เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีที่สหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศว่าเตรียมที่จะทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ ภายหลังจากที่ทำเนียบขาวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ออกมากล่าวหารัสเซียและจีนว่า ลักลอบทดสอบ "อาวุธปรมาณูที่มีอำนาจทำลายล้างระดับต่ำ" ซึ่งทั้งสองประเทศได้อออกมาปฏิเสธ ขณะที่สหรัฐฯ เองก็ยังไม่แสดงหลักฐานว่าทั้งรัสเซียและจีนทดสอบอาวุธที่ว่านี้เมื่อใด
.
เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐฯ เป็นสื่อแรกที่เผยแพร่ข้อมูลในเรื่องนี้ โดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯ คนหนึ่ง และอดีตเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ว่า ขณะนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงจากหน่วยงานหลายแห่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณา "ความเป็นไปได้" ในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์
.
โดยสหรัฐฯ ต้องการทดสอบ "แบบสายฟ้าแลบ" เพื่อเป็นการ "สร้างแต้มต่อ" ในการดึงรัสเซียและจีนให้เข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่แบบไตรภาคี ที่ปธน.ทรัมป์ต้องการให้เกิดขึ้นแทนความร่วมมือระดับทวิภาคีกับรัฐบาลมอสโก ตามกรอบของสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF) ซึ่งทั้งสองประเทศได้เคยลงนามร่วมกันไปเมื่อช่วงปลายสงครามเย็น ในปี 2530 แต่ต่อมาได้มีการยุติอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนส.ค. ปีที่แล้ว โดยสหรัฐฯ เป็นฝ่ายยกเลิกก่อน
.
อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารืออีกหรือไม่ แต่ที่ประชุมได้ตัดสินใจใช้มาตรการอื่นๆ เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เกิดจากรัสเซียและจีนก่อน
.
รายงานข่าวดังกล่าว ยังสอดคล้องกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะถอนตัวจากสนธิสัญญาเปิดน่านฟ้ากับรัสเซีย ซึ่งเป็นการให้สิทธิการสอดแนมในพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามเพื่อความโปร่งใส เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวกันว่า รัสเซียละเมิดเงื่อนไขมานานหลายปีแล้ว เช่น การไม่อนุญาตให้สหรัฐบินเหนือชายแดนรัสเซีย-จอร์เจีย และแคว้นคาลินินกราด ดินแดนแทรกริมทะเลบอลติกของรัสเซีย ที่เพนตากอนเชื่อว่ารัสเซียวางกำลังอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางไว้
.
นักวิเคราะห์กังวลว่า อาจยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกันด้านแสนยานุภาพนิวเคลียร์ในบรรดาชาติมหาอำนาจ ทั้งยังจะทำให้การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือเผชิญความยากลำบากมากขึ้น
.
"มันจะเป็นการเชิญชวนให้ประเทศติดอาวุธนิวเคลียร์อื่น ๆ ตาม เป็นการจุดประกายเริ่มต้นสำหรับการแข่งขันอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน" ดาริล คิมบอลล์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมควบคุมอาวุธ กล่าว
.
ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีที่สหรัฐฯ มีแนวคิดรื้อฟื้นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และเป็นการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ของสหรัฐ โดยการทดสอบครั้งล่าสุดภายใต้รหัสปฏิบัติการ "ดิไวเดอร์" (Divider) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2535 โดยเป็นการทดสอบใต้ดินที่รัฐเนวาดา และระเบิดที่ทดสอบมีอานุภาพทำลายล้าง 20 กิโลตัน
.
ส่วนการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกของสหรัฐฯ คือภารกิจ "ทรินิตี" (Trinity) เกิดขึ้นที่ศูนย์ทดสอบทรินิตี ในรัฐนิวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2488 โดยระเบิดที่ทดสอบมีอานุภาพทำลายล้าง 22 กิโลตัน
SOURCE :
https://www.washingtonpost.com/national-security/trump-administration-discussed-conducting-first-us-nuclear-test-in-decades/2020/05/22/a805c904-9c5b-11ea-b60c-3be060a4f8e1_story.html___________________________________
• Urban News • Lifestyle Ideas • Creative Culture • Better Journey •
ติดตามอ่านเรื่องราวข่าวสารอื่นๆ ของคนกรุง ได้ที่
https://thebangkoktimes.co/