี้ 2563 เพิ่มขึ้น 💹+285.65ตัน

#เครื่องมือช่วยเทรดทองคำ
#ราคาทอง วันนี้ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทองคำ คลิกที่ นี่ : : https://bit.ly/2KCAAWV
#อัพเดทการซื้อขายทองคำ ของ SPDR Gold  ที่ลิ้งนี้ : : https://bit.ly/2KE162k

TRADERIDER.COM
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

PoNgPk

  • 6,073
ผ่านมาครึ่งทางของปี 2563 ระยะเวลา 6 เดือนที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาด 'โควิด-19' (COVID-19) ติดเชื้อรวมกันทั่วโลกกว่า 9 ล้านคน และเสียชีวิตรวมกว่า 4 แสนราย เศรษฐกิจพังกันยับเยิน

หากดูจากตัวเลข ณ เวลานี้ หลายๆ ประเทศก็เริ่มมีผู้ป่วยติดเชื้อลดลงกันแล้ว เริ่มเบาใจ และเริ่มผ่อนคลายมาตรการ หรืออาจรวมถึงการ 'ปลดล็อกดาวน์' เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อกลับสู่สภาวะปกติ

แต่... อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีกันขนาดนั้น

ยังมีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังและควรจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะว่ากันว่า 'คลื่นลูกที่ 2' ของ 'โควิด-19' กำลังจะมาแล้ว

คำว่า 'คลื่น' ในที่นี้เป็นคำที่ใช้อธิบายกราฟการแพร่ระบาดของ 'โควิด-19' ที่มีตัวเลขการติดเชื้อพุ่งสูงและร่วงลงต่ำ ซึ่งส่วนมากการแพร่ระบาดของ 'ไข้หวัด' มักจะเกิดในช่วงฤดูหนาวและลดลงในฤดูอบอุ่น

หากมีการกลับมาระบาดอีกครั้งในฤดูหนาวถัดมา ทั้งๆ ที่ 'คลื่นลูกแรก' ยังไม่หมดไป

ตัวอย่างง่ายๆ คือ สมัยเกิดการแพร่ระบาดของ 'ไข้หวัดใหญ่สเปน' ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ 500 ล้านคนทั่วโลก และเสียชีวิตประมาณ 20-50 ล้านคน โดยแพร่ระบาดครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2461 และมีการเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในฤดูใบไม้ร่วง แถมอันตรายกว่าเดิม เรียกกันว่า 'คลื่นลูกที่ 2'

หาก 'คลื่นลูกที่ 2' กำลังจะมาจริงๆ ตอนนี้มีที่ไหนบ้างที่กำลังจะต้องเผชิญ?

แห่งแรกเลย คือ 'เกาหลีใต้'

ซึ่งมีคำยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้วว่า "ประเทศกำลังเดินทางเข้าสู่ 'คลื่นโควิด-19 ลูกที่ 2' แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อจะลดลงแล้วก็ตาม"

'เกาหลีใต้' นับเป็นประเทศที่มีการจัดการ 'โควิด-19' ที่มีประสิทธิภาพมากประเทศหนึ่งในโลก แต่กลับกลายเป็นว่า ณ เวลานี้ มีการคาดการณ์ว่า "การระบาดอาจลากยาว" หลังจากที่ 'คลื่นลูกแรก' กินเวลาการระบาดถึงเดือนเมษายน

หากย้อนไปช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกิด 'คลัสเตอร์อิแทวอน' ขึ้นในกรุงโซล และมีการติดตามอย่างแข็งขัน ก็พบว่าตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่ค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง จากหลักพัน เหลือหลักร้อย และเป็น 'ศูนย์' ถึง 3 วันติดกัน

แต่ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลับพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย และทั้งหมดนั้นมาจากคลัสเตอร์ที่แตกต่างกัน!!

นั่นหมายความว่า 'คลื่นไวรัสลูกที่ 2' อาจกำลังมาถึงแล้ว...

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้จะบอกว่า "ประเทศกำลังเข้าสู่วังวนของคลื่นลูกที่ 2" แต่ทางกรมควบคุมโรคกลับยังไม่เคยบอกว่า "คลื่นลูกแรกในเกาหลีใต้จบลงแล้ว"

แม้ยังไม่ยืนยันว่า นี่เป็น 'คลื่นลูกที่ 2' หรือ 'คลื่นลูกแรก' กันแน่?

แต่ทางนายกเทศมนตรีกรุงโซลก็ออกมาเตือนไว้ก่อนว่า 'โซล' อาจกลับมาใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเข้มงวดอีกครั้ง หากอัตราการใช้เตียงในโรงพยาบาลสูงเกินกว่า 70%

ตลอดมา 'เกาหลีใต้' พยายามเลี่ยงการใช้ 'ล็อกดาวน์' แต่เน้นใช้การร่วมมือทำตามมาตรการ Social Distancing ด้วยความสมัครใจควบคู่ไปกับกลยุทธ์ 'ติดตาม แกะรอย และตรวจ' อย่างแข็งขันในการต่อสู้กับไวรัสแทน

แห่งต่อมา คือ 'สหราชอาณาจักร'

ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขออกมาเตือนว่า สหราชอาณาจักรกำลังจะต้องเผชิญ 'คลื่นลูกที่ 2' ที่เป็น 'อันตรายของจริง'

การเตือนที่ว่านี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรี 'บอริส จอห์นสัน' ออกมาประกาศว่า "อังกฤษหมดฤดูจำศีลแล้ว!!" เตรียมออกคำสั่ง 'ปลดล็อกดาวน์' และนับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมเป็นต้นไป ผับ ร้านอาหาร และโรงแรมจะกลับมาเปิดอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

และหากถามว่า 'คลื่นลูกที่ 2' จะใหญ่ขนาดไหน?

คำตอบคือ "ยังคาดการณ์ไม่ได้"

แต่จากตัวชี้วัดต่างๆ คาดการณ์ว่า 'คลื่นลูกที่ 2' จะเกิดการ "ปะทุในพื้นที่ท้องถิ่น" และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหราชอาณาจักร

โดยหนึ่งในทีมแพทย์ได้ออกมาวิจารณ์ด้วยว่า "นี่เป็น 'พื้นที่แห่งความอ่อนแอ' แทนที่จะขัดขวางคลื่นลูกที่ 2' แทนที่จะปกป้องชีวิตประชาชน กลับเลือกที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ...ที่อาจเร็วเกินไปด้วยซ้ำที่จะทำ"

และอีกแห่งคือ 'สหรัฐอเมริกา'

ที่ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ และนักการเมือง กังวลกันว่า 'คลื่นลูกที่ 2' กำลังจะมาถล่มในเร็วๆ นี้

ซึ่งสวนทางกับแนวคิดของ ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านโรคติดเชื้อของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่มองว่า "นี่ยังเร็วเกินไปที่จะถกกันถึง 'คลื่นลูกที่ 2' เพราะสหรัฐอเมริกายังไม่เคยหลุดออกจาก 'คลื่นลูกแรก' ของ 'โควิด-19' เลยด้วยซ้ำ"

และหากสหรัฐอเมริการีบยกเลิกคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในเร็วๆ นี้ รวมถึงรีบกลับมาเปิดธุรกิจต่างๆ อีกครั้ง ก็อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการติดเชื้อแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญ แม้ปัจจุบันจะมีตัวเลขการติดเชื้อลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระดับ 20,000 รายต่อวัน

จากที่ว่ามานั้น จึงเป็น "บทเรียน" ช่วง 6 เดือนแรกของปี ที่เราควรเรียนรู้และเฝ้าระวัง จนกว่าจะมีการค้นพบ 'วัคซีน'

...มาตรการความเข้มงวดอาจกลับมาอีกครั้ง!!

ดังนั้น "อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดี"

"การประสบความสำเร็จจากการล็อกดาวน์ ไม่ได้หมายความว่า พื้นที่นั้นเป็นอิสระจากไวรัสโคโรนาแล้ว"

ในฮอกไกโด, ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศแรกที่มีการบังคับและจำกัดพื้นที่อย่างเข้มงวดในเดือนกุมภาพันธ์ โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคม ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อมีการลดลงเหลือ 1 หรือ 2 ต่อวัน

มาตรการดังกล่าวให้ผลดี นำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และยกเลิกในเดือนเมษายน มีการเปิดโรงเรียน แต่เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ก็กลับมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกครั้ง หลังพบ 'คลื่นลูก 2 ของการติดเชื้อ' บนเกาะ

และอีกหนึ่งคือ อย่าสูญเสียการตรวจและแกะรอย

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เกาหลีใต้มีการพัฒนาระบบจัดการตรวจวันละ 10,000 รายต่อวันฟรี ขณะเดียวกันก็ทำแอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมต่อ GPS ในการแกะรอยผู้ติดเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ขยายการแพร่ระบาด

เพราะความจริงแล้ว "ไวรัสยังไม่ได้จากไปไหน และไวรัสก็ยังไม่ได้กลับมา แต่ไวรัสยังคงอยู่ ที่อาจสูงในบางสถานที่และน้อยในบางสถานที่"

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,073
นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กในวันนี้ระบุว่า การที่จะตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ต้องอาศัยการประสานงานร่วมกันระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการดำเนินการของรัฐบาล

นายลีกล่าวว่า สิงคโปร์กำลังรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังวิกฤตอยู่ขณะนี้ให้ดีขึ้น "แต่ความพยายามของเราแค่เพียงประเทศเดียวนั้นไม่เพียงพอ"


นอกจากนี้ นายกฯสิงคโปร์ยังเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือแบบพหุภาคีในการพัฒนาวัคซีนมาต่อสู้กับโรคระบาดด้วยกัน โดยระบุว่า "เป้าหมายระดับโลก ก็คือการจับมือกันเพื่ออนาคตของเรา"

COVID-19: นายกฯสิงคโปร์วอนนานาชาติร่วมมือฝ่าวิกฤตโควิด-19
นายลีระบุว่า สิงคโปร์มุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรป และประเทศต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน รวมถึง องค์การอนามัยโลก (WHO), กลุ่มพันธมิตรด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือกับโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations) และองค์กรพันธมิตรโลกเพื่อพัฒนาวัคซีน (Global Alliance for Vaccine Initiative: Gavi)

"การพัฒนาวัคซีนอาจต้องอาศัยเวลา แต่การที่เราร่วมมือกันนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาวิกฤตนี้" นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวเสริม สำนักข่าวซินหัวรายงาน


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,073
ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก มากกว่า 10 ล้านคน

สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทะลุ 2.5 ล้านคน หลังจากรัฐฟลอริดามีผู้ติดเชื้อรวมในรอบวันเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่เว็บไซต์รวบรวมสถิติ COVID-19 ระบุว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งสูงทะลุ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันนี้ (28 มิ.ย.2563) เว็บไซต์เวิลด์โอมิเตอร์ (Worldometer) รายงานสถิติผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกแล้ว 10,075,115 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 500,626 คน ซึ่งประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล รัสเซีย อินเดีย และสหราชอาณาจักร

ขณะที่ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มสูงขึ้นทะลุ 2.5 ล้านคนแล้ว โดยสถิติที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ระบุว่า สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 2,500,419 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 125,000 คน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั่วโลก

สหรัฐฯ ติด COVID-19 เกิน 2.5 ล้านคน
โดยล่าสุดผู้ว่าการรัฐฟลอริดาต้องระงับแผนการเปิดเมือง และสั่งห้ามไม่ให้สถานบันเทิงขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว หลังจากรัฐฟลอริดาทำสถิติมีผู้ติดเชื้อในรอบวันสูงที่สุด 9,585 คน เมื่อวานนี้ หลังจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ทำให้ประชาชนจำนวนมากแห่ไปรวมตัวกันตามชายหาด ถนนคนเดินและสถานบันเทิงยามค่ำคืน ซึ่งฟลอริดาเป็นหนึ่งในจำนวนรัฐมากกว่าครึ่งของสหรัฐอเมริกาที่เผชิญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอีกระลอก หลังจากผ่อนคลายมาตรการเพื่อพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ขณะที่กลุ่มต่อต้านการสวมหน้ากากในฟลอริดา ระบุว่า ความพยายามของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ต้องการออกกฎบังคับให้สวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะ เป็นการบังคับใช้กฎของปีศาจ และการสวมหน้ากากกำลังฆ่าผู้คน ซึ่งทางการไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการหายใจของประชาชน และหน้ากากมีไว้สำหรับให้คนป่วยสวมใส่เท่านั้น

จาก:News.thaipbs.or.th
TRADE RIDER

*

PoNgPk

  • 6,073
(Jun 28) "ซักเคอร์เบิร์ก" สูญเงิน $7 พันล้าน หลังบริษัทชื่อดังนับร้อยมี "ยูนิลีเวอร์-โค้ก-ฮอนด้า- นอร์ทเฟซ-ไอศกรีมเบนแอนด์เจอร์รีย์ส" แห่ถอนโฆษณา : มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเฟซบุ๊ก ล่าสุดสูญเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นหลังบริษัทชื่อดังไม่ต่ำกว่า 100 แห่งรวม ยูนิลิเวอร์ โค้ก ฮอนด้า บริษัทให้บริการมือถือวาไรซัน (Variason) นอร์ทเฟซ และไอศกรีมเบนแอนด์เจอร์รีย์ส รวมตัวจับมือถอนโฆษณาออกจากเฟซบุ๊ก บอยคอตเฟซบุ๊กที่อนุญาตให้เนื้อหารุนแรงแสดงถึงความคิดแนวเกลียดชัง

ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเฟซบุ๊ก ซึ่งในเวลานี้มีความร่ำรวยอยู่เป็นอันดับ 4 ตามดัชนีวัดความมั่งคั่งที่มียอดความมั่งคั่งสุทธิที่ 82.3 พันล้าน ตามหลัง เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้านออนไลน์แอมะซอน พบว่าเขาได้สูญเสียเงินไปไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ในชั่วพริบตา จากการที่ธุรกิจกว่า 100 บริษัทที่มีธุรกิจชื่อดังเป็นที่รู้จักเป็นต้นว่า ยูนิลีเวอร์ โค้ก ฮอนด้า บริษัทให้บริการมือถือวาไรซัน (Variason) นอร์ทเฟซ และไอศกรีมเบนแอนด์เจอร์รีย์ส ต่างพร้อมใจแห่ถอนโฆษณาออกจากเฟซบุ๊ก ประท้วงที่เฟซบุ๊กมีเนื้อหาความรุนแรงและการแสดงความเกลียดชัง

โดยบริษัทชื่อดังเหล่านี้สนับสนุนแคมเปญ #StopHate4Profit หรือ "#หยุดความเกลี่ยดชังเพื่อผลกำไร" ที่มีกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีองค์กร ลีกต่อต้านการใส่ร้าย(Anti-Defamation League) และ NAACP เป็นผู้ออกมารณรงค์

ทั้งนี้มีหลายบริษัทได้ถอนโฆษณาออกจากทวิตเตอร์ด้วย

บริษัทไอศกรีมเบนแอนด์เจอร์รีย์ส ได้แถลงทางสาธารณะในวันพุธ (24) ว่า "เราได้หยุดลงโฆษณาทุกชิ้นที่จ่ายให้กับเฟซบุ๊กและอินสตราแกรมในสหรัฐฯ ในการสนับสนุนโครงการ "#หยุดความเกลี่ยดชังเพื่อผลกำไร" ทางเฟซบุ๊กต้องแสดงให้ปรากฏอย่างชัดเจนและเปิดเผยในการหยุดการแพร่กระจายและส่งเสริมการกีดกันทางเชื้อชาติและความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มของตัวเอง"

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า ผู้รณรงค์แคมเปญออกมากระตุ้นให้บริษัทธุรกิจชื่อดังในสหรัฐฯ ให้พร้อมใจถอนโฆษณาออกจากเฟซบุ๊กเป็นเพราะเชื่อว่า เฟซบุ๊กเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดของกลุ่มไวท์ซูพรีมาซีตส์ (supremacist) หรือกลุ่มชาตินิยมผิวขาวที่เป็นต้นตอปัญหาการกีดกันสีผิวในสหรัฐฯ แต่เฟซบุ๊กยังไม่ลงมือกระทำมากพอที่จะหยุดการแพร่กระจายข้อความแสดงความเกลียดชังเหล่านี้

เดลีเมล์ สื่ออังกฤษชี้ว่า บริษัทโคคา-โคล่า ผู้ผลิตน้ำดำเจ้าใหญ่ของโลกเป็นบริษัทรายล่าสุดที่เข้าร่วมการบอยคอตในวันศุกร์ (26) ทั้งนี้ บริษัทโค้กแถลงว่าจะสั่งถอนโฆษณาทั่วโลกที่จ่ายเงินออกจากเฟซบุ๊กเป็นเวลา 30 วันเป็นอย่างน้อย

โดยโคคา-โคล่ากล่าวว่า ไม่มีที่สำหรับลัทธิความเกลียดชังทางเชื้อชาติบนโลกโซเชียลมีเดีย ขณะที่บริษัท ยูนิลีเวอร์ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคในครัวเรือนที่ถือเป็นผู้ลงโฆษณาสินค้าเป็นอันดับ 1 ของโลกออกมายืนยันว่าจะถอนโฆษณาออกจากเฟซบุ๊กไปจนสิ้นปีนี้

ซักเคอร์เบิร์กที่เห็นหุ้นบริษัทเฟซบุ๊กของตัวเอง 8.3% ในวันศุกร์ (26) ลดไปถึง 56 พันล้านดอลลาร์จากมูลค่าทางการตลาดของบริษัทตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักต้องออกมาประกาศในวันเดียวกันนั้น (26) ถึงนโยบายใหม่เกี่ยวกับเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก

โดยเขากล่าวผ่านไลฟ์สตรีมว่าทางบริษัทจะเริ่มต้นจัดลำดับด้วยการติดป้ายเตือน "เนื้อหาอันตราย" จากนักการเมืองที่ยังคงมีชื่อเสียงในแวดวงข่าว

เดลีเมล์กล่าวว่าถึงแม้ว่า ซักเคอร์เบิร์กจะไม่เอ่ยว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมา แต่นโยบายออกมาเพื่อตอบสนองต่อแคมเปญที่เรียกร้องให้เฟซบุ๊กจัดการเพิ่มมาตรการเข้มงวดต่อ "ข้อมูลเท็จ" หรือ ข่าวปลอม ในโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการโพสต์เชิงยั่วยุของทรัมป์

แต่พบว่าทวิตเตอร์คู่แข่งได้ไปไกลกว่าโดยได้แปะป้ายคำเตือนต่อบางทวีตของประธานาธิบดีทรัมป์เรียบร้อยแล้ว

ซักเคอร์เบิร์กกล่าวว่า "เราในไม่ช้าจะติดป้ายเตือนบางเนื้อหาที่เรายังคงปล่อยให้ขึ้นเพราะมันยังดูมีคุณค่าในเชิงข่าวอยู่ ดังนั้นผู้คนจะสามารถรู้ว่ามันเป็นในกรณีนี้"

และเสริมต่อว่า "เราจะยังคงปล่อยให้ผู้คนสามารถแชร์เนื้อหาเพื่อที่จะได้ประณามมัน เหมือนกับที่เราได้ทำกับคอนเทนต์อื่นที่มีปัญหา เพราะนี่เป็นส่วนสำคัญของการที่เราจะถกเถียงถึงสิ่งใดบ้างที่จะเป็นที่ยอมรับในสังคมของเรา แต่เราจะเพิ่มคำเตือนเพื่อที่จะบอกให้ผู้คนรับรู้ว่าคอนเทนต์ที่พวกเขากำลังแชร์อยู่นั้นอาจละเมิดต่อนโยบายของเรา"

นอกจากนี้ ในไลฟ์สตรีม ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กยังประกาศการกวาดล้างการใช้ภาษาที่ส่อถึงความเกลียดชังในโฆษณา รวมไปถึงคำแนะนำต่อข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้ง

ด้าน เรชาด โรบินสัน (Rashad Robinson) ประธานกลุ่มสีแห่งการเปลี่ยนแปลง (Color of Change) ออกมาแสดงความผิดหวังในการแถลงของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โดยชี้ว่า แถลงการณ์ของซักเคอร์เบิร์กเป็นเวลา 11 นาทีนั้นได้สูญเสียโอกาสที่จะทำการเปลี่ยนแปลง

"ผมหวังว่าบริษัทที่ลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กจะได้ดู หากพวกเขาต้องการจ่ายเงินในที่พวกเขาได้แสดงถึงความยุติธรรมทางเชื้อชาติแล้ว ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ "#หยุดความเกลียดชังเพื่อผลกำไร" โรบินสันกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์

เดลีเมล์รายงานว่า  ยูนิลีเวอร์ ได้กระโดดเข้าร่วมวงบอยคอยต้นสัปดาห์นี้ที่ทำให้เฟซบุ๊กกระเทือนเกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของ "จอร์จ ฟลอยด์" และทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ ร่วมมือผลักดัน #StopHate4Profit ให้เกิดขึ้น

ยูนิลีเวอร์มีงบการโฆษณาประจำปีทั่วโลกเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ และในวันพฤหัสบดี (25) บริษัทผู้ให้บริการมือถือยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ วาไรซัน เข้าร่วมบอยคอต

Source: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/around/detail/9630000066402

- Mark Zuckerberg loses $7 billion as companies drop ads

https://www.foxbusiness.com/money/mark-zuckerberg-loses-7-billion-as-advertisers-drop
TRADE RIDER

*

admin

  • 80,416
สวัสดี ตอนเช้า วันจันทร์ ครับผม

พี่ทอง ดีด ไป 1775 แต่ ยังไม่ New high น้อง EU ก็ยังไม่ลง
**Hea** **Hea** **Hea**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

อรุณสวัสดิ์ค่ะ...แอดมินและทุกท่าน.. **Hea** **Hea**
วันศุกร์มาทางไหน..ก็ไปทางนั้นต่อไปในวันจันทร์... xc8* xc8*
2 อย่าง ที่เป็นปัญหา..จะหาข้อมูล ถาม หรือปรึกษาใครก็ไม่ได้ ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง
" ความโลภ ได้ตามที่ควรจะได้แล้วไม่พอ "
" OVT โอเวอร์เทรดตลอด "
แก้ไขได้เมื่อไหร่ พอร์ตจะใหญ่ กำไรจะอยู่นาน..

*

admin

  • 80,416
อ้างจาก: Lil Mayfly ที่ 29, มิถุนายน  2020, 06:09:42 AM
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...แอดมินและทุกท่าน.. **Hea** **Hea**
วันศุกร์มาทางไหน..ก็ไปทางนั้นต่อไปในวันจันทร์... xc8* xc8*

สวัสดีครับผม ทุบ EU ต่อไม่รอแล้วนะ

g*/- g*/- g*/-
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

Knock59

  • 1,034
หวัดดีครับทุกท่าน โชคดีมีตังกัน  Pigig

*

admin

  • 80,416
อ้างจาก: Knock59 ที่ 29, มิถุนายน  2020, 08:05:32 AM
หวัดดีครับทุกท่าน โชคดีมีตังกัน  Pigig

สวัสดี ตอนเช้า ครับผม
TKo*) TKo*)
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"

*

admin

  • 80,416
บินแต่เช้าเลย วุ้ย
  pig 1** pig 1**
"เอาชนะใจตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปเอาชนะตลาด"